หนิงหวางชิงโกรธมากจนเธอจะไปเคลียร์กับคนที่มายึดที่ของพวกเธอและสือฮว่าก็หยุดเธอไว้ "ช่างมันเถอะ ยังมีที่ว่างที่อื่นอยู่"
หนิงหวางชิงถือขวดน้ำสองขวด เม้มริมฝีปากแล้วเดินตามหลังเธอไป
"สือฮว่า สุนทรพจน์ที่เธอเตรียมพูดจะทำยังไง เดี๋ยวเธอจะต้องขึ้นไปพูดแล้ว"
เธอวางขวดน้ำสองขวดลงและรู้สึกกระวนกระวายที่จะไปหาใบสุนทรพจน์นั้น
"ขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ถ้าฉันไม่ซื้อน้ำก็คงดี"
สือฮว่ามองลงไปที่หนังสือในมือด้วยสีหน้าที่สงบ "หวางชิง ของบางสิ่งบางอย่างถ้าทิ้งไปแล้วก็จะหาไม่เจออีกเลย เลิกหาเถอะ"
ใบหน้าของหนิงหวางชิงดูตะลึงและไม่ได้พูดอะไรอีก
ผู้คนจำนวนในห้องโถงมากขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้า ภายในงานก็เงียบลงและผู้นำหลายคนก็ขึ้นพูดบนเวทีทีละคน
หนิงหวางชิงดิ้นไปดิ้นมาบนที่นั่งของเธอ มองไปที่สือฮว่าอย่างกังวล สุนทรพจนั้นก็หายไปแล้ว ทำไมเธอถึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
"ถัดไปขอเชิญตัวแทนนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาสือฮว่า"
เมื่ออาจารย์บนเวทีพูดประโยคนี้ก็ยิ้มหวาน มองมาในทิศทางของสือฮว่า
สือฮว่านั้นดีเด่นมาก ทุกปีนั้นเขาจะเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการแข่งขันหลายอย่างและได้รับถ้วยรางวัลกลับมาทุกครั้ง
ในหมู่นักเรียน เธอโด่งดังมากและมีเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับเธอมากมาย
สือฮว่าลุกขึ้นยืนแล้วเดินช้าๆไปที่เวทีภายใต้การจ้องมองของทุกคน
ใบหน้าของเธอนั้นนิ่งและก้มหัวให้กับทุกคน
"สวัสดีอาจารย์และเพื่อนๆทุกคนค่ะ ... "
สุนทรพจน์นั้นไม่ได้สำคัญสำหรับเธอเลย บทความในนั้นเธอจำเนื้อหาได้ตั้งแต่แรกแล้ว
หนิงหวางชิงมองไปที่เธอบนเวที รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอค่อยๆหายไป สองมือค่อยๆประกบกันและเล็บก็ฝังลึกลงไปในฝ่ามือ
ตามความคาดหมายของสือฮว่า เธอสามารถพูดได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้โดยที่สุนทรพจน์นั้นได้หายไป
มีเสียงปรบมือดังขึ้นในห้องโถง เมื่อสือฮว่าพูดจบก็โค้งคำนับอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินลงไป
"สือฮว่า เธอยอดเยี่ยมมาก ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอทำได้"
ใบหน้าของหนิงหวางชิงกลับสู่ความจริงใจและดึงเธอมานั่งลง
ฉื่อฮัวเม้มริมฝีปากและยิ้มโดยไม่พูดอะไรมาก
ทันใดนั้นห้องโถงก็ครึกครื้นขึ้นมา ทุกคนมองไปยังทิศทางของประตูโดยพร้อมเพรียงกัน มีบอดี้การ์ดชุดดำหลายคนปรากฏตัวที่นั่น
นี่คือเป็นประธานของตี้เซิ่ง!
