นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 280

มูนจ้องโทรศัพท์อย่างเหม่อลอย ได้ยินเสียงมาจากข้างในก็วางโทรศัพท์ลงด้วยใบหน้าที่เย็นชา

เธอขยี้ตา จมูกเริ่มแสบ "เธอฆ่าคุณพ่อจริงๆเหรอ?"

ฮ่อหยังเห็นเธอเจ็บปวดก็รู้สึกเสียใจที่เธอพลั้งปากไป "น้องพระจันทร์ เมื่อกี้เป็นฉันที่พูดไร้สาระเอง ฉันเองก็ไม่แน่ใจ อีกทั้งอาเล็กก็เก่งมาก ไม่มีทางตายหรอก บางทีอาจมีคนช่วยได้แล้วแค่ตอนนี้ยังไม่มีทางติดต่อเราได้"

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทุกคนต่างหาตัวฮ่อหมิง แต่ก็ไม่เจออะไรเลย

ในทะเลอันกว้างใหญ่ หากอีกคนจากไปจริงๆ ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะกู้ศพ พวกเขาได้แต่หวังว่าฮ่อหมิงจะได้รับการช่วยเหลือแล้ว

ตอนนี้ยวี่ป๋ายเยี่ยนกับหมิ่นซาไปจิงตู เพื่อให้แน่ใจว่าสือฮว่ารอด ถ้าสือฮว่ายังมีชีวิต ฮ่อหมิงก็คงจะไม่เป็นอะไร

แต่พวกเขาก็รอนานตั้งขนาดนี้แล้ว ฮ่อหมิงก็ยังไม่มาปรากฏตัว ถ้าไม่ใช่ว่ายังมีคนคุมพวกกลุ่มทหารรับจ้างล่ะก็ ป่านนี้คงวุ่นวายแล้ว

"ถ้าเธอฆ่าพ่อ หนูจะไม่มีวันยกโทษให้เธอเด็ดขาด"

มูนก้มหน้าลง ดวงตาเต็มไปด้วยความซับซ้อน และหัวใจก็เต้นแรงจนเจ็บ

ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือผู้หญิงคนนั้น เธอก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรกับพวกเขา

ฮั่วหยังก้มหน้าและตบไหล่ของเธอเบาๆ "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน ไม่ต้องห่วงนะ"

ถึงแม้ว่าเขาจะปลอบใจไปแบบนั้น แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

ยังไงก็มีหลายสิ่งหลายอย่างในทะเล สือฮว่ารอดมาได้ก็ถึงว่าเก่ง อาเล็กจะรอดไหมก็ไม่แน่ใจ

มูนขยี้ตาตัวเองแล้วกลั้นน้ำตาไว้ "หนูรอข่าวพ่ออยู่นะ"

ฮั่วหยังเลิกคิ้ว บางครั้งเขาก็สงสัยจริงๆ เกี่ยวกับความรู้สึกที่น้องพระจันทร์มีต่ออาเล็ก ทุกคนต่างกลัวอาเล็ก บอกว่าเขาฆ่าคนแบบไม่กระพริบตา แต่เด็กคนนี้กลับเข้าใกล้เขาตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ใช่ลูกนอกสมรสก็ไม่สมเหตุสมผลเลย

ดวงตาของเขาเป็นประกาย และเก็บผมของน้องพระจันทร์ไว้เงียบๆ คิดว่าถ้าเขาหาคนได้ เขาต้องไปทดสอบดีเอ็นเอให้ได้!

สือฮว่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอบล็อคเบอร์ใคร แต่ทุกอย่างที่เกี่ยวกับต่างประเทศ เธอก็รังเกียจหมด

หลังจากกลับมาที่บริษัท เธอก็คืนสถานะได้อย่างรวดเร็ว

เวลาเลิกงาน หนานจิ่นผิงโทรมาหาเธอบอกว่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว

สือฮว่าโล่งใจ ทันทีที่เธอออกจากอาคาร เธอก็เห็นหนานจิ่นผิงรออยู่ข้างนอก

หนานจิ่นผิงผอมไปมาก สวมเสื้อคลุมสีขาว ยืนอยู่ชั้นล่างในบริษัท

ผมหยักศกของเธอถูกมัดเป็นบันขึ้นไป ใบหน้าของเธอซีดจนแทบจะโปร่งแสง แต่อารมณ์เธอก็ดีขึ้นมาก

ดวงตาสือฮว่าเป็นประกายและอดไม่ได้ที่จะเข้าไปกอดเธอ "ขอโทษทีที่ไม่ได้ไปรับเธอจากโรงพยาบาล"

หนานจิ่นผิงหัวเราะแล้วเดินจูงมือเธอออกไป "ไปกินข้าวกับฉันดีกว่า ฉันจองไว้แล้วด้วย"

สือฮว่ารู้ว่าคนๆนี้อาจมีบางอย่าจะบอกก็พยักหน้าน้อยๆ

ก่อนขึ้นรถ เธอก็ไม่ลืมโทรบอกฮ่อฉวนสือ จนถูกหนานจิ่นผิงดูถูกอยู่พักหนึ่ง "เธอกับเขาตอนนี้ติดกันเหมือนกาวเลย ไปกินข้าวกับฉันยังต้องโทรไปบอกเขาด้วย"

สือฮว่าเม้มริมฝีปากแล้ววางโทรศัพท์มือถือลง "ประธานฮ่อขี้หึงจะตาย ถ้าฉันไม่บอกให้ชัดเจนแล้วเขาคิดว่าฉันไปกับผู้ชายจะทำยังไงล่ะ"

หนานจิ่นผิงสัมผัสได้ถึงความหึงหวงที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ ก็ไม่ได้สนใจ

รถมาจอดหน้าร้านอาหารและทั้งสองก็ลงจากรถ

หนานจิ่นผิงหยิบหน้ากากอนามัยออกมาจากด้านข้างก่อนจะสวมมัน

สือฮว่าเห็นเธอทำแบบนั้น แววตาก็ฉายถึงความเป็นห่วง

จากรายงานก่อนหน้านี้ทำให้คนทั่วไปจำใบหน้านี้ของหนานจิ่นผิงได้ ทุกคนรู้ว่าเธอขับรถชนคนและเรื่องที่เธอเคยอยู่ในคุก

เธอกลายมาเป็นคนน่ารังเกียจ ตอนนี้แม้แต่ใบหน้าก็เผยออกมาไม่ได้

สือฮว่ารู้สึกเป็นห่วงมาก หนานจิ่นผิงพยายามใช้ชีวิตอย่างมาก แต่ผลสุดท้ายกลับมาเป็นแบบนี้

เข้ามาในห้อง หนานจิ่นผิงก็ถอดหน้ากากอนามัยออก

โต๊ะเต็มไปด้วยอาการ เธอนั่งลง หยิบน้ำผลไม้มาดื่ม

สือฮว่ากลับไม่มีอารมณ์ "จิ่นผิง เธอมาหาฉันเพราะคิดว่าจะทำอะไรต่อไปได้แล้วใช่ไหม?"

หนานจิ่นผิงตัวแข็งทื่อก่อนจะหลุบสายตาลง

"คิดไว้แล้วล่ะ ก่อนหน้านี้ฉันอยากออกเดินทาง แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมาฉันคิดอย่างรอบคอบแล้วก็เห็นว่าฉันไม่ได้อยากไปข้างนอกขนาดนั้น ฉันแค่อยากหนีไป ไปจากจิงตู ไปจากโจวโจวกุยช่าน เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ ฉันมาหาเธอเพราะมีเรื่องของให้เธอช่วยอย่างหนึ่งน่ะ"

"ว่าไง?"

