ดวงตาของซิ่วหยูยังคงไม่ลืมตา ปิดความมืดมิดในดวงตาของเขาไว้ "ไปเถอะ ฉันอยากนอนแล้ว"
ใบหน้าของตันเวยแสบร้อน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจู่ๆมันเกิดความขัดแย้งอะไรขึ้น
อาจเป็นเพราะว่าความคับข้องใจทั้งๆที่เป็นชีวิตของเธอเอง แต่กลับโดนผู้ชายสองคนบงการ แถมไม่ถามความเห็นเธอสักคำ
เธอลุกขึ้น กำใบสัญญาในมือแน่น เปิดประตูห้องแล้วเดินออกไป
ขนตาของซิ่วหยูสั่นไหว จะนอนก็นอนไม่หลับเลยลุกแล้วเดินไปที่หน้าต่าง
สุดท้ายเธอก็จากไปอย่างไร้ร่องรอยของความอาลัย
เขาอยากจะตามออกไป แต่ขณะที่กำลังจะขยับตัว เขาก็หยุดและเอนตัวพิงหน้าต่างอย่างอ่อนแรง
บางทีการยืนกรานในตอนแรกของเขาอาจผิดไปจริงๆ เขาไม่ใช่สิ่งที่เธอขาดไม่ได้
ใช่แล้ว ไม่จำเป็นสำหรับเธอ
เขาปลอบตัวเองแบบนั้นแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียง
แต่เตียงเต็มไปด้วยไอของตันเวย หมอนก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของเธอ แค่ขยับตัวเล็กน้อย ไอพวกนั้นก็เข้าไปในโพรงจมูกจนไม่ให้โอกาสให้เขาปฏิเสธ
เขาพลิกตัว ปาหมอนลงใต้เตียงอย่างโกรธจัด
แต่มันก็เปล่าประโยชน์ เขาพลิกตัวลงจากเตียง ฉีกผ้าปูที่นอนแล้วเตะทิ้งอย่างรังเกียจ แล้วหลับไปบนที่นอนเปล่า
เขาตื่นขึ้นกลางดึกหนึ่งครั้ง ถึงได้รู้ว่าเขาลืมเปิดเครื่องปรับอากาศ
เขารีบเปิดเครื่องปรับอากาศและปรับอุณหภูมิห้องให้สูงสุด จากนั้นถึงได้เอนตัวนอนบนฟูกอย่างเคืองๆ มองเพดานอย่างเหม่อลอย
อาจเป็นเพราะเขากังวลเกินไป เลยเผลอลูบบุหรี่ที่อยู่ด้านข้างโดยไม่รู้ตัวก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่
ทันทีที่ไฟสว่าง โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เขาคิดว่าเป็นสายของตันเวย ร่างกายก็แข็งทื่อ เหลือบมองหน้าจอถึงเห็นเป็นเป็นข้อความสแปม
เขาขมวดคิ้วและทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ไม่สนใจมันอีก
หลังจากสูบบุหรี่เสร็จ เขาก็กลับไปที่ห้องนอนและเห็นว่าทุกอย่างในห้องมันรก ก็กระตุกมุมปากเยาะเย้ย และไม่มีกะจิตกะใจอยู่ที่นี่ต่อ
เขาหยิบกุญแจรถจากด้านข้างแล้วออกไป
เวินเซ่อในเวลานี้เป็นเวลาที่คึกคักที่สุด ผู้ชายและผู้หญิงจำนวนมากกำลังเต้นเคียงข้างกันบนฟลอร์เต้นรำ
