นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 297

เมื่อหมอเห็นแผลข้อมือที่ลึกขนาดนั้น ก็ตกใจจนมือสั่น ใช้เหล็กค้ำข้อมืออย่างสั่นเทาแล้วเริ่มเย็บแผล

สือฮว่านั้นเงียบ แม้แต่ตอนที่เข็มแทงทะลุเนื้อ เธอก็ไม่มีความรู้สึกใด

เธอลืมตาและจ้องไปที่เพดานอย่างว่างเปล่า

กระบวนการเย็บใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งแพทย์นั้นเหงื่อท่วมหัว

หลังจากการฆ่าเชื้ออย่างระมัดระวัง เขาถึงได้โล่งใจ

สือฮว่าได้นอนหลับไปแล้วและมีเหงื่อเต็มหน้าผาก

ซิ่วหยูขอให้สาวใช้เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ ขณะที่เขากับหนานสือได้ยืนเฝ้าที่ประตู

พวกเขากลับเข้าไปในห้องนอน เมื่อเห็นสาวใช้ออกมาแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าอกของสือฮว่าที่ยังคงเพิ่มขึ้นและลดลงเล็กน้อย พวกเขาคงคิดว่าเธอตายไปแล้วจริงๆ

หนานสือรู้สึกอึดอัดมากและพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "แล้วจะทำยังไงถึงจะกลับเป็นปกติได้ครับ?"

ซิ่วหยูร้อนรนจนอยากจะหมุนตัวเป็นวงกลม"ฉันไม่รู้ ครั้งที่แล้วที่สือฮว่าไปที่เจิ้งเว่ยเทคโนโลยี ได้ยินมาว่าเธอถูกขังอยู่ในลิฟต์เป็นเวลานาน ในเวลานั้นวิญญาณของเธอกำลังจะพังทลาย ดังนั้นผลกระทบของการสะกดจิตกับเธอมันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และนี่คือการสะกดจิตที่ซ้อนทับ การสะกดจิตครั้งแรกของเธอน่าจะเป็นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาและการสะกดจิตครั้งที่สองคือครั้งที่แล้วที่เธอไปเมืองแห่งความบาป ผู้หญิงคนที่ชื่อหมิงยวิ๋นดูไม่เหมือนผิวง่ายเหมือนภายนอก เธอรู้จักกับฮ่อหมิงตั้งแต่ยังเด็กและเป็นคู่รักในวัยเด็ก ทั้งคู่มีชื่อเสียงในเมืองแห่งความบาป ทุกคนต่างบอกว่าเธอกับฮ่อหมิงเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างขึ้น คาดว่าท้ายที่สุดทั้งสองจะแต่งงานกัน"

สือฮว่าแพ้ให้กับหมิงยวิ๋น แต่สิ่งที่แพ้คือฐานนะครอบครัว

เธอเติบโตมาในชนบทและไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ ความเชื่อเดียวของเธอคือเรียนหนักและเปลี่ยนชนชั้นของตัวเอง

สำหรับเมืองแห่งความบาปนั้น และการสะกดจิต สิ่งเหล่านี้ไม่อยู่ในขอบเขตที่เธอยอมรับ

สำหรับเธอแล้ว เมืองแห่งความบาปเป็นสถานที่ห่างไกลอย่างมาก

ถ้าหมิงยวิ๋นอยากจะจัดการกับเธอ มันสามารถจัดการได้ง่ายดาย

คนนอกไม่รู้แน่ชัดว่าคำสั่งของหมิงยวิ๋นที่คำสั่งให้อะไรกับเธอ แต่แน่นอนว่าคำสั่งนี้เกี่ยวข้องกับคำพูดของฮ่อฉวนสือ!

เดิมทีคำสั่งนี้เพียงสั่งให้สือฮว่าสงสัยฮ่อฉวนสือเท่านั้น แต่หลังจากกลับมาจากเจิ้งเว่ยเทคโนโลยี โลกในจิตวิญญาณของเธอก็พังทลายยิ่งขึ้นไปอีก และคำสั่งที่ลึกซึ้งก็ยิ่งก็ปรากฏขึ้น เธอไม่เพียงแต่สงสัย แต่ยังต้องการชีวิตของฮ่อฉวนสือด้วย

