เหลยข่ายอึ้ง คิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะปฏิเสธตนทางอ้อมอย่างนี้ ถ้าหากเป็นคนอื่นละก็ คงจะตกลงอย่างตกใจต้องแต่แรกแล้ว
แต่ซูฉิงที่มีนิสัยไม่แตกตื่นและไม่สนใจตรงประโยชน์ ยิ่งทำให้เหลยข่ายชื่นชมเธอ
คุณปู่ฮ่อเห็นเฉินเจียวมีสีหน้าโกรธมากกว่าเดิมก็รีบพูดห้าม
"เอาละๆ ทุกคนก็เหนื่อยมามากแล้ว ทุกคนมานั่งรับประทานอาหารกันเถอะ"
คุณปู่ฮ่อประมือแล้วเริ่มงาน
เขาโบกมือไปทางเฉินเจียว พร้อมกับยิ้มให้:"เด็กดี เธอมานี่สิมากินข้าวกับปู่"
เฉินเจียวรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้ม พยักหน้าราวกับบดกระเทียม แล้วก็เดินยกกระโปรงเข้าไปหาคุณปู่ฮ่อ มองหน้าซูฉิงที่นั่งอยู่ข้างคุณปู่ฮ่อ ด้วยสีหน้าได้ใจ
ซูฉิงไม่สนใจ ตั้งใจกินข้าวที่อยู่ตรงหน้าของตน
คนรับใช้ที่ยกเก้าอี้มาให้เฉินเจียว ก็ยกมาวางไว้ข้างอีกฝั่งหนึ่งของคุณปู่ฮ่อ
แววตาของเฉินเจียวจ้องไปข้างบน และซูฉิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ไม่ได้สนใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกไม่สบอารมณ์
"เดี๋ยวพอกินข้าวเสร็จแล้วนายก็อยู่คุยเป็นเพื่อนเจียวเจียวหน่อยนะ อย่าทำให้เธอรู้สึกเบื่อละ"
ใครจะรู้ว่าแขกทุกคนที่กินข้าวไปได้สักพักหนึ่งแล้วคุณปู่ฮ่อจะสั่งให้ฮ่อหยุนเฉิงคุยเป็นเพื่อนเฉินเจียว
แววตาของซูฉิงเผยความรู้สึกอึ้งออกมา แต่มือก็ยังไม่ได้หยุดยังคงกินอาหารของตัวเองต่อไป
"ผมคงไปไม่ได้หรอกครับ ผมต้องอยู่กับเสี่ยวฉิง"
ฮ่อหยุนเฉิงปฏิเสธต่อหน้าทุกคนออกมาทันที ทำให้เฉินเจียวหน้าเสีย
"ให้นายไปก็ไปสิ จะมัวพูดมากทำไม"
คุณปู่ฮ่อที่มีสีหน้าเคร่ง เมื่อกี้เขามองออกว่าเฉินเจียวหน้าเสียไป ถ้าหากไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อกู้สถานการณ์ ก็กลัวว่าตระกูลเฉินจะต้องมาหาเขาถึงที่แน่
"ผมไม่ไป"
ฮ่อหยุนเฉิงปฏิเสธอีกครั้ง แล้วก็คีบเนื้อที่อยู่บนโต๊ะใส่ถ้วนให้กับซูฉิง :"อะนี่ของชอบของเธอ กินเยอะๆ นะ"
ซูฉิงอึ้ง คิดไม่ถึงว่าฮ่อหยุนเฉิงจะปกป้องตนอย่างนี้ ขนตางอนสั่นไหวระริกแล้วเธอก็พยักหน้า
มองแววตาอ่อนโยนของฮ่อหยุนเฉิง ใจของเฉินเจียวก็ถูกยกขึ้นมา
นึกถึงตอนที่อยู่ในห้องทำงาน เขามองตนด้วยสายตาเย็นชาไม่พอใจ และเปรียบเทียบกับสายตาที่มองซูฉิงที่อ่อนโยน เฉินเจียวยิ่งรู้สึกไม่ยอม
และคุณปู่ฮ่อที่อยู่ในงานเลี้ยง เฉินเจียวก็พูดอะไรมากไม่ได้ ทำได้กินอาหารไปอย่างเงียบๆ
"ตอนนี้บรรยากาศกำลังดีและวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของปู่ แกจะไม่เชื่อฟังคำปู่เลยใช่มั้ย"
แต่ใครจะรู้ว่าคุณปู่จะโกรธโมโห พร้อมกับพูดตำหนิฮ่อหยุนเฉิงต่อหน้าแขกคนอื่นๆ
"ผมก็แค่ทำเรื่องที่ผมควรทำ"
แต่ใครจะรู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเถียงไม่ยอมแพ้เช่นกัน เถียงกับคุณปู่ฮ่อต่อหน้าคนอื่น
"ผมมีคู่หมั้นแล้ว คุณปู่ยังจะให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อนกับผู้หญิงโสดอีก คุณปู่คิดว่ามันเหมาะสมหรอครับ"
"เธอเป็นเพื่อนของนาย!"
คุณปู่ฮ่อที่รู้สึกไม่พอใจเลยพูดอธิบายแทนเฉินเจียวต่อหน้าคนอื่น ทุกคนโดยรอบต่างก็มองมา ซูฉิงเลยรีบพูดกล่อม
"เอาละๆ ไม่เป็นไรนะ กินข้าวเถอะค่ะ"
ซูฉิงที่พูดออกมา แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่พูดต่อ เป็นอย่างนี้ทั้งสองคนหน้าเคร่งขรึม ไม่มีใครพูดอะไรต่อ
งานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างก็ทยอยกลับกันแบบไม่สนุก ระหว่างกลับบ้านซูฉิงก็พ่นลมหายใจออกมา
เช้าวันต่อมา
ซูฉิงยืนอยู่หน้าบ้านของกู้ชวน จัดการเสื้อผ้าให้เข้าทีแล้วก็เดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน
หลังจากรออยู่สักครู่ ก็มีคนมาเปิดประตู และซูฉิงที่กำลังจะยกมือทักทายก็เห็นคนที่อยู่ตรงหน้าไม่เหมือนกับกู้ชวน
เธอเงยหน้าขึ้นดูก็เห็นว่าไม่ใช่กู้ชวนแต่เป็นเหลยข่าย
ซูฉิงแววตาหดลง เหลยข่าย เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
"ท่าน ท่านอาวุโสเหลยสวัสดีค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น