ยิ่งได้ฟังคำอธิบายจากชายตรงหน้า ซูฉิงก็ยิ่งแสดงสีหน้านิ่งขรึมมากขึ้น ใบหน้าของเธอในเวลานี้ดูจริงจังและแข็งทื่อขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้โทษฮ่อหยุนเฉิงพราะเธอก็รู้ว่าไม่ใช่เขาที่เป็นคนผิด ถ้าไม่ใช่เพราะมิเชลเธอและเขาคงไม่เหนื่อยแบบนี้ตลอดทั้งวัน
ซูฉิงคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆอยู่สักพักพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “เฮ้อ ฉันไม่นึกเลยว่ามิเชลจะเป็นแบบนี้จริงๆ... แต่เรื่องมันจบลงไปแล้ว นายไม่ต้องกังวลนะ เธอคงจะไม่กล้าก่อเรื่องอะไรใหญ่ๆอีกแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นเราก็สามารถบอกเดอโกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ฉันคิดว่าเขาคงไม่อยากเห็นลูกสาวของเขาเป็นแบบนี้แน่นอน”
ฮ่อหยุนเฉิงมองไปที่ซูฉิงและโอบกอดเธอไว้แน่น ความรู้สึกนี้เป็นมันช่างวิเศษมากที่สุด ความรู้สึกยามเมื่อคนที่เขารักอยู่เคียงข้างเขา
พอได้พูดถึงมิเชล ฮ่อหยุนเฉิงก็แอบรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย วันนี้เขาอาจจะรู้สึกเพิกเฉยและเอือมระอากับหญิงสาวจนไม่อยากจะไปวุ่นวายอะไรกับเธอคนนั้นอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเฉยชากับเรื่องของหญิงสาวลงมาก
“ฉันก็คาดไม่ถึงเช่นกัน… ท่าทางเธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงที่อ่อนโยนและค่อนข้างนิ่งเงียบ ฉันไม่รู้จริงๆว่าเดอโกจะคิดอย่างไรถ้าเขารู้ว่ามิเชลเป็นคนแบบนี้ เธอหลอกให้ฉันเข้าไปติดกับดักจนได้ ทำไมวันนี้ฉันถึงถูกจับตัวไว้ได้นะ !"
ชายตรงหน้าพูดออกมาด้วยความโกรธและรู้สึกเสียใจเล็กน้อย มองดูแล้วฮ่อหยุนเฉิงคงไม่มีความสุขอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ซูฉิงแค่หัวเราะเบาๆ และค่อยๆเอนตัวไปพิงไหล่ของฮ่อหยุนเฉิงพลางเอ่ยปากปลอบโยนเขา "เอาล่ะ อย่าโกรธไปเลย ยังไงวันนี้นายก็ได้กลับมาแล้ว และฉันจะไม่โทษนายสำหรับเรื่องนี้ เพราะยังไงมิเชลก็ถือเป็นราชวงศ์ยุโรป และมีครอบครัวสูงศักดิ์อยู่ในฐานะท่านหญิง คงไม่มีใครคิดว่าท่านหญิงจะใช้วิธีการที่น่ารังเกียจเช่นนั้นแน่นอน”
ซูฉิงยิ้มและบีบปลายจมูกของฮ่อหยุนเฉิงเบา ๆ “ไม่ใช่เพราะว่านายมีเสน่ห์มากล้นเกินไป จนสามารถยั่วยวนสาวสวยมากมายขนาดนี้หรอกเหรอ”
เพราะบรรยากาศที่ผ่อนคลายขึ้นทำให้ความหงุดหงิดของฮ่อหยุนเฉิงจางหายไป "นี่ยังไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าคุณมีสายตาที่แหลมคมดี และถึงแม้ว่าฉันจะสามารถดึงดูดสาวสวยมากมายเพียงใด ฉันก็ยังชอบเธอเพียงคนเดียว"
ชายหนุ่มหญิงสาวพูดคุยและประสานเสียงหัวเราะกันอย่างมีความสุข ในที่สุดบรรยากาศที่น่าอึดอัดของทั้งสองก็หายไปจนหมดสิ้น ซูฉิงตามหาเขามาตลอดทั้งคืนและกว่าจะหาเจอก็เป็นเวลาใกล้จะเช้าแล้ว ความง่วงที่ถูกซ่อนเร้นมาเป็นเวลานานก็เริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้น ทั้งสองคนจึงตัดสินใจเดินเข้าไปยังห้องนอนและนอนกอดกันบนเตียงกว้างอย่างสุขสม