มีแค่วิธีนี้เท่านั้น เธอถึงจะถือว่าได้ทำตามคำสั่งที่นักสะกดจิตมอบให้เธอได้สำเร็จ

การคาดเดาโดยซิ่วหยูนั้นถูกต้อง แต่เขาพลาดอย่างหนึ่ง นั่นคือแหวนคู่นั้น

หมิงยวิ๋นเคยเอาแหวนคู่นั้นมาให้สือฮว่าดู ดังนั้นทุกอย่างจึงสมเหตุสมผล

ไม่ใช่แค่สิ่งที่เจอในเจิ้งเว่ยเทคโนโลยีเท่านั้นที่ทำลายฟางเส้นสุดท้ายในโลกจิตวิญญาณของสือฮว่า แต่ยังรวมถึงแหวนคู่นี้ด้วย แหวนคู่นี้ถึงจะเป็นสิ่งมี่ที่ทำร้ายเธอจริงๆ!

ซิ่วหยูสำรวจที่หน้าผากของเธออยู่ครู่หนึ่งด้วยสายตาที่เห็นอกเห็นใจ "หนานสือ ถ้าเธอตื่นมา นายและฉันจะต้องรวมมือกันให้เธอรู้แจ้งว่าฉวนสือได้ตายไปแล้ว และตายเพราะเธอ ฉันไม่รู้ว่าทำแบบนี้จะมีประโยชน์ไหม แต่เนื่องจากการสะกดจิตครั้งที่สองเกี่ยวข้องกับฉวนสือ ถ้าฉวนสือตายคำสั่งก็ถือว่าสมบูรณ์ และไม่รู้ว่าเธอจะสามารถฟื้นขึ้นได้ไหม"

"แต่นี่มันจะโหดร้ายเกินไป สำหรับคุณสือหรือเปล่า…"

เสียงของหนานสือแหบแห้ง ก่อนกลับมาเฉียนสุ่ยวาน เขาเกลียดเธอมาก เกลียดเธอที่ทรยศต่อประธาน

แต่สือฮว่าก็ยังดิ้นรนกับคำสั่งในใจของตัวเอง แม้แต่กรีดแผลยาวขนาดนั้นบนข้อมือของตัวเอง เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะตาย

ถ้าบอกให้เธอรู้ว่าประธานเสียชีวิตเพราะเธอ จิตใจของเธอจะต้องพังทลายไปถึงขั้นไหน?

"ต้องแหกกฎเดิมเพื่อสร้างใหม่ เมื่อหมดหนทางมีแต่การสู้จนสุดชีวิตเท่าที่อาจจะรอดได้ เราทำได้แค่เชื่อใจเธอ เชื่อว่าเธอจะรอดจากช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้"

"ผมเข้าใจแล้ว"

เสียงของนานสือนั้นทื่อๆและไม่พูดอะไรต่อ

สือฮว่าที่สลบไปครั้งนี้ได้สลบไปเป็นเวลาสามวัน

เมื่อเธอตื่นขึ้น หนานสือและซิ่วหยูได้อยู่หน้าเตียงเธอแล้ว

เธอไม่อยากจะพูด และพอรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

"สือฮว่า คุณต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ฉวนสือตายแล้ว เขาตายเพราะการทรยศของคุณ คนที่คุณทำให้ตายไม่ใช่ฮ่อหมิง แต่เป็นสามีในนามของคุณ ฮ่อฉวนสือ!"

"ฉันเปล่า"

สือฮว่าเริ่มหักล้างและสมองนั้นก็ปวดอย่งรุนแรง

"ถ้าเธอไม่ได้ทำ แล้วจะตัดข้อมือทำไม คุณกำลังต่อสู้กับอะไร?"

"ฉัน......"

สือฮว่าพูดไม่ออก เธอต่อสู้กับอะไร?

เธอไม่รู้ ในช่วงนี้เธอพยายามเอามีดแทงที่ข้อมือตัวเองอยู่รอด ดูเหมือนว่าสิ่งนี้ถึงจะทำให้สบายขึ้น

ซิ่วหยูไม่อนุญาตให้เธอหนี เมื่อเธอหนี การสะกดจิตที่เธอต้องทนจะยิ่งรุนแรงขึ้น และเธอก็ยิ่งเชื่อมั่นมากขึ้นว่า คนที่เธอฆ่าคือฮ่อหมิง!

