สือฮว่ารู้สึกหน้ามืดจนแทบจะเป็นลม "รีบพาฉันไปเร็ว"
เสียงของเธอแหบแห้งราวกับว่ามีทรายอยู่ในปาก เวลาจะพูดต้องออกแรงมาก
ถงเหยียนรีบพยุงอีกคนแล้วก็รีบพาไปที่เกิดเหตุ
แวบเดียวสือฮว่าก็เห็นสุสานของคุณยายเธอ หลุมฝังศพนั้นแตกออกเป็นหลายชิ้นและขี้เถ้าก็อยู่ไม่ไกลออกไปเทลงบนพื้น
ต้องแค้นมากแค่ไหนถึงทำเรื่องเลวทรามได้ขนาดนี้
เธอแสบปลายจมูก เห็นว่าลมหนาวก็พัดตลอด ขี้เถ้าก็โดนลมพัดไป
เธอรีบถอดเสื้อคลุมมาคลุมตรงนั้นแล้วค่อยๆโกยขี้เถ้าอย่างระมัดระวังแล้วใส่ลงในโถ
ถงเหยียนกัดฟันด้วยความเกลียดชัง แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าส่งเสียงรบกวน
ตอนนี้เป็นฤดูหนาว สือฮว่ารีบออกมา นอกจากถอดเสื้อโค้ทหนาๆนี้ออกแล้ว ด้านในก็มีเพียงเสื้อผ้าบางๆ จนตอนนี้มือทั้งสองสั่นด้วยความหนาว
ถงเหยียนถอดเสื้อโค้ตัวเองออกอย่างรวดเร็วและจะคลุมด้านหลังของเธอ
"ไม่ต้องหรอก"
สือฮว่าเก็บขี้เถ้าทั้งหมดเสร็จก็มองไปที่หลุมฝังศพที่แตกออกเป็นหลายชิ้นแล้วเหยียดริมฝีปากตรง
เธอทนหลายครั้งหลายครา แต่คนพวกนั้นก็คอยเหยียบย่ำความอดทนของเธอ แม้แต่ญาติที่ตายไปแล้วก็ไม่เว้น
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ กอดโถในมือไว้แน่น เกลียดจนอยากจะถลกหนังจริงๆ
สุสานนี้เงียบมาก แต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น สือฮว่าเงยหน้าก็เห็นหนานจิ่นผิงถือร่มมา
หิมะในปีนี้นี่ไม่สิ้นสุดจริงๆ และตอนนี้ก็เริ่มตกอีกแล้ว
หนานจิ่นผิงถือร่มสีดำ รูปร่างผอมจนเหมือนจะปลิวไปกับสายลม
ด้านหลังของเธอมีโจวกุยช่านที่ยืนถือร่มอยู่ โจวกุยช่านไม่กล้าเข้าใกล้ สายตาจับจ้องไปที่เธอ
หนานจิ่นผิงไม่คิดว่าจะมาเจอสือฮว่าที่นี่ เธอเลยยืนอยู่ไม่ไกล ไม่กล้าก้าวเข้ามา
เธอแค่อยากมาไหว้คุณยายเงียบๆ เธอสวมถุงมือ ช่วงนี้เธอยังไม่กล้าถอดถุงมือ เธอกลัวที่จะเห็นเลือดที่มือและยังไม่กล้ามองกระจกเพราะกลัวว่าบาปมันจะส่องออกมาผ่านกระจก
ทั้งสองมองหน้ากันสักพักและไม่มีใครคิดจะก้าวเข้าไป
เป็นเวลานานหนานจิ่นผิงถึงหันกลับแล่วเดินลงจากเขาไปโดยไม่หยุด
โจวกุยช่านยืนอยู่ที่เดิมสักพักก็เดินตามเธอไป
สือฮว่ากอดขวดโหลในมือแน่นขึ้น หัวใจหนาวเหน็บยิ่งกว่าลมหนาวตอนนี้เสียอีก
"ถงเหยียน รู้ไหมว่าใครเป็นคนทำ?"
เธอถามเสียงเรียบ แต่สายตากลับจ้องทางด้านหลังของหนานจิ่นผิง
เหมือนเธอจะผมลงไปมาก เดินอย่างล่องลอย คิดว่าช่วงนี้คงไม่ค่อยดูแลตัวเอง
คุณยายจากเธอไปแล้ว หนานจิ่นผิงบ่วงสุดท้ายของเธอบนโลกนี้ ท่าทีที่เมินเฉยคือการปกป้องเธอ
เพราะคนที่อยู่ข้างเธอ มักจะลงเอยไม่ดี
"คุณสือคะ พื้นที่นี้เป็นสุสานเลยไม่มีกล้องวงจรปิด ฉันรู้ก็เพราะได้รับแจ้งจากคนกวาดหลุมศพตอนเช้านี้เองค่ะ คาดว่าคงจะหาไม่เจอ"
สุสานค่อนข้างเคร่ง ใครจะมาติดกล้องวงจรกัน คงเป็นการดูหมิ่นคนตาย
"อืม คงไม่พ้นคนพวกนั้น ไปกัน กลับเถอะ"
ถงเหยียนนึกว่าคนๆนี้จะพังยับเยิน ไม่คิดว่าเธอจะนิ่งขนาดนี้
แต่นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่ดี เธอรู้นิสัยคุณสือบ้างแล้ว บางทียิ่งนิ่งในใจก็ยิ่งปั่นป่วน
ในตอนเที่ยงของวัน สือฮว่ากลับมาที่บ้านเกิด เอาขี้เถ้าของคุณยายโปรยในภูเขาบ้านเกิดแล้วก็กลับ
พอกลับมาถึงเฉียนสุ่ยวาน ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว
การเดินทางครั้งนี้เธอไม่ได้พาใครกลับไป และทันทีที่เธอลงจากรถแท็กซี่เธอก็เห็นฮ่อฉวนสือที่ท่าทางเหนื่อย
เมื่อคืนฮ่อฉวนสือไม่ได้กลับบ้านและไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน
ตอนนี้ที่ทั้งสองเจอกันก็ดูหดหู่
สือฮว่าจ่ายเงินและเข้าบ้านไปก่อน
ฮ่อฉวนสือยืนอยู่ที่เดิมสักพัก ขมวดคิ้วแล้วค่อยๆเดินตามไป
ร่างกายเธอไม่ใช่ว่าดีขึ้นมากแล้วเหรอ?
ทำไมตอนนี้ถึงดูแย่ลง?
ทันทีที่สือฮว่าก้าวพ้นประตู ก็เห็นถางหรงที่ไม่ได้เจอกันนาน แล้วก็ฮ่อฉินฉินด้วย
ใบหน้าฮ่อฉินฉินไม่สู้ดี พอเห็นเธอก็หยุดพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้