ซูฉิงรู้สึกขำ คิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนที่เป็นคนระดับปรมาจารย์จะมาเถียงกันอยู่ตรงนี้้
ถ้าหากพูดออกไปเกรงว่าพวกแฟนคลับของพวกเขาจะต้องตื่นตกใจแน่
"ยัยหนู กระดูกของเธอน่าประหลาดมาก ไม่คิดอยากจะมาเป็นศิษย์ฉันหรอ"
เหลยข่ายที่มองซูฉิงอย่างเฝ้ารอ ทำให้ซูฉิงยิ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูก
คนอยากมาคารวะเหลยข่ายเป็นอาจารย์เกรงว่าจะมีคนมาต่อแถวยามเป็นหางว่าว แต่วันนี้คนอย่างเขากลับมาถามตน
"เออ ตอนนี้ยังไม่คิดค่ะ"
ซูฉิงที่ไม่รู้จะทำยังไง เพราะตนก็มีเรื่องมากมายต้องทำ ถ้าตอนนี้คำนับเขาเป็นอาจารย์ ต่อไปจะยิ่งไม่มีเวลาแน่
เหลยข่ายได้ยินเธอตอบปฏิเสธทางอ้อม แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้
"เธอมีพรสวรรค์อย่างนี้ ยังไม่คำนับอาจารย์ก็มีตันชิงอย่างนี้แล้ว ถ้าหากได้เรียนรู้สักหน่อยก็ยิ่งทำให้พวกเธอช็อกแน่"
กู้ชวนที่ยิ้มอยู่ข้างๆ คิดไม่ถึงว่าเหลยข่ายอยากจะรับศิษย์ ถึงกับพูดอย่างนี้ออกมา
"ไม่กล้าไม่กล้าค่ะ ฉันก็แค่คนธรรมดาก็เท่านั้น"
ซูฉิงที่ได้ยินก็รู้สึกอึดอัดใจ แล้วรูปปฏิเสธคำพูดของเหลยข่าย
"จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง"
เหลยข่ายพูดต่อ ยังไม่ยอมแพ้:"ฝีมือด้านจิตรกรรมของเธอเก่งกว่าคนอื่นมาก ไม่คิดอยากจะเรียกหน่อยหรอ เชื่อฉันนะว่าเธอจะต้องพัฒนาไปมากแน่"
"ห๊า?"
ซูฉิง มองกู้ชวนที่อยู่ข้างๆเหมือนจะร้องไห้
อย่างที่รู้กันว่ากู้ชวนนำผลงานของเธอออกมาอวด ถ้าเขาไม่ทำอย่างนี้ เหลยข่ายก็จะไม่มีความคิดที่จะรับลูกศิษย์
"ฉันว่านะ ก็แค่เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งมั้ย และเธอก็น่าจะรู้ว่าคนอื่นเขาถูกถึงเธอยังไง เธอไม่กลัวว่าเธอจะยุ่งยากหรอ"
กู้ชวนได้รับสายตาขอความช่วยเหลือจากซูฉิงก็เลยรีบพูดอธิบายช่วยเธอ
แต่ใครจะรู้ว่าเหลยข่ายไม่ฟัง ยังทำหน้าเรียบ เหมือนกับตัดสินใจแล้ว:"ถ้าหากไม่มีใครเห็นว่าเด็กคนนี้ดียังไง จะมาถึงฉันได้ยังไง พอพูดอย่างมานี้ ฉันก็ยังต้องขอบคุณคนพวกนั้น ที่ไม่ได้มาแย่งกับฉัน"
กู้ชวนที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกจนปัญญา แล้วก็หันไปส่ายหน้าให้กับซูฉิง สื่อว่าเขาก็ช่วยไม่ได้แล้ว
ซูฉิงก็จนปัญญา เห็นเหลยข่ายยืนกรานอย่างนั้น พอมาคิดดูแล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่จริงจัง ถ้าหากตนได้เป็นศิษย์ของเขา ไม่แน่อาจจะเรียนรู้อะไรอีกเยอะ
พอคิดมาถึงตอนนี้ซูฉิงก็เริ่มหวั่นไหว
"เธอวางใจเถอะ ฉันจะสอนทุกอย่างที่ฉันได้เรียนมาตลอดชีวิตนี้ให้กับเธอ ต่อไปพวกเขาก็จะรู้แล้ว พลาดเธอถือว่าเสียหายมาก"
ซูฉิงยิ้ม คิดไม่ถึงว่าเหลยข่ายจะเป็นคนที่พูดกล่อมเก่งขนาดนี้
"โอเคค่ะ ฉันตกลง"
จากนั้นซูฉิงก็ก้าวถอยหลังแล้วยกมือขึ้นประสานกัน โค้งคำนับเหลยข่าย:"อาจารย์อยู่เหนือหัว ขอรับการคารวะจากศิษย์ด้วยค่ะ"
เหลยข่ายที่เห็นซูฉิงคุกเข่าคารวะ ก็รีบเข้าไปห้าม:"เอาละๆ ตอนนี้สมัยไหนแล้ว ยังจะทำเหมือนคนโบราณอยู่อีก"
แต่ท่าทางอย่างนี้ทำให้เหลยข่ายรู้สึกปลื้มปีติยินดี เขายิ้มไม่หุบตบไหล่ซูฉิง :"เด็กดี เธอตกลงก็ดีแล้ว"
ตาโตของซูฉิงกะพริบตา ทำหน้าดีใจอย่างปิดไม่มิด
"อ้อ อีกสองวันก็จะมีงานประชุมนักเขียนจิตรกร ในฐานะที่เธอเป็นศิษย์ของฉัน จะไปกับฉันด้วยมั้ย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น