นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 296

ค่ำคืนยาวนาน บาปและความหวังทั้งหมดนั้นได้หายไป

หนานสือไม่รู้ว่าเบื้องหลังนั้นเกิดอะไรขึ้น นอกจากเสียงปืนที่คมชัดแล้ว เขาก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย

หลังจากวิ่งไปไกล เขาก็หยุดหอบและพาคนอื่นอีกสองสามคนนั้นขึ้นเครื่องบิน

มีฮ่อฉวนสืออยู่ที่ยังอยู่ที่นั่นและคนอื่นๆนั้นก็ไม่ได้ไล่ตามพวกเขา จนในขณะที่เครื่องบินกำลังขึ้นบินนั้น หนานสือถึงได้หยิบแหวนออกมามองมัน

เขาไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นอย่างไร และเขาก็ไม่กล้าไปนึกถึงสิ่งที่ประธานนั้นพบเจอ

เสียงปืนนั่นต้องมาจากประธาน เขาถูกคนฆ่าไปแล้วหรือฆ่าตัวตาย ซึ่งเขาก็ไม่รู้

กลับไปถึงเฉียนสุ่ยวาน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมอกและฝนก็ยังคงตกหนักอยู่

พวกเขาทั้งหมดหมดสภาพ ต่างยืนอยู่ที่หน้าประตูเฉียนสุ่ยวานและเขาเห็นซิ่งหยูที่พิงเสาสูบบุหรี่อยู่ได้อย่างรวดเร็ว

"ฉวนสือล่ะ?"

น้ำเสียงของซิ่วอยู่นั้นเบาบาง พลางโยนก้นบุหรี่ลงในถังขยะที่อยู่ข้างๆ

หนานสือไม่กล้าสบตาเขา จึงทำได้เพียงก้มหน้าลง

"อย่าบอกฉันนะว่าเขาตายแล้ว"

"ก็คงประมาณนั้นมั่งครับ แล้วคุณสือล่ะครับ?"

หนานสือพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองแล้วเปิดประตูห้องโถงออก

ซิ่วหยูเงียบ เขาเชื่อว่าฮ่อฉวนสือจะตายไปแบบนี้

"สือฮว่าอยู่ในห้องนอน"

หนานสือเดินตรงไปที่ชั้นสอง เปิดประตูและเห็นผู้หญิงที่ยังอยู่ในอาการสลบ

ไม่มีสีเลือดใดๆบนใบหน้าของเธอ และไม่มีชีวิตชีวาตามปกติ

หนานสือมองไปที่เธอและไม่สามารถทนต่อความโกรธใดๆได้

ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาใกล้ สือฮว่าก็ตื่นขึ้นพร้อมกับหมอกที่มัวในดวงตา

"คุณสือ นี่คือแหวนที่ประธานขอให้ผมมอบให้คุณ"

เขาหยิบแหวนของฮ่อฉวนสือออกมาแล้ววางไว้ด้านหน้าสือฮว่า จากนั้นก้มตัวลงเปิดลิ้นชักที่อยู่ด้านข้างแล้วเอาข้อตกลงการหย่าฉบับนั้นออกมา "ท่านประธานได้ลงนามในเอกสารนี้แล้ว ต่อจากนี้ไปคุณสือก็จะเป็นอิสระแล้วครับ"

สายตาของสือฮว่านั้นไร้จิตวิญญาณเล็กน้อย มือทั้งสองข้างจับผ้าปูที่นอนที่อยู่ใต้ตัวไว้แน่น "เขาอยู่ที่ไหน?"

