หญิงสาวปิดเปลือกตารอการสัมผัสลงบนแก้เป็นเวลานานแต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งใด ขณะที่หลิวเสี่ยวหนิงกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความสงสัยก็ได้ยินเสียงหัวเราะของจินจิ่นหรานดังแว่วมาข้างๆใบหูของเธอ
หลิวเสี่ยวหนิงลืมตาขึ้นด้วยความมึนงง และสิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือรอยยิ้มอันอบอุ่นของจินจิ่นหราน
“คุณหัวเราะอะไร!” หลิวเสี่ยวหนิงรู้สึกเขินเล็กน้อยและจึงแกล้งหันหน้าไปทางอื่น “คุณอย่าคิดว่าจะได้จูบฉันอีกต่อไป”
“เมื่อกี้คุณพูดปฏิเสธเพราะคิดว่าฉันจะจูบคุณเหรอ?” จินจิ่นหรานเอ่ยถามขึ้นเมื่อพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ออกพลางลอบมองไปยังหลิวเสี่ยวหนิง
“ฉันไม่รู้” เมื่อหลิวเสี่ยวหนิงได้ยินน้ำเสียงทะเล้นของคนข้างกาย เธอก็รู้สึกเหมือนถูกอีกฝ่ายหลอกและรู้สึกโกรธเล็กน้อยในใจ
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้คุณ ใครจะไปคิดว่าคุณจะเอ่ยปากปฏิเสธออกมาได้” เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าจินจิ่นหรานก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และจึงเอื้อมมือไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้หลิวเสี่ยวหนิง
“เข็ม... เข็มขัดนิรภัย?” หลิวเสี่ยวหนิงรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที ใบหน้าของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ
"ทำไมคุณน่ารักขนาดนี้เนี่ย?"
จินจิ่นหรานโน้มตัวเข้ามาใกล้หญิงสาวอีกเล็กน้อย พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่เบามากๆ แต่น้ำเสียงนุ่มทุ่มนั้นกลับฝังลึกเข้าไปในใบหูของหลิวเสี่ยวหนิงราวกับอีกฝ่ายกำลังร่ายมนต์สะกดเธอไว้ “ฉันขอจูบคุณตอนนี้ได้ไหม?”
หลิวเสี่ยวหนิงรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นในทันที เธอทำได้เพียงจ้องเข้าไปในดวงตาของจินจิ่นหรานด้วยความว่างเปล่า เธอมองเห็นภาพสะท้อนร่างของตนเองจากรูม่านตาของชายตรงหน้าที่ขยายขึ้นทีละน้อย
เขาบรรจงจูบเธออย่างแผ่วเบาราวกับเธอเป็นสมบัติที่ควรค่าแก่การถนุถนอม เธอรู้สึกจั๊กจี้ที่ริมฝีปากยามเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับและบดจูบ หลิวเสี่ยวหนิงหดคอลงและรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรงลง
จินจิ่นหรานวางมือข้างหนึ่งไว้ข้างลำตัวของหลิวเสี่ยวหนิง สายตาคมเปล่งกระกายความสุขอย่างท่วมท้น
เขาชอบหลิวเสี่ยวหนิงที่น่ารักเช่นนี้
จินจิ่นหรานขบเม้มลงบนริมฝีปากบางนุ่มเบาๆ และในขณะเดียวกันหลิวเสี่ยงหนิงก็ทำทีเหมือนจะเข้ามาหอมแก้มเขา
จู่ๆก็มีเสียงเคาะกระจกรถเข้ามาขัดจังหวะทุกอย่างลง
คนทั้งสองคนในรถต่างตกอกตกใจ หลิวเสี่ยวหนิงคว้าเข็มขัดนิรภัยขึ้นมาคาดอย่างประหม่าและปรายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ใครจะไปคิดว่าคนที่เคาะกระจกรถของจินจิ่นหรานนั้นจะเป็นผู้จัดการสาวของเธอ
“ขอโทษที ที่จริงฉันก็ไม่อยากขัดจังหวะพวกคุณหรอก แต่ฉันยืนอยู่ตรงนี้มานานแล้ว และฉันก็ไม่มีโอกาสได้พูดกับคุณเลย”
ในตอนนี้ผู้จัดการสาวรู้สึกว่าตนเองกำลังกลายเป็น กขค ของคนทั้งสองคนบนรถอย่างสมบูรณ์แบบ
"มีอะไรรึเปล่า?"
หลิวเสี่ยวหนิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และมองไปที่ผู้จัดการสาวด้วยท่าทางเขินอาย
“โทรศัพท์ของคุณตก ฉันจะเอามาให้คุณ ฉันขอให้การเดตในวันนี้ของพวกคุณเต็มไปด้วยความสุข” ผู้จัดการสาวรีบจัดแจงยัดโทรศัพท์มือถือเข้ามาไว้ในฝ่ามือของหลิวเสี่ยวหนิงและรีบหันหลังเดินจากไปทันที ผู้จัดการสาวคิดแต่เพียงว่าวินาทีนี้เธอไม่อยากอยู่ใกล้คนทั้งคู่
หลิวเสี่ยวหนิงถือโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความงุนงง จากนั้นจึงหันไปมองจินจิ่นหรานและพบว่าเขายังคงอยู่ในท่าทีนิ่งเฉยดังเดิม
“ทำไมคุณยังไม่ขับรถออกไปอีกล่ะ?” หลิวเสี่ยวหนิงเอื้อมมือออกไปและดันหน้าอกของเขาแก้อาการเขินอายของตนเอง
จินจิ่นหรานไม่ได้พูดอะไร แต่ขยับแก้มเข้ามาชิดใกล้เธออีกครั้งราวกับต้องการจะหยอกล้อ
“ขับเร็วเข้าสิ!” หลิวเสี่ยวหนิงกลอกตามาที่เขาและเอื้อมมือออกไปผลักแก้มจินจิ่นหรานออกไป
จินจิ่นหรานกัดเม้มริมฝีปากแล้วสตาร์ทรถขับออกไป
ในขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของหลิวเสี่ยวหนิงก็ดังขึ้นพร้อมข้อความจากผู้จัดการสาว
"ที่จริงแล้วท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูเมื่อสักครู่มันเกิดขึ้นเพราะคุณกำลังมีความรัก ดูเหมือนว่าทักษะการแสดงของคุณจะแย่มากเลยนะ"
เมื่อเห็นมุกตลกของผู้จัดการสาว หลิวเสี่ยวหนิงก็กัดฟันแน่นด้วยความเขินอาย และหลังจากนั้นเธอก็ส่งอิโมจิรอยยิ้มกลับไปหาหญิงสาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น