หลิวเสี่ยวหนิงพยายามพยุงตัวลุกขึ้น มองเห็นผู้จัดการของตัวเองที่วางสายแล้วแต่ก็ยังมีสายโทรเข้ามาอีกหลายสาย ก็อดที่จะพูดขอโทษไม่ได้:"พี่เฉิน ขอโทษด้วยนะคะ ต้องโทษฉันไม่ดีเอง ทำให้พี่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน ฉันจำได้ว่าเหมือนพี่จะยังไม่งานอยู่ไม่น้อย ฉันไม่เป็นไรแล้ว อยากทำให้ฉันต้องเป็นตัวถ่วงงานของพี่เลย"
"ไม่เป็นไร ฉันได้ขอลากับบริษัทแล้ว "ผู้จัดการยิ้มพูด แต่ว่าโทรศัพท์กับไม่ไว้หน้าเธอเลยดังขึ้นมาต่อหน้า
เห็นผู้จัดการที่จะกดวางสายแล้ว หลิวเสี่ยวหนิงก็รีบพูดห้าม:"ฉันไม่เป็นไรแล้ว พี่รีบไปทำงานเถอะ อย่าเสียเวลาเลย และจินจิ่นหรานก็อยู่ที่นี่ และเขาก็เป็นหมอ"
ดูท่าหลิวเสี่ยวหนิงกับจินจิ่นหรานจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ผู้จัดการก็ไม่พูดอะไร กำชับหลิวเสี่ยวหนิงแล้วก็เดินออกไป
จินจิ่นหรานมองดูปลอดวัดไข้ที่วัดให้กับหลิวเสี่ยวหนิง พอแน่ใจแล้วว่าเธอไข้ลดแล้วถึงได้พับแขนเสื้อขึ้น:"เดี๋ยวฉันทำอะไรให้เธอกินสักหน่อย เธอจะได้มีแรง"
"ไม่ต้อง รบกวนเปล่าๆ "หลิวเสี่ยวหนิงรู้สึกเกรงใจ เลยพูดห้ามเขาไว้
"เธอเป็นคนป่วย ฉันดูแลเธอก็สมควรแล้ว อีกทั้งแม้ฉันจะไม่ใช่หมอ........"จินจิ่นหรานหยุดพูดแล้วหันไปจ้องตาหลิวเสี่ยวหนิง พูดเสียงขรึมว่า
"ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อน ก็เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ"
"ขอบคุณนายมากนะ"หลิวเสี่ยวหนิงยกยิ้ม เหมือนเธอจะจะอึ้ง ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
หลังจากกินอาหารง่ายๆ แล้ว หลิวเสี่ยวหนิงก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้ว เธอพ่นลมหายใจออกมา แต่คิ้วก็ขมวดไม่คลาย
ที่จริงแล้วจินจิ่นหรานก็สังเกตหลิวเสี่ยหนิง ว่าเธอยังมีท่าทีตื่นกลัวอยู่
จินจิ่นหรานรู้อยู่แก่ใจดีว่าตอนนี้หลิวเสี่ยวหนิงยังตื่นกลัวอยู่ แต่เขาก็ไม่แสดงออกมา แต่คอยอยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ
เพียงไม่นาน จินจิ่นหรานก็ได้ยินหลิวเสี่ยงหนิงบอกว่าจะไปพบหมอจิตแพทย์ เขาก็รีบพาหลินเสี่ยวหนิงไป
"เสี่ยวหนิง เธอไม่ต้องกังวลนะ ทำใจให้สบาย ไม่ต้องคิดเรื่องที่ไม่มีความสุข "จินจิ่นหรานที่ทั้งขับรถและทั้งไม่ลืมพูดปลอบหลิวเสี่ยวหนิง
"อืม" หลิวเสี่ยวหนิงคิดแล้วพยักหน้า
..............
วิลล่าตระกูลสวี
"นายว่าอะไรนะ"
สวีหว่านเอ๋อร์มองคนที่อยู่ตรงหน้า คิ้วขมวด
คนพวกนี้หล่อนให้ไปจับตัวหลิวเสี่ยวหนิง ผลปรากฏว่าตอนนี้กลับหน้าช้ำดำเขียวมาหาเธอ
"คุณหนูสวี คนพวกเราจับตัวคนมาได้แล้ว แต่ใครจะรู้ว่าจะมีคนพวกนั้นเข้ามา พวกลูกน้องของเราก็หนีแตกกระเจิง ไม่งั้นก็คงเอาชีวิตไม่รอด"
คนที่เป็นหัวหน้าหุ่นร่างบึกบึนที่พูดไม่ค่อยถนัด
เดิมทีนั้นคิดว่างานนี้ง่ายมาก
แต่ใครจะรู้ว่าจะเจอกับความยุ่งยากขนาดนี้
แต่ว่าเพราะเหตุนี้ พวกเขาถึงได้มีความกล้ากลับมาเอาเงินกับสวีหว่านเอ๋อร์มากกว่าเดิม
"คนพวกนั้น........."สวีหว่านเอ๋อร์พูดพึมพำคนเดียว แต่ในใจก็พอจะเดาออกแล้ว
สามารถตามหาหลิวเสี่ยวหนิงได้ทันเวลาอย่างนี้จะต้องเป็นฮ่อหยุนเฉิงแน่
มือของสวีหว่านเอ๋อร์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็กำหมัดแน่น เธอไม่รู้ว่าซูฉิงใส่อะไรเข้าไปให้ฮ่อหยุนเฉิงกิน ถึงได้หลงขนาดนี้ ทำให้เขายอมตามเพื่อจะช่วยเหลือเธอ!
"คุณหนูสวี........"เห็นสวีหว่านเอ๋อร์ไม่พูด พวกนักเลงก็ผลักให้คนเป็นหัวหน้าเอ่ยพูด
"มีเรื่องอะไรอีก"สวีหว่านเอ๋อร์ที่ตอนนี้โมโหมาก เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"คุณหนูสวี พวกเราได้รับบาดเจ็บสาหัส เงินที่คุณให้เรามาก่อนหน้านี้ไม่พอที่จะให้พวกเราไปรักษา "คนเป็นหัวหน้าอ้ำๆ อึ้งๆ พูดขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น