เสียงของเธอนั้นแหบมากและมีแตกรอยร้าวในริมฝีปากของเธอ

"คุณสือคุณเปิดเผยที่อยู่ของประธานแล้ว มีคนจำนวนมากไล่ฆ่าเรา"

ขณะที่หนานสือพูดไป ดวงตานั้นก็แดงไปด้วย พลางจ้องไปที่สือฮว่า"คุณสือ สิ่งที่คุณสูญเสียคือผู้ชายที่รักคุณมากที่สุด หวังว่าคุณจะไม่เสียใจในอนาคต"

สือฮว่าหลับตาลง สายตานั้นสงบมาก ความเศร้าโศกอย่างหนึ่งที่ทนไม่ได้ก็ปะทุออกมาจากหน้าอกของเธอ

ความเศร้าโศกแบบนี้เป็นของเธอและไม่ใช่ของเธอ และในหัวของเธอนั้นก็ยิ่งงสับสนวุ่นวาย

ข้อตกลงการหย่าร้างเขียนขึ้นโดยฮ่อฉวนสือ ซึ่งลายมือนี้เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี

เธอเริ่มไออย่างรุนแรง ราวกับจะไอจนให้หัวใจทะลุออกมา

"ฮ่อสือหนานไปที่ไหน?"

เธอถามอย่างเลื่อนลอย พลางกำข้อตกลงการหย่าร้างอย่างเหม่อลอย

หนานสือขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นกับคนๆนี้?

"คุณสือ ท่านประธานจะอยู่ที่ลาสเวกัสตลอดไป"

"เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!!!"

สือฮว่าดูเหมือนว่าจะตื่นจากความฝันอันยิ่งใหญ่ ฉีกสัญญาหย่าร้างในมือจนเป็นชิ้นๆ

ซิ่วหยูยืนอยู่ที่ประตู สังเกตุการแสดงออกของเธอ เมื่อเห็นลักษณะเช่นนี้ของเธอ จึงรีบเข้ามาจับเขาไว้

"ให้หมอมาฉีดยาระงับประสาท"

หนานสือยังคงดึงสติกลับมาไม่ได้ ลังเลอยู่สองสามวินาที ก่อนที่จะโทรหาหมอ

หลังจากที่แพทย์ฉีดยาระงับประสาท สือฮว่าก็อยู่ในอาการสลบอีกครั้ง

หนานสือมองไปที่ซิ่วหยูด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ "คุณสือเป็นอะไรไปครับ?"

ซิ่วหยูจุดบุหรี่อีกครั้ง คิ้วขมวดอย่างเป็นกังวล "นายรู้จักการสะกดจิตไหม?"

หนานสือเงียบ แน่นอนว่าเขารู้ว่านักสะกดจิตชั้นนำของโลก สามารถสะกดจิตความจำของคนได้โดยตรง

ซิ่วหยูหัวเราะเย็นชาและพ่นวงแหวนควันออกเบาๆ "นักสะกดจิตชั้นนำของโลกเมื่อเทียบกับตระกูลหมิงในเมืองแห่งความบาปแล้าเป็นเพียงแม่มดน้อยที่เจอแม่มด การสะกดจิตมีต้นกำเนิดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลหมิง และหมิงยวิ๋นยังเป็นนักสะกดจิตระดับแนวหน้าของตระกูลหมิง สือฮว่าเคยเห็นเธอ ไม่กลายเป็นบ้าก็ดีมากแล้ว"

"คุณซิ่ว คุณสือเคยถูกเธอสะกดจิตเหรอ?"

ซิ่วหยูสูบบุหรี่พลางปิดประตูห้องนอน และเดินลงมาไปชั้นล่างพร้อมกับหนานสือ

"ใช่ เคยถูกคนสะกดจิตและไม่เพียงแค่ครั้งเดียว ก่อนหน้านี้ฉวนสือเคยขอให้ฉันตรวจสอบเรื่องของสือฮว่า สือฮว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับรอยแผลเป็นที่ท้องของตัวเองเลย และจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยมีลูกมาก่อน ตอนนั้นฉันก็เคยสงสัยในความทรงจำของเธอบ้างแล้ว สือฮว่าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก จิตตานุภาพของเธอแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงทั่วไปมาก ในตอนที่ถูกสะกดจิตครั้งแรกนั้นไม่ได้ส่งผลวุ่นวายในชีวิตเธอ แต่ครั้งที่แล้วเธอได้ไปที่เมืองแห่งความบาปและได้พบกับคนที่สะกดจิตเธออีกครั้ง ซึ่งนี่ทำให้โลกจิตของเธอพังทลายลงทันทีและกลายเป็นขี้สงสัยและหวาดระแวง"

ซิ่วหยูนั่งไขว้ขาและสะบัดขี้เถ้าบุหรี่เบาๆ ด้วยปลายนิ้ว

"บรรพบุรุษของตระกูลหมิงเป็นนักสะกดจิตที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป เมื่อสามร้อยปีที่แล้ว ในขณะนั้นผู้คนคิดว่าการสะกดจิตเป็นเรื่องลึกลับและเป็นเวทมนตร์มาก ดังนั้นเขาจึงถูกต่อต้าน ต่อมาเขาก็ถูกส่งตัวไปยังเมืองแห่งความบาป อย่างที่เราทราบกันดีว่าในเมืองแห่งความบาปนั้นเป็นกลุ่มคนสิ้นหวัง การสะกดจิตของชายคนนี้เป็นที่ชื่นชมอย่างมาก ดังนั้นตำแหน่งของตระกูลหมิงในเมืองแห่งความบาปจึงมีความสำคัญมาก"

หนานสือนั้นไม่เข้าใจเมืองแห่งความบาป และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับตระกูลหมิง และเมื่อเห็นว่าเป็นแบบนี้ ซิ่งหมิงนั้นดูเหมือนจะรู้จักตระกูลหมิวเป็นอย่างดี

ขณะที่ซิ่วหยูกล่าว ดวงตานั้นก็ยิ่งลึกและลึกขึ้น "คนที่ถูกสะกดจิตจะเข้าสู่สภาวะมึนงงในจิตใจ การตัดสินเอง และการกระทำโดยสมัครใจนั้นอ่อนแอหรือสูญหาย ความรู้สึกและการรับรู้ที่บิดเบี้ยวหรือหลงทาง และจะปฏิบัติตามคำแนะนำหรือคำสั่งของผู้สะกดจิตและตอบสนอง ฉันโทรหาฉวนสือต้องการให้เขากลับมา เนื่องจากสือฮว่าเคยถูกสะกดจิตและต้องการจะฆ่าเขา ดังนั้นการกระทำในครั้งนี้ของเขาจะเป็นอันตรายมาก แต่สายนั้นพึ่งดำเนินการได้ครึ่งทางก็ถูกตัดขาด"

ตาของซิ่วหยูเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และเขาก็ทิ้งก้นบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่ "ฉันเคยถามคนใช้ว่าสือฮว่าซ่อนกริชไว้ ฉันคิดว่ากริชนี้ไม่ได้ใช้เพื่อจัดการฮ่อฉวนสือเท่านั้น มันยังใช้มาเพื่อจัดการกับตัวเองด้วย หากเธอทำลายฮ่อฉวนสือจริงๆ เธอก็ทำลายตัวเองด้วย จิตใต้สำนึกของเธอกำลังต่อสู้ เธอไม่ต้องการทำร้ายฮ่อฉวนสือ แต่เธอควบคุมมันไม่ได้ ดังนั้นเธอจะเลือกทำร้ายตัวเอง"

หลังจากที่ซิ่วหยูพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนทันที "ซวยแล้ว!"

เขาวิ่งขึ้นไปชั้นบนด้วยความตกใจ กลับพบว่าประตูห้องนอนนั้นถูกคนล็อคไว้แล้ว

เขากังวลมากและเตะประตูออกทันที

ในห้องนอนนั้นไม่มีใครอยู่บนเตียง และเสียงหยดน้ำในห้องน้ำก็ดังขึ้น

ซิ่วหยูไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เตะประตูห้องน้ำออกเป็นชิ้นๆ

สือฮว่านอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ น้ำในอ่างกลายเป็นสีแดงและล้นออก ห้องน้ำทั้งห้องนั้นกลายเป็นสีแดง

กริชเล่มนั้นวางอยู่ข้างๆอย่างสงบ โดยมีรอยลึกอยู่ที่ข้อมือของเธอ

ซิ่วหยูดึงเนคไทลงและพันข้อมือของเธอไว้ ใบหน้าของเธอนั้นซีดขาว "รีบไปเรียกแพทย์ แค่หยุดเลือดยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเย็บแผล!"

หนานสือพยักหน้า ไม่กล้ารอช้าและรีบเรียกหมอเข้ามาทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้