ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 116

“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเพคะ หลี่จิ่นซูกับหนานมู่ชิงแอบมีสัมพันธ์กันมานานแล้ว แต่มักจะดึงหม่อมฉันไปเป็นเกราะกำบัง ขอจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยโปรดทรงคืนความบริสุทธิ์ให้หม่อมฉันด้วยเพคะ!”

หลินเมิ่งหวันเอ่ยอย่างไม่ถ่อมตัวแต่ก็ไม่ได้เย่อหยิ่ง ทำให้สีหน้าของทุกคนในที่นี้เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน

ฉู่โม่หยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเอื้อมมือไปดึงหลินเมิ่งหวันขึ้นมาและกอดนางเอาไว้ทันที “ข้าจะคืนความบริสุทธิ์ให้เจ้าเอง”

สีหน้าของสวี่ซื่อกับหลี่เล่อหย่าดูไม่ดีนักเมื่อได้ยินดังนั้น

ฉู่โม่หยวนคิดจะคืนความบริสุทธิ์ให้หลินเมิ่งหวัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาเชื่อว่าหลี่จิ่นซูกับหนานมู่ชิงแอบมีสัมพันธ์กันลับๆ

หลินเมิ่งหวันยิ้มและแอบอิงอ้อมแขนของฉู่โม่หยวน นางบอกว่าจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยใจดีมาก แต่ก็แค่กระซิบที่หูของเขาเท่านั้น

แววตาของฉู่โม่หยวนเป็นประกายเล็กน้อย เขาเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “เสวียนยี ไปที่จวนเฉิงเซี่ยงแล้วค้นหาที่เรือนของหลี่จิ่นซู”

สวี่ซื่อตกใจทันที “จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเพคะ เหตุใดพระองค์จะต้องค้นหาที่เรือนของจิ่นซูด้วย เขา...”

“ข้าจะทำสิ่งใด จำเป็นต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วยหรือ”

นัยน์ตาที่ลุ่มลึกของฉู่โม่หยวนแฝงไปด้วยความหนาวเหน็บจนถึงขั้วกระดูก ทำให้สวี่ซื่อหุบปากลงไปทันที

ฉีซือเหมี่ยวมองหลินเมิ่งหวันอย่างไม่เข้าใจ และรู้สึกว่าเรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ

แต่หลี่เล่อหย่ากลับมองหลินเมิ่งหวันอย่างโกรธแค้น แอบคิดในใจว่ารอร้องไห้ไปเถอะหลินเมิ่งหวัน!

หลี่จิ่นซูกับหนานมู่ชิงนะหรือแอบคบหากัน จะโกหกก็ไม่รู้จักโกหกให้น่าเชื่อถือกว่านี้

ไม่ใช่ว่านางดูถูกพี่ชายของนางเอง แต่หนานมู่ชิงเป็นสตรีที่มีความสามารถเป็นอันดับหนึ่งในเมืองหลวง หลี่จิ่นซูเป็นเพียงบุตรของอนุภรรยาที่ไร้ชื่อเสียง อย่างเขาจะได้ใจหนานมู่ชิงไปได้อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น มีใครบ้างในเมืองหลวงที่ไม่รู้ว่าหนานมู่ชิงเลื่อมใสในตัวจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยมากแค่ไหน

คิดไม่ถึงว่าหลินเมิ่งหวันจะบอกว่าหลี่จิ่นซูแอบมีสัมพันธ์กับหนานมู่ชิง รออีกเดี๋ยวนางคงถูกตบหน้าแน่!

ทว่าหลังจากผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เสวียนยีก็หอบกล่องผ้ากล่องหนึ่งเดินเข้ามา และหลี่จิ่นซูซึ่งถูกจับตัวเข้ามาก็มาที่โถงด้านหน้าของจวนหลินด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก

เปลือกตาของสวี่ซื่อกระตุกโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา

จากนั้นนางจึงเห็นเสวียนยีก้าวมาข้างหน้า เปิดกล่องผ้าออกส่งไปตรงหน้าฉู่โม่หยวน จากนั้นจึงกล่าวว่า “ทูลจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ข้ากระหม่อมพบผ้าเช็ดผืนนี้ที่ใต้หมอนของคุณชายหลี่พ่ะย่ะค่ะ”

ฉู่โม่หยวนเหลือบมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย หลินเมิ่งหวันหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นขึ้นมาสะบัดทันที จากนั้นจึงเอ่ยอย่างเกินจริงว่า “เอ๊ะ นี่มันผ้าเช็ดหน้าของคุณหนูหนานมิใช่รึ คุณชายหลี่วางไว้ใต้หมอนจริงๆ หรือนี่ คงรักและทะนุถนอมมากจริงๆ สินะ”

หลี่จิ่นซูกัดริมฝีปากมองหลินเมิ่งหวันอย่างรู้สึกอึดอัด

แต่หลินเมิ่งหวันกลับไม่สนใจเขา นางเพียงแค่สะบัดผ้าเช็ดหน้าไปตรงหน้าเฉิงเซี่ยงฮูหยิน

เมื่อเห็นลายดอกเบญจมาศที่ละเอียดงดงามบนผ้าเช็ดหน้า สวี่ซื่อก็กำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น

หลินเมิ่งหวันแย้มริมฝีปากและเอ่ยว่า “เฉิงเซี่ยงฮูหยินเห็นชัดแล้วใช่หรือไม่”

หลี่เล่อหย่าลุกขึ้นและคว้าผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นไป และลายดอกเบญจมาศดอกนั้นก็ทิ่มแทงสายตาของนางอย่างจัง

นางเอ่ยอย่างร้อนรนว่า “ต้องเป็นเจ้าแน่ๆ ที่ใส่ร้าย! คนที่ไปตรวจค้นก็คือคนของเจ้า...”

“เล่อหย่า หุบปาก!” สวี่ซื่อตำหนิหลี่เล่อหย่าและรีบคว้ามือหลี่เล่อหย่าให้คุกเข่าลงตรงหน้าฉู่โม่หยวน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก