นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 330

เปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เขาจะอดทนกับผู้หญิงที่เคยมีความสัมพันธ์กับคนอื่นได้อย่างไร และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นยังเป็นพี่ชายฝาแฝดของเขา!

แต่การละทิ้งเรื่องแบบนี้ในตัวสือฮว่า แม้ว่าเขาจะโกรธ แต่ก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องที่จะให้อภัยไม่ได้

เขาขยี้คิ้วตัวเอง รู้สึกว่ากำลังจะบ้า สำหรับความอดทนของสือฮว่านั้นมันไม่มีเส้นจำกัด

เพียงแค่เธอขมวดคิ้วหรือร้องไห้ มันน่ากลัวและทำร้ายผู้คนมากกว่าอาวุธที่แหลมคมที่สุดในโลกนี้

ฉินหยู่รู้สึกว่าตัวเองไร้สาระสิ้นดี เธอต้องการช่วยชายคนนี้ ต้องการช่วยเขาให้พ้นจากทะเลแห่งความทุกข์

เขาหมกมุ่นอยู่กับการไม่รับรู้และเข้าลึกลงไปในนั้น

"ท่านประธาน ฉันเข้าใจแล้ว"

เธอลุกขึ้นและจากไปโดยแทบจะไม่หันกลับมามอง ดวงตานั้นแดงก่ำและกัดฟันจั๊กจี้ด้วยความเกลียดชัง

เมื่อเธอออกไปก็พบกับสือฮว่าที่กลับมาพอดี

สือฮว่านั้นรีบร้อนมาก น่าจะยกเลิกงานแถลงข่าวไปแล้ว

เมื่อเห็นฉินหยู่ คิ้วของเธอก็ขมวดขึ้นมา

ฉินหยู่จับที่แก้มของตัวเอง และยิงสายตาที่ขุ่นเคืองใส่เธออย่างตรงๆ "เคล็ดลับในจับผู้ชายของคุณสือนี่สูงจริงๆ ทำให้ประธานคิดถึงคุณอย่างตายใจขนาดนี้ ตอนนี้คุณคงจะรู้สึกเติมเต็มมากสินะ? แต่ความรักของผู้ชายมักเป็นภาพลวงตาอยู่เสมอ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจนะว่าประธานจะอดทนต่อคุณไปตลอด"

พูดจบ เธอก็ขึ้นรถที่อยู่ข้างๆไป

สือฮว่ายืนอยู่ที่นั่นชั่วครู่ ก่อนจะเข้าไปในวิลล่า

ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่น เธอก็เห็นฮ่อฉวนสือนอนอยู่บนโซฟา ตั้งแต่เขากลับมาก็เหนื่อยมาตลอด คิ้วนั้นมักจะหนาและเศร้าอยู่เสมอ

สือฮว่าเปลี่ยนรองเท้าที่โถงทางเดินและรีบเดินไปข้างเขา ยังไม่ทันที่จะพูด ข้อมือของเธอก็ถูกจับไว้

ท่าทางของเขานั้นแข็งมาก กดเธอลงบนเข่าของเขาแล้วตบลงที่ก้นของเธอ

ใบหน้าของสือฮว่าเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที และเริ่มต่อสู้อย่างดุเดือดขึ้นมา "ฮ่อฉวนสือ คุณปล่อยฉันนะ!"

เธอโตขนาดนี้แล้ว เขายังมาตบเธอเหมือนกับเด็กได้ยังไง!

ฮ่อฉวนสือนั้นไม่ได้หยุดพลางตบลงไปอีกครั้ง "สือฮว่า ถ้าวันนี้ผมไม่ตื่น งานแถลงข่าวของคุณก็คงจะแถลงเสร็จแล้วใช่ไหม?"

สือฮว่าไม่พูดอะไรและโกรธจนหูนั้นแดง

ฮ่อฉวนสือนึกถึงอาการบาดเจ็บที่ร่างกายของเธอก็รีบดึงคนขึ้นมาทันที แล้วอุ้มมาไว้ในอ้อมแขน "ทุกครั้งที่คุณโกรธผม ผมก็รู้สึกปวดหัว"

เมื่อสือฮว่าเห็นความเหน็ดเหนื่อยในดวงตาของเขา าก็รีบเหยียดมือออกไปวางลงบนขมับของเขา โดยกดลงด้วยแรงที่พอดี

ฮ่อฉวนสือหรี่ตาลง เอนหลังและผ่อนคลายร่างกาย

สือฮว่ากดค้างไว้ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเมื่อยมือเธอจึงหยุด และซบศีรษะลงที่คอของเขา

