หลังจากทำการรักษาพักฟื้นร่างกายดีแล้ว ตอนนี้อาการของหลิวเสี่ยวหนิงก็ดีมากขึ้นไม่น้อย ชีวิตการทำงานก็กลับมาปกติแล้ว
"อืม ไม่เป็นไรแล้ว"หลิวเสี่ยวหนิงคุยโทรศัพท์พูดตอบปลายสายเสียงเบา
"โอเค จะต้องพักผ่อนนะ มีเรื่องอะไรก็ติดต่อโทรหาฉันได้"เสียงของจินจิ่นหรานที่ดังมาตามสาย
"หลายวันมานี้ต้องขอบคุณนายนะ ที่คอยอยู่เป็นเพื่อนฉัน "พอพูดมาถึงตอนนี้หลิวเสี่ยวหนิงก็นึกขึ้นมาได้ว่าจินจิ่นหรานได้ช่วยเหลือตัวเองเยอะมาก
ทั้งสองคุยกันไปเรื่อย ทางฝั่งของจินจิ่นหรานมีคนไข้ทำให้ต้องวางสาย
"คุณหมอจินอีกแล้วหรอ"ผู้จัดการเอ่ยถาม
"เอ่อ ใช่แล้ว หลายวันมานี้เขาช่วยเหลือฉันตั้งเยอะ ฉันก็ต้องขอบคุณเขา"หลิวเสี่ยวหนิงตอบเสียงเบา
"ฉันคิดว่าหมอจินคนนี้มีอะไรพิเศษนะ "ผู้จัดการยิ้มกระหยิ่มเริ่มเม้ามอย
"หมอจินเป็นอะไรหรอ "หลิวเหสี่ยวหนิงรีบก้มดูข้อความที่ซูฉิงส่งมา ไม่ได้ฟังผู้จัดการพูดชัดเจน
พอลงจากรถ ผู้จัดการก็ยิ้มส่ายหน้า:"ไม่มีอะไร ถึงบริษัทแล้ว"
"แปลกจัง"หลิวเสี่ยวหนิงพึมพำกับตัวเองพร้อมกับเดินลงจากรถตู้
ข้างนอกแสงแดดแรงมากจนทำให้หลิวเสี่ยวหนิงลืมตาไม่ขึ้น เธอเลยยกมือขึ้นมาบังแดด แล้วรู้สึกแปลกขึ้นมา
"อย่าคิดมากหลิวเสี่ยวหนิง ตั้งใจทำงานเถอะ"หลังจากตั้งสติได้แล้ว หลิวเสี่ยวหนิงตบหน้าตัวเองเบาๆ แล้วเดินเข้าไปในบริษัท
แต่วินาทีต่อมา หลิวเสี่ยวหนิงที่กำลังตั้งใจทำงานก็เริ่มคิดมาก
ไม่ใช่เพราะอะไรเลย เพียงเพราะว่าตอนที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดก็มีมือของใครเข้ามาขวางไว้
และก็เห็นเป็นเฉินจุนเหยียนที่เดินเข้ามา หลิวเสี่ยวหนิงถึงกับอึ้ง
"ขอโทษด้วยนะ "เฉินจุนเหยียนยิ้มให้แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับหลิวเสี่ยวหนิง ยิ้มให้เธอพร้อมกับพูด"บังเอิญจังเลยนะ"
"ห๊า รุ่นพี่เฉิน..........บังเอิญจัง"
หลิวเสี่ยวหนิงพยักหน้า คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับเฉินจุนเหยียนที่ลิฟต์ และนึกถึงตัวเองที่วันนี้แต่งตัวไม่ค่อยเหมาะสม เหมือนรีบออกมาจากบ้าน หน้าก็ไม่ได้แต่งเลย
"หลายวันมานี้ไม่เห็นเธอที่บริษัทเลย ผู้จัดการของเธอบอกว่าเธอหยุดพักผ่อนหรอ"เฉินจุนเหยียนหันไปมองหลิวเสี่ยวหนิงแล้วเอ่ยถาม
นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หลิวเสี่ยวหนิงก็เหลือบตาลง :"เอ่อ.......มีธุระนิดหน่อย.....เลยหยุดพักไปหลายวันค่ะ"
ถ้าหากเฉินจุนเหยียนรู้เรื่องนั้นขึ้นมาจะคิดยังไงนะ
ภายในลิฟต์ก็เกิดความเงียบขึ้นมา หลิวเสี่ยวหนิงมองลิฟต์ที่เลื่อยขึ้นไปทีละชั้น ในใจก็มีความลังเลว่าจะพูดอะไรลิฟต์ก็หยุดเสียก่อน
ทันใดนั้นพนักงานก็เข้ามาในลิฟต์ แม้แต่อุปกรณ์ถ่ายต่างๆ ก็เอาเข้ามาด้วยทำให้ลิฟต์แน่น
จนทำให้หลิวเสี่ยวหนิงขยับตัวเข้าไปติดกับเฉินจุนเหยียน
ทั้งสองที่อยู่ในระยะประชิด ตัวของหลิวเสี่ยวหนิงแข็งทื่อแม้แต่หายใจออกมาก็ยังหายใจออกมาเบาๆ
เธอกัดริมฝีปากเบาๆ แล้วก็ก้มมองเท้าตัวเอง
ความคิดเพ้อฝันเกิดขึ้นมาในหัว หลิวเสี่ยวหนิงอยากจะให้เวลาหยุดอยู่ตรงหนี้จริงๆ
เหมือนว่าจะมีแค่อย่างนี้เธอถึงจะได้ใกล้ชิดกับเฉินจุนเหยียน
พอคิดได้อย่างนี้หลิวเสี่ยวหนิงก็ค่อยๆ หันไปมองหน้าของเฉินจุนเหยียน
เหมือนว่าสัมผัสได้ถึงสายตาของหลิวเสี่ยวหนิงที่มองไป เฉินจุนเหยียนเลยหันมามองเธอ
ทันใดนั้น หน้าของหลิวเสี่ยวหนิงก็แดงระเรื่อขึ้นมา ร้อนตัวจนหันไปอีกทาง แล้วแอบก่นด่าตัวเองไม่มีเสียง
น่าเสียดายที่ตอนที่หลิวเสี่ยวหนิงกำลังคิดอะไรอยู่นั้น ลิฟต์ก็มาถึงชั้นพอดี หลิวเสี่ยวหนิงถอนหายใจโล่ง แต่ในใจยังรู้สึกเสียดาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น