สำหรับคำขอของเธอ สือฮว่าต้องทำให้ได้แน่นอน

"ฉันอยากเข้าเจียหัว ฉันอยากจะเป็นนายหน้า"

เสียงของหนานจิ่นผิงเรียบนิ่งมาพร้อมกับความแน่วแน่ เธอคนน้ำผลไม้ในมือแล้วยกยิ้ม

"อันที่จริงก่อนหน้านี้ฉันไม่อยากมีชีวิตแล้ว ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ล้มเหลวมาก ต่อมาฉันสรุปได้ว่าอาจเพราะฉันไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ฉันติดคุกตั้งสามปีเพื่อผู้ชายคนหนึ่ง มันทำลายอนาคตของฉันเกือบทั้งหมด หลังจากถูกปล่อยตัวออกมา แม้ว่าฉันเคยบอกว่าฉันจะไม่ให้อภัยโจวกุยช่าน แต่ฉันก็รู้อยู่แก่ใจว่าฉันยังคาดหวังกับเขาอยู่ เป็นเพราะความคาดหวังฉันถึงล้มอีกครั้ง"

เธอพูดไปก็หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง

"ชีวิตสอนอะไรฉันไว้มาก ตอนที่อยู่โรงพยาบาล ฉันเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างทุกวัน ข้างนอกมีต้นไม้ มีนกมากมาย กิ่งก้านของต้นไม้มันบอบบางมาก แต่นกกลับไม่กลัวว่าจะตกลงไปเลย ต่อมาฉันก็รู้ว่า นกมันไม่ได้เชื่อในกิ่งก้าน แต่เชื่อในปีกของมันเอง คนก็เหมือนกัน เพราะฉันทำเป็นดอกไม้ ถึงได้รู้ว่าฤดูใบไม้ผลิจะจากไป ถ้าฉันเป็นฤดูใบไม้ผลิเองก็จะไม่ได้จากไปไหน ก็จะมีดอกไม้อยู่ตลอด เสี่ยวฮว่าเอ๋อร์ ฉันจะไม่ยอมแพ้"

สือฮว่าหรี่ตาและยกแก้วด้านข้างขึ้น "เพื่อนายหน้าชั้นหนึ่งในอนาคตของเรา"

หนานจิ่นผิงก้มหน้าแล้วยิ้มก่อนจะกรอดตาใส่เธอ "เรื่องเข้าเจียหัว ต้องให้เธอไปคุยกับฮ่อฉวนสือ ฉันต้องใช้เส้นสาย"

"ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"

ก่อนที่จะมาทานอาหาร สือฮว่าก็ไม่คิดว่าหนานจิ่นผิงจะผันตัวมาเป็นนายหน้าตัวแทน

แต่เมื่อคิดให้ดีแล้ว หนานจิ่นผิงจบนิติศาสตร์ แถมเคยทำงานในวงการบันเทิง คงคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์ภายใน และยังมีทักษะทางวิชาชีพที่เก่งอีก การเป็นนายหน้าคือตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด ถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของเธอ

ทันทีที่กลับมาถึงเฉียนสุ่ยวาน เธอก็บอกเรื่องนี้กับฮ่อฉวนสือ ฮ่อฉวนสือก็เต็มใจให้โอกาส

สือฮว่ากลัวว่าหนานจิ่นผิงเข้าเจียหัวแล้วจะเสียเปรียบ เลยจัดการข้อมูลระดับสูงทั้งหมดของเจียหัวเอาไว้ให้อีกฝ่าย

เธอเคยอยู่ที่เจียหัวมาระยะหนึ่งแล้วเผยให้เห็นด้านมืดของบริษัทจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตอนนี้เป็นเวลาดีที่จะไปเจียหัว

แถมใช้เส้นฮ่อฉวนสือด้วยแล้วก็ถือว่าสำเร็จ

แต่สิ่งที่สือฮว่าไม่รู้ก็คือถึงเจียหัวจะเปลี่ยนไป แต่ธรรมชาติของมนุษย์ก็ยังคาดเดาไม่ได้อยู่ดี นอกจากนี้สำนักงานใหญ่ของตี้เซิ่งก็ไม่ได้สนใจเจียหีวที่เป็นบริษัทบันเทิง ดังนั้นตอนแรกที่หนานจิ่นผิงเข้าไปก็จะต้องเจอเรื่องลำบากมากมาย

เธอไม่มีประสบการณ์ในฐานะเอเย่นต์มาก่อน และมอบหมายศิลปินหญิงคนหนึ่งให้กับเธอเท่านั้น แถมศิลปินหญิงคนนั้นยังมีชื่อเสียงที่แย่มากด้วย ฉาวโฉ่จนโดนคนเขาด่าไปทั่ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้