ทุกคนมองผ่านประตู แต่หลังจากรอนานกว่าสิบนาที ผู้อำนวยการของพวกเขาก็เดินเข้ามาจากด้านนอก
มีความรู้สึกหงอยในสายตาของทุกคน เมื่อเห็นชายชราเดินขึ้นมาบนเวทีด้วยรอยยิ้ม
"ผมเชื่อว่าทุกคนกำลังรอให้การมาของประธานตี้เซิ่ง แต่น่าเสียดายที่เขาเพิ่งมาถึงที่ประตูก็ได้รับสายโทรศัพท์ชั่วคราวและได้กลับไปแล้ว ดังนั้นผู้ช่วยจึงมาพูดสองสามคำเกี่ยวกับการรับสมัครของตี้เซิ่งในปีนี้ น่าจะมีนักเรียนเคยไปเรียนรู้มาแล้ว ถ้ามีอะไรที่ไม่เข้าใจ พวกคุณสามารถถามผู้ช่วยหนานได้ทันที "
สือฮว่าก็รู้สึกผิดหวังเช่นกัน เธออยากเห็นจริงๆว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไร
ภายใต้ความคาดหวังของทุกคน หนานสือก็เดินเข้ามา
ดวงตาของสือฮว่าเบิกกว้างในทันที เธอรู้จักหนานสือ ถ้าหนานสือเป็นผู้ช่วยของตี้เซิ่ง งั้นผู้ชายคนั้นก็คือ...
เธอมีคำตอบในใจอย่างรวดเร็วและมุมปากของเธอค่อยๆโค้งงอ ที่แท้ก็เป็นเขา
สิ่งที่บัณฑิตกังวลมากที่สุดไม่ใช่แค่คือการจ้างงาน ในฐานะบริษัทชั้นนำอย่างตี้เซิ่งนั้นเป็นตัวเลือกแรกของทุกคนในทุกๆปี อย่างไรก็ตามการเข้าสู่ตี้เซิ่งนั้นยากเกินไป เหมือนคนนับหมื่นที่ข้ามสะพานไม้และตกลงไปเสียชีวิตไม่รู้เท่าไหร่
หนานสือพูดสั้นๆเกี่ยวกับการจัดการของตี้เซิ่ง แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตี้เซิ่ง จากนั้นก็เริ่มตอบคำถามจากนักศึกษาที่จบ
สือฮว่าตั้งใจฟังอย่างมากอยู่ด้านล่าง ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้จักตัวตนของหนานสือมาก่อน เมื่อครั้งนี้เธอได้ยินเขาพูดก็รู้สึกเพียงว่า ตี้เซิ่งนั้นคู่ควรที่เป็นตี้เซิ่ง
"สือฮว่า เธอว่าผู้ช่วยคนนี้ดูดีไหม?"
หนิงหวางชิงที่อยู่ข้างๆนั้นหน้าแดงและจ้องมองไปที่หนานสืออย่างตะลึง
หนานสือมีลักษณะยังไงนะเหรอ?
