และสำนักข่าวโซเชียลก็ได้รับข่าวแล้ว ต่างก็แชร์รูปภาพและคลิปวิดีโอที่ซูฉิงได้รับรางวัลออกไป ทันใดนั้นซูฉิงก็ถูกชาวเน็ตจับตามองในทันที
และประกาศรางวัลออกมา พวกที่ไม่ชอบซูฉิงก็ถูกตีหน้าแหก และก็ไม่มีใครต่อว่าซูฉิงชนะการแข่งขันแกะสลักด้วยความบังเอิญอีก
และเวลานี้เอง ก็มีคอมเมนท์เสียหายโผล่มาและเป็นที่ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ต
"ได้ข่าวมั้ยว่า เมื่อวันก่อนซูฉิงได้ไปเป็นกรรมการตัดสินสมาคมวาดภาพตันชิงไม่ใช่หรอ และพึ่งได้ข่าวมาว่าการแข่งขันนั้นได้รับการปฏิเสธจากหมิงหยุนชางก่อนแล้ว ก็แสดงว่าตันชิงของหมิงหยุนชางถ้าเทียบกับซูฉิงแล้วก็น่าจะเหนือกว่าเป็นไหนๆ ฮ่าๆ"
คอมเมนท์นี้โผล่มาก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมากและคอมเมนท์ที่เสียหายก็เปลี่ยนทิศ
ซูฉิงอ่านคอมเมนท์บนโลกโซเชียล ก็ไม่ใส่ใจ เดี๋ยวขึ้นสูงเดี๋ยวตกต่ำ ตัวเองดูแลตัวเองได้ก็พอแล้ว
และตอนที่ซูฉิงที่ไม่คิดจะใส่ใจอยู่นั้น หมิงหยุนชางก็ได้โพสชี้แจงในเวยป๋อของตัวเอง
ซูฉิงคิ้วขมวดกดเข้าไปอ่านดู
"ทุกท่านอย่างพึ่งเข้าใจผิดไป ฉันกับซูฉิงเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน ทุกท่านอย่าได้แบ่งชนชั้นว่าใครเหนือกว่าใครเลยซึ่งมันจะผลเสียต่อทุกคน "
ซูฉิงได้ยินอย่างนั้นก็นวดขมับ ความคิดของหมิงหยุนชางนั้นเธอพอจะดูออก
อีกด้านคือไม่อยากยอมรับว่าตนนั้นไม่เก่งเท่าซูฉิง และก็ไม่ได้ยอมรับว่าตนนั้นเคยปฏิเสธไปเป็นกรรมการตัดสินของสมาคมวาดภาพตันชิงไป พอพูดออกไปอย่างนี้ยิ่งทำให้คนเข้าใจผิด ทำให้พวกชาวเน็ตเข้าใจว่าเธอนั้นเคยปฏิเสธเป็นกรรมการตัดสินสมาคมวาดภาพตันชิง
คำชี้แจงของหมองหยุนชางยิ่งทำให้โลกโซเชียลเข้าใจผิดไปกันใหญ่
ความเมนท์เสียหายมากขึ้นกว่าเดิม:"ฉันว่าแล้วไง ซูฉิงจะกลายมาเป็นคนเก่งขึ้นมาได้ยังไง ที่แท้เพราะรับของเหลือจากคนอื่นนี่เอง และยังมีคนโม้อีก หน้าไม่อายจริงๆ"
คอมเมนท์เสียหายผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนแรกเรื่องนี้ยังไม่มีคนสนใจ แต่เพราะหมิงหยุนชางออกมาชี้แจงยิ่งทำให้ซูฉิงเหมือนกับถูกเจอคลื่นลูกใหญ่ซัดถาโถมเข้าใส่
เธอส่ายหน้า แล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ตัว เรื่องของหมิงหยุนชาง เธอค่อยคิดจัดการเป็นรายต่อไป
อีกด้าน ฮ่อหยุนเฉิงเห็นคอมเมนน์เสียหายในเวยป๋อ
ตอนแรกเขาก็ไม่คิดจะสนใจ แต่คำพูดของหมิงหยุนชางทำให้เขารู้สึกว่าเรื่องมันแปลกๆ
แม้แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็มองออก หมิงหยุนชางแอบพูดให้ซูฉิงตกต่ำดูไม่ดี ไม่รู้ว่าเธอเคยปฏิเสธทีมกรรมการจริงมั้ย เขาบอกว่าอย่าเอาเขาไปเปรียบเทียบกับตน คำนี้ทำให้คนอื่นคิดไปไกล
เรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากรู้สึกเอนเอียงอย่างไม่ต้องสงสัย เดิมทีชาวเน็ตมีเหตุผลตามความคิดเห็นอย่าง ยิ่งเป็นเรื่องที่กินในที่ลับไขในที่แจ้ง ทำให้ชาวเน็ตมีดูถูกซูฉิง
เขาคิ้วขมวด เห็นเรื่องผิดแปลกไปก็สั่งการให้คนหาเบอร์ติดต่อหมิงหยุนชาง
เพียงไม่นานก็ได้เบอร์มาแล้วฮ่อหยุนเฉิงก็ให้เลขาต่อสายหาเธอทันที
"สวัสดี คุณคือคุณหมิงใช่มั้ย ท่านประธานของฉันอยากจะนัดเจอคุณหน่อย"
ทางหมิงหยุนชางคิ้วขมวด:"ท่านประธานงั้นหรอ ฉันไม่รู้จัดท่านประธานอะไรทั้งนั้น"
"ท่านประธานตระกูลฮ่อหรุ๊ป ท่านประธานของเราจะรอคุณอยู่ที่ร้านกาแฟ"
เลขาที่พอพูดจบก็ไม่รอให้หมิงหยุนชางตอบก็กดวางสายทันที
หมิงหยุนชางก็มองหน้าจอที่ดับลงไปก็โกรธโมโหจนตัวสั่น
ฮ่อหยุนเฉิง เขาเป็นคนยังไง และตอนนี้เขาอยากจะเจอเธออีก จะต้องเป็นเรื่องข่าวอื้อฉาวในเวยป๋อแน่
ถ้าหากตนไม่ไปพบเขา ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น.......
หมิงหยุนชางไม่อยากจะคิดเลย เธอเลยทำได้เพียงเก็บของอย่างร้อนใจ แล้วรีบไปที่ร้านกาแฟ
ระหว่างทางหมิงหยุนชางก็ใจแรง เธอกังวลว่าฮ่อหยุนเฉิงจะลงมือทำอะไรกับเธอเลยโทรหาปารัสซีก่อน
พอหมิงหยุนชางเอ่ยชื่อฮ่อหยุนเฉิง และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ คนคนนั้นพอได้ยินชื่อของฮ่อหยุนเฉิงก็ให้ความสนใจขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น