"เอาเถอะๆ อีกเดี๋ยวต้องไปเรียนแล้ว เธอดูหล่อนสิ ใบ้กินขนาดนั้น ไม่น่าสนุกหรอก ไปกันเถอะ" นักโทษคนหนึ่งยืนอยู่ข้างฟ่านยวี่เหมยดูสนุก มองถังรั่วอิงที่ไม่พูดไม่จา แค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็เสียอารมณ์ทันที เดินเข้าไปพร้อมขมวดคิ้ว เหลือบมองถังรั่วอิงอย่างไม่สบอารมณ์ แต่อีกคนก็ดึงแขนเสื้อของนักโทษหญิงผมสั้นและบอกไม่ให้เธอก่อเรื่อง
อีกไม่กี่ปีพวกเธอก็จะได้ออกไปแล้ว ไม่เหมือนกันถังรั่วอิง เพราะงั้นจะมาก่อเรื่องช่วงนี้ไม่ได้
นักโทษหญิงผมสั้นถูกดึงออกไป พวกฟ่านยวี่เหมยทั้งสามก็ออกจากห้องไปเรียนหนังสือ ถังรั่วอิงลุกขึ้นยืนช้าๆ ก่อนจะหันหลังพิงกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองมองไปยังทางที่พวกนั้นจากไป
การกลั่นแกล้งที่เธอได้รับจากที่นี่ เธอจะค่อยๆ เอาคืนใก้สองเท่า!
"ถังรั่วอิง"
ตำรวจเปิดประตูเรือนจำก่อนจะเรียกผู้หญิงที่อยู่ด้านใน "มีคนมาหาเธอน่ะ มากับฉันสิ"
มาหาเธอ?
ถังรั่วอิงงุนงงเล็กน้อย เธอเป็นแบบนี้แล้ว พูดได้ว่าเป็นการทรยศพวกพ้อง จะมีใครจะมาหาเธออีก?
แต่หลังจากคิดแบบนั้น เธอก็ยังเดินตามตำรวจออกไปและไปที่ห้องเยี่ยม ผมคือเห็นสวีหว่านเอ๋อร์ยืนอยู่ในห้องอีกด้านของกระจก
ถังรั่วอิงหรี่ตาก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย
สวีหว่านเอ๋อร์ผู้หญิงคนนี้ เธอคุ้นเคยดี
"คุณสวี ถังรั่วอิงมาแล้วครับ" หลังจากที่ตำรวจคุยกับสวีหว่านเอ๋อร์เสร็จ เจ้าตัวก็หันหลังกลับ เห็นถังรั่วอิงในชุดเสื้อกั๊กสีส้มก็ยิ้มบาง แต่ความเย่อหยิ่งในสายตายังเหมือนเมื่อก่อน ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
เธอนั่งตรงข้ามกับถังรั่วอิง ก่อนจะหยิบเครื่องรับสายบนโต๊ะแล้วมองไปยังหญิงที่หน้าซีด
"ไม่เจอกันนานเลยนะ"
"ก็นานจริง ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงว่าเธอจะมาหาฉัน" ถังรั่วอิงแค่นเสียงก่อนจะแสยะยิ้ม เธอไม่คิดว่าสวีหว่านเอ๋อร์จะใจดีมาเยี่ยมเธออย่างบริสุทธิ์ใจ
สวีหว่านเอ๋อร์ไม่ได้แสดงออกอะไรมากนัก ถังรั่วอิงอาจเป็นแค่ตุ๊กตาบังคับตลอดชีวิต จนสามารถมองทะลุได้อย่างง่ายดาย
"อย่าเป็นแบบนี้สิคะ...บางทีฉันอาจช่วยเธอได้ ฉันรู้ว่าเธออยากออกไป ฉันสามารถช่วยขอให้ตำรวจปล่อยเธอออกไปได้นะ เห็นเธอเป็นแบบนี้คงไม่ได้ใช้ชีวิตในคุกดีเท่าไรสินะ?"
เมื่อได้ยินคำว่า "ออกไป" ตาของถังรั่วอิงก็สว่างไสวขึ้นทันที พระเจ้ารู้ว่าตั้งแต่เธออยู่ในคุก เธออยากหนีออกไปตลอดเวลา ไปหาฮ่อหยุนเฉิง ไปบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหน
แต่ก่อนหน้านั้น เธอไม่เคยคิดเลยว่าคนที่จะมาบอกว่าจะช่วยเธอดันเป็นสวีหว่านเอ๋อร์
หล่อนจะช่วยเธอ?
ถังรั่วอิงตื่นตัวในทันที นิ้วของเธอบีบไมโครโฟนโดยไม่รู้ตัว "เธอเนี่ยนะจะช่วยฉัน? เธอใจดีขนาดนั้นเลยหรือไง?"
"อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ฉันก็จิตใจดีอยู่นะ" ใบหน้าของสวีหว่านเอ๋อร์ยังคงเหมือนเดิม "นอกจากนี้ฉันรู้ด้วยว่าเธอต้องการอะไร นอกจากความสัมพันธ์กับฮ่อหยุนเฉิงแล้ว เรามีศัตรูร่วมกัน ศัตรูของศัตรูก็คือมิตรไม่ใช่หรือไง?"
ประโยคนี้โดนใจถังรั่วอิงอย่างไม่ต้องสงสัย ใช่ พวกเขาไม่ชอบซูฉิง และถือว่าเธอเป็นเหมือนหนามยอกใจ
"แล้วเธอต้องการอะไร?" ถังรั่วอิงนิ่งไปสักพัก ก่อนจะจ้องสวีหว่านเอ๋อร์ด้วยความปรารถนาอย่างไม่ปิดบัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น