ก็ประมาณว่าเจอเขาครั้งแรก ในหัวของคุณก็จะมาคำสองคำปรากฏขึ้น หัวกะทิ
ดั้งจมูกของเขามีแว่นตาสีทองอยู่ น้ำเสียงของเขาคมและอ่อนโยนเมื่อเขาพูด นักเรียนหญิงที่อยู่ด้านล่างนั้นกรีดร้องไปหมดแล้ว
ถ้าผู้ชายคนนั้นอยู่ที่นี่ กลัวว่าภายในงานนี้คงจะบ้าคลั่งกว่านี้
หลังจากจบลง นักเรียนหญิงจำนวนมากล้วนต้องการที่จะล้อมหนานสือ แต่เสียดายที่มีบอดี้การ์ดหลายคนปกป้องเขาและเดินออกจากห้องโถงไป
ดวงตาของเธอไร้เดียงสาและมีรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าเมื่อเธอพูด
ผู้อำนวยการนั้นหน้าเสียลงเรื่อยๆ และในที่สุดเขาก็ปิดปากด้วยการไอสองที "พอแล้ว เธอพูดน้อยๆหน่อย"
หนิงหวางชิงแลบลิ้นออกมาและดูน่ารักมาก" ขอโทษค่ะ ฉันเป็นแค่คนพูดไร้สาระ สือฮว่าเธอคุยกับผู้ช่วยหนานเถอะ ด้วยการแนะนำของผู้อำนวยการ บางทีเธออาจจะเข้าฝ่ายกฎหมายของตี้เซิ่งก็ได้"
ใบหน้าของอาจารย์ใหญ่นั้นยิ่งอับอาย ไอ้เด้กคนนี้พูดจุดประสงค์ของเขาออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้ทุกคนนั้นไปไม่ถุก
หนานสือขมวดคิ้วและหัวเราะเบา ๆ "ไม่เป็นไร คุณสือผ่านการสัมภาษณ์ของเราแล้ว เธออยากมาทำงานที่ตี้เซิ่งเมื่อไหร่ก้ได้ตามที่ต้องการ ผู้อำนวยการ คุณได้ปลูกฝังนักเรียนที่ดีคนหนึ่ง"
คำพูดของเขาที่ชัดเจนนี้ เหมือนกับการตบหน้าของหนิงหวางชิงอย่างแรง
ใบหน้าของหนิงหวางชิงแข็งทื่อและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า "ที่แท้ก็ผ่านการสัมภาษณ์ไปแล้ว ฉันรู้อยู่แล้วว่าสือฮว่าทำได้ แต่เธอไม่ได้บอกฉันสักคำ ไม่รู้ว่าเรายังเป็นเพื่อนกันไหม"
เธอจับแขนของสือฮว่า และความเกลียดชังในดวงตาของเธอก็ไม่สามารถซ่อนได้
"คุณสือ ผมส่งคุณกลับบ้านดีกว่า จากนี้ไปเราก็จะเป็นเพื่อนร่วมงานกัน"
หนานสือเปิดประตูรถและมองไปที่สือฮว่าด้วยรอยยิ้ม
ทันทีที่สือฮว่ากำลังจะก้าวไปข้างหน้า แขนเสื้อนั้นก็ถูกหนิงหวางชิงดึงไว้ "สือฮว่า ฉันไปกับเธอดีกว่า เธอรู้ที่อยู่ของฉัน อยู่ใกล้ๆนี้ ไม่ไกล"
ครอบครัวของหนิงหวางชิงนั้นดีมากและเธอก็เป็นเด้กดีของที่บ้านมาโดยตลอด
เดิมทีเธอคิดว่าสือฮว่าจะเห็นด้วยและคิดไว้แล้วว่าจะแย่งเข้าไปนั่งก่อน
"หวางชิง"
ในที่สุดสือฮว่าก็พูดขึ้นและมองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่น "ยังจำสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดได้ไหม?"
หนิงหวางชิงขมวดคิ้วและไม่เข้าว่าเธอหมายถึงอะไร
"ฉันบอกแล้วว่าของบางอย่างถ้าทำหายไปก็จะไม่สามารถหากลับมาได้อีก"
ใบหน้าของหนิงหวางชิงดูแย่เล็กน้อย" สือฮว่า นี่เธอหมายถึงอะไร?
พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา แต่ทำไมจู่ๆเธอก็เย็นชาแบบนี้
สือฮว่าเข้าไปในรถและลดหน้าต่างลง "ฉันรู้สึกขอบใจมากสำหรับความจริงใจเล็กน้อยที่มีต่อฉัน แต่ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคนที่ทรยศฉัน"
มีร่องรอยของการดูถูกในสายตาของหนิงหวางชิง" แล้วฉางอันล่ะ?เขาทรยศเธอ แต่เธอก็ออกไปท่ามกลางสายฝนเพื่อตามหาเขาเหรอ? สือฮว่าดูเหมือนว่าเธอจะยอมทิ้งสิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรีต่อหน้าผู้ชายเท่านั้น "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้