ทันใดนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็แสดงแววตาที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจออกมา ใบหน้าคมของเขาพลันเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่พนักงานในบริษัทของตระกูลฮ่อกรุ๊ปไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน ฝ่ามือกว้างตวัดเข้ารัดรอบเอวของซูฉิงจนร่างทั้งสองแนบชิดติดกัน
"ใครๆต่างก็รู้ว่าคำพูดคำจาไม่ปกติพวกนี้ฉันใช้มันพูดกับเธอเท่านั้น เพราะคำพูดหวานๆฉันก็ต้องเก็บไปพูดกับภรรยาของฉันเท่านั้น ถ้าฉันไม่พูดกับภรรยาของฉันเธอคิดว่าฉันจะไปพูดกับใครได้อีก?"
ไม่ใช่ว่าซูฉิงไม่เคยเห็นฮ่อหยุนเฉิงในบริบทที่อบอุ่นแบบนี้ แต่บางทีเธอก็คิดว่าบรรยากาศมันค่อนข้างอบอุ่นและดูคลุมเครืออยู่ในที เธอพยายามผ่อนคลายความเกร็งลงอย่างช้าๆ ฝ่ามือบางยื่นมือออกมาจากผ้าห่มแล้วโอบแขนเข้ากับรอบคอของฮ่อหยุนเฉิงและค่อยๆดึงร่างของชายตรงหน้าให้เข้ามาแนบชิดเธออีกเล็กน้อย ซูฉิงเผยรอยยิ้มกว้างและแนบริมฝีปากไปหยุดอยู่บริเวณใบหูของฮ่อหยุนเฉิง และพูดออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา "หยุนเฉิง คุณเป็นคนใจดีมาก"
ฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้ตอบกลับอะไรอีกฝ่าย ดวงตาคมของฮ่อหยุนเฉิงนิ่งขรึมลงแต่หัวใจของเขาก็ลุกเป็นไฟราวกับว่าเขากำลังถูกหญิงสาวตรงหน้ารุกจีบอยู่ไม่ปาน เขาเอื้อมมือไปจับใบหน้าของซูฉิงจ้องมองไปยังใบหน้าสวยนั้น แล้วจึงก้มหน้าลงไปประทับจูบอย่างอ่อนโยน เขาประกบจูบหญิงสาวตรงหน้าอยู่นานราวกับว่าเขาต้องการจะกลืนกินเธอให้หมดทั้งตัว
และในขณะเดียวกันมือที่ไม่อยู่นิ่งและซุกอยู่ใต้ผ้าห่มหนาของฮ่อหยุนเฉิงก็เริ่มออกปฎิบัติการ ชายหนุ่มค่อยบรรจงประทับรอยรักสีชมพูไว้บนบริเวณลำคอและไหปลาร้าของหญิงสาวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
เมื่อบรรยากาศคลุมเครือและชวนให้เผลอไผลมันกำลังเกิดขึ้น ซูฉิงก็พยายามดึงสติของเธอกลับมาทันที เธอเป็นคนมีหลักการและข้อยึดปฎิบัติที่เธอไม่อาจฝ่าฝืนได้ หญิงสาวมีกฎเหล็กที่ร่างไว้คือเธอจะไม่มอบตัวให้อีกฝ่ายก่อนการแต่งงาน แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นฮ่อหยุนเฉิงคนที่เธอชอบมากก็ตาม
"ไม่ได้!"
ก่อนที่ฮ่อหยุนเฉิงจะก้าวไปสู่ขั้นตอนถัดไป ซูฉิงรีบยื่นมือของเธอออกมาและดันเข้าไปที่หน้าอกของเขาเพื่อยับยั้งอีกฝ่าย "หยุนเฉิง...นายสัญญากับฉันแล้วว่าเราจะรอจนกว่าเราจะแต่งงานกัน นายทำได้ใช่ไหม?"