ซิ่วหยูหาที่นั่งอย่างไม่ใส่ใจ และหลังจากดื่มไปสองสามแก้ว ก้จ้องไปทางผู้ชายและผู้หญิงบนฟลอร์เต้นรำอย่างเหม่อลอย
แต่ก่อนถ้าไม่มีความสุข มาที่นี่ก็ได้แล้ว แต่ตอนนี้ สถานที่ที่ร้อนแรงก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกโล่งใจเลย เขากลับรู้สึกหดหู่มากขึ้นเรื่อยๆ
แม้แต่ไวน์ในมือก็ยังขม
"นายน้อยซิ่ว*"
ผู้หญิงคนหนึ่งโน้มตัวเข้ามาก่อนเอามือขาวเหมือนหยกของเธอวางบนไหล่ของเขา "ถ้านายน้อยซิ่วไม่มีความสุข งั้นคืนนี้ฉันอยู่เป็นเพื่อนดื่มดีไหมคะ~"
เธอสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น และคำพูดของเธอเต็มไปด้วยคำบอกใบ้
ซิ่วหยูปัดมือของเธอออกไปอย่างไม่เมตตา "อย่ามายุ่งกับฉัน"
ใบหน้าของหญิงสาวเริ่มแข็งทื่อ แต่ยังคงเข้ามาอย่างไม่ยอมแพ้
ใบหน้าของซิ่วหยูมืดลง แก้วในมือของเขาถูกบีบจนแตกจนเศษแก้วทิ่มลงไปที่ฝ่ามือของเขา
ผู้หญิงจะเคยเห็นแบบนี้ได้ที่ไหน ก็ตกใจกรีดร้อง และจากไปด้วยใบหน้าซีดเซียว
ซิ่วหยูรู้สึกทำร้ายตัวเอง และดูเหมือนจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
มือของเขายังคงมีเลือดไหลออกมา พนักงานที่อยู่ด้านข้างไม่กล้ารอช้า รีบไปแจ้งโจวกุยช่านอย่างรวดเร็ว
โจวกุยช่านช่วงนี้ก็เหี่ยวเฉามาก นอกจากมาที่นี่ก็เหมือนจะไม่ได้ไปที่ไหนอีก ทั้งสองถือเป็นคนกลุ่มเดียวกัน
เมื่อได้ยินที่พนักงานแจ้ง เขาก็ขมวดคิ้วแล้วไปที่ตรงซิ่วหยู
สถานะของซิ่วหยูนั้นไม่ธรรมดา ถ้าเขามาทำอะไรผิดที่นี่ ก็ยากที่จะอธิบาย
ทันทีที่โจวกุยช่านเดินเข้ามาก็เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ซิ่วหยู เป็นฮ่อซือหนานนั่นเอง
ใบหน้าฮ่อซือหนานเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและบีบแก้วไวน์นิ่งๆ
เขาเพิ่งกลับมาถึงจิงตูเมื่อวานนี้ ส่วนพวกลักพาตัวคนของเขา เขาก็ไม่ได้สนใจ อีกทั้งได้ยินว่าสือฮว่ากลับมาแล้วเขาก็ยิ่งไม่อยากไปตรวจสอบความสัมพันธ์นั่น
เขาเหลือบมองฝ่ามือที่เต็มไปด้วยเลือดของซิ่วหยูและกระตุกมุมปากอย่างเย้ยหยัน "นี่นายน้อยบ้านตระกูลซิ่วทำอะไร? ถึงจะตายเพราะความรักก็อย่ามาที่นี่สิ ทุกคนกำลังสนุกอยู่นะ ถ้านายมาเป็นอะไรไปก็แย่น่ะสิ"
ฮ่อซือหนานไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ตอนนี้ก็ไม่สนใจอะไร
ทันทีที่คิ้วของซิ่วหยูย่น ความโมโหเขาก็เพิ่มขึ้นทันที "นายว่าอะไรนะ?"
