“นี่...”
สีหน้าอาจารย์ช่างตัดฉายแววล้ำลึก เนื่องจากมีดนี้ของเขาผ่าไปจนสุดภายในครั้งเดียว แต่ที่ได้รับกลับยังเป็นเนื้อหิน ถึงขนาดที่ไม่เห็นสีเขียวแม้แต่สักนิด
“เป็นของเสียจริงๆ ด้วย”
เฉินเจียวเอ่ยอย่างเหยียดหยาม ตอนแรกสุดนั้นเธอยังคงกังวลอยู่เล็กน้อย ปรากฏว่าเวลานี้พอนึกถึงก็คิดว่าเธอนี่มันช่างโง่งมเสียจริง
“เป็นคนที่ไม่เคยเล่นพนันหินจริงด้วย”
“นั่นสิ เลือกก้อนใหญ่ขนาดนี้ ดูท่าคงไม่มีอะไรข้างในแล้ว?”
“คงจะเสียเงินจำนวนไม่น้อยเลย”
อย่างไรก็ตามเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างมิได้ส่งผลกระทบต่อซูฉิงเลยแม้แต่น้อย เธอลูบหน้าผาก ประเมินก้อนหินอย่างละเอียด
“ผิดจนโง่งมแล้ว?”
หลังจากพึมพำกับตัวเอง ซูฉิงก็เคาะนิ้วลงบนหินที่อยู่ “งั้นก็เริ่มผ่าจากตรงนี้เถอะ”
อาจารย์ช่างตัดที่เดิมแล้วกำลังจะเดินจาก สีหน้าฉายความตกตะลึง “คุณยังอยากผ่าอยู่อีกหรือ?”
“แน่นอนสิ รีบผ่าเร็วเข้า” ซูฉิงที่นั่งอยู่ลุกขึ้นมายืนด้านข้างสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“สิ่งนี้ดูท่าจะไม่มีหยกจริงๆนะ อย่าผ่าเลยดีกว่า” นี่อาจจะเป็นครั้งที่ซูฉิงมาเล่นก็ได้ อาจารย์ช่างตัดจึงเตือนอย่างหวังดี
แต่ทว่าซูฉิงกลับยิ้มบางให้อาจารย์ช่างตัดกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ผ่าเถอะ ยังเหลือหินตั้งเยอะขนาดนี้ ไม่ผ่าคงเป็นสิ้นเปลือง ไม่แน่ว่าข้างในอาจมีสิ่งน่าตกใจอยู่ก็ได้นะ?”
ช่างตัดส่ายหัวอย่างจนปัญญา เริ่มขยับใบมีดผ่า
อย่างไรก็ตาม เฉินเจียวเห็นดังนั้นก็หัวเราะเสียงเย็น “ต่อให้เธอบดมันจนเป็นแป้งก็หาของดีไม่พบหรอก ตรานี้ฉันชนะแน่แล้ว อย่างเปลืองแรงเลย”
พูดพลางเธอก็ย้ายสายตาไปวางบนเงาร่างฮ่อหยุนเฉิน แต่ทว่าฮ่อหยุนเฉิงจับจ้องเพียงแค่การกระทำของซูฉิงมาโดยตลอด
เฉินเจียวกำมือแน่น เธอไม่เชื่อว่าถ้าซูฉิงใช้เงินจำนวนมากมายขนาดนั้นในคราเดียวอย่างมั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยมเช่นนี้ และผลปรากฏว่าผ่าออกมาเป็นของเสียๆ ก้อนหนึ่ง ฮ่อหยุนเฉิงจะยังชอบเธอมากอยู่แบบนั้น
แล้วเธอเองก็จะจับฮ่อหยุนเฉิงได้ในไม่ช้า
อย่างไรก็ตามการผ่าภายใต้สายตาจับจ้องคนทั้งหมด แต่ผลที่ได้รับยังคงไม่มีอะไรทั้งนั้น และพื้นผิวยังคงเป็นแค่เนื้อหินธรรมดา
“เธอดูสิสาวน้อย ฉันก็พูดแล้วว่าในนี้ไม่มีอะไร อย่างเปลืองแรงเปล่าๆ เลย นี่เป็นแค่หินก้อนหนึ่ง ฉันมองไปที่เหล่าจางด้านนั้นไม่รู้ว่าเก็บมันไว้ตรงมุมมานานเท่าไรแล้ว ปรากฏว่าตอนนี้ให้เธอนำออกมา เธอน่ะถูกหลอกเข้าแล้วแหละ”
ช่างตัดหัวเราะเสียงเบา ได้ยินประโยคนี้แล้วซูฉิงเองก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคือง เธอกอดหน้าอกพูดกับช่างตัดพลางชี้ไปที่วัสดุส่วนที่เหลือ ถ้างั้นก็รบกวนอาจารย์ผ่าหินส่วนที่เหลือให้ฉันด้วยแล้วกัน”
เมื่อพูดจบปรากฏว่านี่ก่อให้เกิดการแสดงความคิดเห็นของผู้ชมทั้งหมด คิดว่าซูฉิงก็คือคนรวยที่โง่งมคนหนึ่ง
เฟิงไป่โจวเห็นดังนั้นก็เดินไปด้านหน้าฮ่อหยุนเฉิงแล้วพูดว่า “ประธานฮ่อ คุณแพ้แล้ว ดูท่าว่าของพวกนั้นคงกลายเป็นของผมทั้งหมดแล้วล่ะ”
“ยังผ่าไม่หมดแล้วจะพูดถึงแพ้ชนะได้ยังไงกัน? เหมือนประธานเฟิงจะรีบร้อนไปหน่อยนะ” ฮ่อหยุนเฉิงอย่างไม่แยแส
เฟิงไป่โจวได้ยินประโยคนี้ ก็ขมวดคิ้วเรียวยาวอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “ทำไมประธานฮ่อ คุณจะกลืนน้ำลายเหรอ?”
ทว่าเมื่อสิ้นเสียงพูดของเฟิงไป่โจว ก็มีเสียงร้องตกใจมาจากฝั่งของอาจารย์ช่างตัดทางนั้น
“สวรรค์! นี่เป็นไปได้ยังไง!”
เสียงนี้ดึงดูดสายตาของคนทั้งหมดเข้าไป ซูฉิงโค้งมุมริมฝีปาก ดูท่าตาเฒ่าคนนั้นคงไม่ได้หลอกตนจริงๆ ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น