……
กองถ่ายทำละคร《ฉันเป็นเจ้าของวัยหนุ่มสาวของฉัน》
“เสี่ยวหนิง เข้ามาใกล้กว่านี้ คุณสองคนเว้นระยะห่างกันมากเกินไป”
ช่างภาพเงยหน้าขึ้นและเหยียดมือออกเพื่อกำหนดรูปร่างของหลิวเสี่ยวหนิงและเฉินจุนเหยียนให้เข้าใกล้กัน
หลิวเสี่ยวหนิงฟังและขยับไปทางเฉินจุนเหยียนเพียงเล็กน้อย แต่ช่างภาพที่เห็นสิ่งนี้ก็กลับแสดงท่าทางไม่พอใจออกมาผ่านทางใบหน้าของเขา หลังจากนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าและช่วยจัดท่าทางให้นักแสดงหนุ่มและนักแสดงสาวด้วยตัวเอง
“คุณสองคนแสดงเป็นคู่รักไม่ใช่พี่น้อง พวกคุณต้องเข้าใกล้กันมากกว่านี้
ช่างภาพผลักหลิวเสี่ยวหนิงไปที่ด้านข้างของเฉินจุนเหยียน เมื่อจัดท่าทางแล้วช่างภาพหนุ่มก็ยังดูเหมือนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่พอใจ
เมื่อคิดเช่นนี้ ช่างภาพก็คว้ามือของเฉินจุนเหยียนมาจับมือของหลิวเสี่ยวหนิงไว้ พวกเขาสองคนตะลึงกันอยู่ครู่หนึ่งและทั้งคู่ก็ต้องการจะปล่อยมือออกจากกัน แต่ช่างภาพหนุ่มนั้นก็ยังพยายามยัดเยียดให้มือสองมือประสานกันแน่น
"ใช่! อย่างนั้นแหละ อย่าขยับนะ! รักษาท่าทางและการแสดงออกทางอารมณ์ของพวกคุณไว้!"
พูดจบเขาก็วิ่งกลับไปหลังกล้องและเริ่มมองหามุมสวยๆ ที่จะถ่ายทำ
หลิวเสี่ยวหนิงเงียบและเม้มริมฝีปากลงแน่น ดวงตากลมโตพยายามเบี่ยงเบนสายตามองไปที่อื่น แต่ความสนใจทั้งหมดของเธอกลับอยู่ที่มือที่ถูกกอบกุมด้วยมือของเฉินจุนเหยียนทั้งสองข้าง
ทั้งสองจับมือกันไว้ด้านหลังและถ้าไม่ได้มองสังเกตโดยละเอียดล่ะก็ คุณอาจจะนึกไม่ถึงถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่
จู่ๆ หลิวเสี่ยวหนิงก็คิดว่าความร่วมมือระหว่างเธอละเขากำลังเป็นไปในทิศทางที่ดีมากเช่นกัน ถึงแม้ว่าบางสิ่งเธอจะไม่สามารถบรรลุมันได้ในความเป็นจริงแต่เธอก็สามารถบรรลุมันได้จากการแสดงละคร
อย่างไรก็ตามขณะที่หลิวเสี่ยวหนิงกำลังคิดเช่นนี้ เสียงของช่างภาพก็ดังขึ้นอีกครั้ง "เฉินจุนเหยียน คุณเป็นอะไรไป! ทำไมรอยยิ้มบนใบหน้าของคุณเศร้าหมองแบบนี้ ถ้าคนอื่นเห็นคงจะคิดว่ามีคนกำลังบังคับคุณอยู่ !"
“ขอโทษ” เฉินจุนเหยียนหัวเราะออกมาแห้งๆ แต่หลิวเสี่ยวหนิงสังเกตเห็นความผิดปกติจากร่างหนาตรงหน้า
ยิ่งไปกว่านั้นสภาพของเฉินจุนเหยียนในวันนี้ทั้งวันก็แลดูผิดปกติไปมาก นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ช่างภาพต้องหยุดถ่าย
“ช่างเถอะ คุณไปพักผ่อนก่อนแล้วกัน แล้วเราค่อยกลับมาถ่ายต่อ” เมื่อช่างภาพหนุ่มเห็นสภาพของนักแสดงชายคนดังก็ไม่ได้บังคับให้อีกฝ่ายฝืนใจถ่ายทำต่อ ช่างภาพหนุ่มก้มมองดูนาฬิกา แล้วจึงส่งสัญญาณให้ทุกคนพักกองก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น