ฮ่อซือหนานก้มก้มจิบไวน์ "นายได้ยินไม่ชัดงั้นเหรอ? บอกให้อย่ามาตายที่นี่ไง"
ทั้งสองที่ต่างก็กลั้นความโมโห มาเจอกันครั้งนี้ ทิ่มแทงฉันกี่ครั้งก็โต้กลับไปเท่านั้น บรรยากาศตอนนี้ก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที
โจวกุยช่านเดิมทีจะเข้ามาเกลี้ยกล่อมก็นึกได้ว่าอารมณ์ตัวเองก็ไม่ค่อยดี อีกทั้งเขาเองก็ไม่ชอบการจัดการกับเรื่องพวกนี้ด้วย ดังนั้นน้ำเสียงเขาก็เกรี้ยวกราดมากขึ้น
"ถ้าทั้งสองคนจะทะเลาะกัน ฉันจะหาคนมาจัดการ รายการของที่พังแล้วจ่ายร้อยเท่าของราคาเดิม"
มุมปากของฮ่อซือหนานแข็งค้าง และความโกรธที่ถูกรังแกเมื่อไม่กี่วันก่อนก็เพิ่มขึ้นในทันที "โจวกุยช่าน มึงจะเอาแต่หากินงั้นเหรอ? ทำไมไม่จับมันซะ!"
โจวกุยช่านแค่นยิ้ม "แล้วจะทำอะไรได้ ยังไงก็เขตของฉัน"
สุดท้ายทั้งสามคนก็ไม่ได้สู้กัน แล้วนั่งด้วยกันอย่างหดหู่
คนหนึ่งไม่ชอบ อีกคนก็ขัดตา
คนรอบข้างที่เห็นการต่อสู้ครั้งนี้ พวกที่เต้นก็ไม่กล้าเต้นต่อ และออกห่างไกลจากที่นี่
โจวกุยช่านเย็นชา ฮ่อซือหนานเย่อหยิ่ง ซิ่มหยูเกรี้ยวกราด สามคนสามสไตล์นั่งด้วยกันก็เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามไปอีกแบบ
แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสามคนไม่มีกะจิตกะใจเลย แต่ละคนถือไวน์หนึ่งแก้วและดื่มมันอย่างช้าๆ
ฮ่อซือหนานดื่มไปสามขวดแล้วก็ลุกขึ้นแล้วออกจากเวินเซ่อ
ทันทีที่เขาออกไป เขาก็เห็นผู้หญิงที่กำลังรออยู่ตรงนั้น
ผู้หญิงที่หน้าตาคล้านสือฮว่า แต่หน้าของสือฮว่าดูเย็นชากว่า
"นายน้อยฮ่อ..."
ใบหน้าของหญิงสาวช่างน่าสงสาร เธอก้มกน้าบีบมือเล็กน้อย "ฉัน...ฉันติดต่อฮ่อฉวนสือไม่ได้"
ฮ่อซือหนานก้มหน้าสูบบุหรี่และแค่นยิ้ม "เงื่อนไขเธอเยอะไปหรือเปล่า แต่ก่อนเธอไม่ได้พูดเหรอว่าถ้าได้เจอเขาใกล้ๆก็จะมีความสุขน่ะ? หรือคืนนั้นในโรงแรมยังมีความสุขไม่พอเหรอ?"
ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นซีด นึกถึงที่เธอเคยไปหาสือฮว่าเพื่อพยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง แต่คิดไม่ถึงว่าจะโดนสือฮว่าขัดขวาง
ตอนนั้นเองที่เธอรู้ว่า สือฮว่าามีดีกว่าใบหน้านั้น ไม่มีใครสามารถเลียนแบบอารมณ์ของเธอได้
หลังจากที่ได้เห็นฮ่อฉวนสือใกล้ๆ เธอก็ไม่สามารถควบคุมหัวใจตัวเองได้ ดูเหมือนว่าเธอจะตกหลุมรักเขาไปแล้ว
ตอนนี้ฉันแค่อยากจะบีบสือฮว่าออกไปแล้วไปยืนเคียงข้างเขา
ฮ่อซือหนานเหมือนจะมองความคิดของเธอออก สายตาก็ดูเหยียดหยามมากขึ้น "เธออย่าลืมไปล่ะว่าใบหน้าของเธอที่เหมือนกับสือฮว่านั้นทำมา เลียนแบบไม่พอยังโง่คิดจะแทนที่เธอ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ"
"นายน้อยฮ่อ ฉันพยายามได้ อีกทั้งฮ่อฉวนสือก็ได้เจอฉันแล้ว แถมยังพาฉันไปโรงแรมด้วย ฉันเชื่อว่าเขาชอบฉันแน่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้