"ก่อนตายฮ่อหมิงให้เราดูแลคุณให้ดี ข้อตกลงการหย่าร้างนั้นเป็นความอ่อนโยนครั้งสุดท้ายของเขาที่มีต่อคุณ ในเมื่อคุณอยู่กับเขาแล้วไม่มีความสุข งั้นก็ปล่อยเขาไปอย่างสมบูรณ์เถอะ"

"ฉันไม่ได้ทำ! ไม่ได้ทำ!"

อยู่กับเขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร เธอเคยบอกแล้วจะตกหลุมรักเขา แค่ให้เวลาเธอสักหน่อย เธอก็จะตกหลุมรักเขา!

แต่พวกเขากำลังพูดถึงอะไร เธอจะฆ่าฮ่อฉวนสือได้อย่างไร ทั้งๆที่เธอต้องการปกป้องเขา...

เขาบอกว่าจะเป็นแสงสว่างเดียวของเธอ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอสาบานว่าเธอจะปกป้องเขาด้วยชีวิต

ใช่ เธอกำลังต่อสู้กับอะไร ทำไมเธอถึงอยากกริชข้อมือตัวเองมากกว่าหนึ่งครั้ง

เพราะ...เพราะเธอต้องการปกป้องเขา...

สือฮว่ารู้สึกแค่เพียงปวดหัวเท่านั้น มันเหมือนกับภูเขาที่สะสมและเกิดระเบิดอย่างกะทันหัน เธอก้มลงพลางอ้วกเลือดออกมาเต็มปากและไอไม่หยุด

ซิ่วหยูหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมายื่นให้เธอ

สือฮว่ารับมันและดวงตานั้นแดงก่ำ

"ก่อนฉวนสือตาย ได้ให้หนานสือรับช่วงของตี้เซิ่งต่อและให้เขาสัญญาว่า หากคุณมีลำบากต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือคุณ สือฮว่า สิ่งที่คุณต้องทำคือไม่ใช่การโทษตัวเอง แต่คือการดูแลตัวเองให้ดีและแก้แค้นแทนเขา."

สือฮว่าเช็ดมุมปากอย่างเงียบๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความคม

"ตระกูลหมิงในเมืองหลวงแห่งความบาปเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในการสะกดจิต และหมิงหยิ๋นเป็นผู้นำในหมู่คนรุ่นใหม่ การสะกดจิตของเธอนั้นแข็งแรงมาก จนคนนอกอย่างเรานั้นไม่เข้าใจ คุณเคยติดต่อกับเธอ บวกกับพฤติกรรมต่างๆของคุณในช่วงนี้ เธอต้องถูกสะกดจิตมาก่อน คุณลองคิดให้ดี หมิงยวิ๋นยังบอกอะไรคุณอีก ทุกอย่างที่เธอทำคือให้คุณผ่อนคลายความระมัดระวังและปล่อยให้การสะกดจิตของเธอหยั่งรากในหัวของคุณ "

สือฮว่าหลับตาลง ต่อต้านกับความเจ็บปวดที่พลุ่งพล่านในหัว และนึกถึงแหวนคู่ที่หมิงยวิ๋นแสดงให้เธอดูในทันที

เป็นเพราะแหวนคู่ที่ทำให้เธอเริ่มเชื่ออย่างบ้าคลั่งว่าฮ่อฉวนสือคือฮ่อหมิง

เธอซ่อนกริชไว้ใต้หมอน ขณะนั้นก็เคยคิดที่จะเจาะข้อมือตัวเองด้วยกริช เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องทำแบบนั้น ดูเหมือนว่าถ้าเธอทำ ความเชื่อในหัวใจของเธอจะได้รับการคุ้มครอง

แหวนคู่ที่หมิงยวิ๋นแสดงให้เธอเห็น ในที่สุดก็ปรากฏในมือของฮ่อฉวยสือ นี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำลายเธอ โลกในจิตวิญญาณของเธอพังทลายลงอย่างสมบูรณ์และตกอยู่ภายใต้การควบคุมของหมิงยวิ๋น

"สือฮว่า คุณเอามีดแทงตัวเองและบังคับตัวเองให้หลุดจากการควบคุมของเธอ และวันนี้ก็อาเจียนเป็นเลือดอีก ซึ่งพิสูจน์ว่าคุณวิตกกังวลอยู่ และผลของการสะกดจิตจะไม่รุนแรงขนาดนั้นแล้ว มีกำลังใจขึ้นมาสู้เถอะ"