"……"
ฮ่อหยุนเฉิงถอนหายใจออกมาอย่างแรง เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังพุ่งทะยานให้กลับมาเป็นปกติ
ซูฉิงกำลังจะทำให้เขาคลั่งแทบบ้า
แต่หลังจากที่ได้เห็นดวงตารู้สึกผิดของหญิงสาวแล้ว เขาก็ไม่สามารถบังคับเธอได้และสุดท้ายเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบตกลงเธอไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับกฎเหล็กของซูฉิงแต่เขาจะทำอย่างไรได้? ภรรยาของใครใครก็ต้องรักใครก็ต้องอย่างจะตามใจ ซึ่งเขาเองก็เช่นกัน
"ก็ได้" เขาหายใจออกอีกหลายเฮือกใหญ่ถึงแม้ว่าน้ำเสียงที่ตอบรับของเขาจะอ่อนโยน แต่เขาก็ยังคงต้องระงับอารมณ์บางอย่างและกดมันกลับลงไปให้ลึกที่สุด ฮ่อหยุนเฉิงเอื้อมมือไปเกาปลายจมูกของซูฉิงเบาๆ
"เธอกำลังจะทำให้ฉันคลั่งตาย เอาล่ะ เธอไปนอนก่อนแล้วกัน ฉันขอออกไปข้างนอกแปปนึง"
ใบหน้าและลำคอของซูฉิงแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย เธอพยักหน้าเบาๆ และหันหลังกลับไป ร่างสวยห่อร่างตัวเองเข้าไปในผ้าห่ม เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงประตูถูกเปิดออกและปิดลง เธอก็พลันปิดเปลือกตาแน่นแต่มุมปากของเธอกลับกระตุกยิ้มน้อยๆอันแสนหวานออกมา
……
"การสัมภาษณ์ในวันนี้จบลงเพียงเท่านี้ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้า"
หลังจากเดินออกจากห้องถ่ายทอดสด หลิวเสี่ยวหนิงก็เอนตัวนอนลงบนโซฟาพลางบิดขี้เกียจและลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ตั้งแต่เธอได้ร่วมงานกับเฉินจุนเหยียน ความนิยมของเธอในแวดวงบันเทิงของเธอก็เพิ่มสูงขึ้นมาก ผู้จัดการส่วนตัวจึงถือโอกาสนี้ในการโปรโมทเธอไปในตัว ในแต่ละวันเธอจะต้องไปร่วมสัมภาษณ์ในหลายๆรายการและหลายๆช่องทางถ่ายทอดสด
"เหนื่อยมากสินะ" ผู้จัดการส่วนตัวยื่นขวดน้ำให้เธอเพื่อดื่มคลายความเหนื่อยล้า
"มันเหนื่อยจริงๆแหละ!" หลิวเสี่ยวหนิงนอนขี้เกียจอยู่บนโซฟา เธอเอนตัวยาวและปล่อยให้กระดูกส่วนเอวของเธอผ่อนคลายลงจากการนั่งสัมภาษณ์เป็นเวลานาน "ครั้งต่อไปฉันสามารถถ่ายทอดสดทานอาหารได้ไหม?"
"ถ่ายทอดสดทานอาหาร? คุณอยากกินอะไรล่ะ?" ผู้จัดการเหลือบมองหลิวเสี่ยวหนิงอย่างพยายามเก็บข้อมูลจากอีกฝ่าย
"กินอะไรก็ได้หรือเตรียมชานมให้ฉันสักแก้วก็ได้" หลิวเสี่ยวหนิงคิดในใจ แต่การแสดงออกบนใบหน้าของเธอกำลังเผยให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอยากทำอะไร จึงทำให้ผู้จัดการทื่ยืนอยู่ข้างๆยกนิ้วขึ้นมาจิ้มศีรษะเธอไปหนึ่งที
"คุณไม่รู้หรือว่าชานมนั้นถูกขนานนามว่าเป็นนักฆ่าดาราหญิง และคุณลืมไปแล้วเหรอว่าคุณต้องควบคุมน้ำหนักตัวเอง ฉันรู้สึกว่าการถ่ายแบบลงหน้าปกนิตยสารครั้งล่าสุดของคุณ ดูเหมือนว่าคุณจะอ้วนขึ้นนิดหน่อย"
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลิวเสี่ยวหนิงที่กำลังรอลบเครื่องสำอางก็ยืดเอวของเธอขึ้นและรีบโต้กลับทันทีว่า "ฉันไม่อ้วนนะ ฉันไม่รู้ว่ากล้องมันสามารถทำให้ฉันดูอ้วนขึ้นหรือเปล่า? ฉันสวยและดูดีในทุกๆวันต่างหากล่ะ"
"ฉันก็ไม่รู้นะเหมือนกันนะว่าผู้หญิงคนไหนที่ออกปากบ่นถึงคอมเมนต์ไม่กี่วันก่อนว่าเธออ้วนขึ้นจนไม่เป็นอันทำอะไร"
ผู้จัดการสาวเอ่ยปปากพูดอย่างติดตลก แต่กลับทำให้หลิวเสี่ยวหนิงที่ฟังอยู่มีอาการงอแงขึ้นมาทันที
ระหว่างที่หลิวเสี่ยวหนิงกำลังนั่งรถกลับ จู่ๆผู้จัดการก็เอ่ยแจ้งกัลหลิวเสี่ยวหนิงว่าเธอต้องรับถ่ายแบบโฆษณาในอีกไม่กี่วัน
"กลับถึงห้องก็อย่านอนดึกล่ะ แล้วก็อย่าลืมบำรุงผิวด้วย"
"ฉันต้องไปถ่ายโฆษณาอะไร? โฆษณาเกี่ยวกับเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว?" หลิวเสี่ยวหนิงถามขึ้นด้วยความสงสัย
"โฆษณาแชมพูสระผม" ผู้จัดการสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่ง
"แชมพูสระผม?" หลิวเสี่ยวหนิงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงคว้าผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกย้อมไว้จากการถ่ายแบบหน้าปกนิตยสารเมื่อสองสามวันก่อน เธอเงียบลงไปครู่หนึ่งและใช้ความคิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น