ฮ่อฉวนสือหลับตาลงและลูบหลังเธอเบาๆ "บางครั้งคนเรายิ่งยืมสูง บางสิ่งบางอย่างก็ยิ่งดูได้โปร่งใสมากขึ้น ผมรู้ตั้งแต่แรกว่าคนมาพัวพันกับคุณคือฮ่อหมิง ถ้าคุณคลอดลูกของฮ่อหมิงจริงๆ นั้นแปลว่าพวกคุณได้พบกันก่อนหน้านี้ เขาใช้วิธีการมากมายในการรั้งคุณไว้แต่ก็ล้มเหลว ชายคนนั้นคือความล้มเหลว คุณยินดีอยู่เคียงข้างผม ผมถือว่าชนะเขาไปครึ่งหนึ่ง สือฮว่า ถ้าคุณคิดมาก งั้นก็ให้เข้าใจว่านี่เป็นเกมระหว่างผมกับเขา ทัศนคติของคุณกำหนดว่าพวกเราคนไหนจะชนะ"

หลังจากพูดจบ เขามองไปที่มือของสือฮว่าและทำท่าทางให้เธอถูต่อไป

สือฮว่าเงยหัวขึ้นแล้วกัดลงระหว่างคอของเขา การกัดครั้งนี้ไม่ได้เก็บแรงใดๆ ทำให้ฮ่อฉวนสือที่สภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นนั้นกระจ่างขึ้นมาทันที

สือฮว่ากัดจนเสียวฟันก่อนจะหยุดลงและปลายลิ้นของเธอก็กวาดไปตามเหงือกของตัวเอง

ฮ่อฉวนสือสัมผัสบริเวณที่ถูกเธอกัด มันเจ็บมากและคาดว่าน่าจะมีเลือดออกด้วยซ้ำ

สือฮว่าปวดใจและก้มศีรษะลงอีกครั้งเพื่อดูดเลือดหยดเหล่านั้นจนสะอาด

"โมโหอะไร?"

สือฮว่าไม่ได้พูดพลางลดสายตาลง

ฮ่อฉวนสือรู้สึกขำและกอดเธอไว้ด้านข้าง แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน

หลังจากวางคนลงบนเตียงในห้องนอนแล้ว เขาก็มองดูเธอจากด้านบน "เจ็บแผลไหม?"

สือฮว่าส่ายหัว

วินาทีถัดมา ชายคนนั้นกดทับลงไป

ตอนนี้ข้างนอกนั้นแดดแรงมาก แต่เขากลับไม่สนใจอะไรเลยและไม่ได้คิดที่จะไปทำงาน ความคิดทั้งหมดนั้นอยู่ที่ตัวเธอ

สือฮว่ารู้สึกว่าทั้งสองคนดูมีเสน่ห์เกินไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงเอาหมอนที่อยู่ข้างๆมาปิดหน้าไว้

แม้แต่นิ้วของเธอก็ยังย้อมเป็นสีแดงเข้ม ผมยาวดำของเธอก็สยายอย่างอิสระ ซึ่งสร้างความแตกต่างอย่างมากกับผิวสีขาว ซึ่งมันกระตุ้นประสาทสัมผัสของผู้คน

ทันทีที่ฮ่อฉวนสือเข้าไปพัวพันกับริมฝีปากของเธอเสร็จและกำลังจะดำเนินการในขั้นต่อไป ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

"ท่านประธานครับ หวังอี้หวนและหวังฉั่งมาแล้ว บอกว่าต้องการพบคุณ"

ฮ่อฉวนสือขมวดคิ้วและก้มศีรษะลงจูบสือฮว่าต่อ

สือฮว่าถูกเขาจูบจนหายใจไม่ออกและไม่สามารถพูดอะไรได้ ดังนั้นจึงได้หันศีรษะและพูดว่า "หนานสือ ส่งพวกเขากลับไปเถอะ"

ฮ่อฉวนสือไม่สามารถจูบริมฝีปากของเธอได้ ดังนั้นจึงจูบที่คอของเธออย่างไม่มีช่องว่าง

หนานสือก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน แต่สองพ่อลูกที่หน้าประตูนั้นยากยิ่งกว่าที่จะรับมือ

"คุณสือครับ หวังอี้หวนกำลังร้องโวยวายอยู่ที่หน้าประตูเฉียนสุ่ยวาย นอกจากนี้เขายังเชิญนักข่าวมาอีกหลายคน โดยบอกว่าท่านประธานผิดสัญญา ทั้งๆที่ระบุชัดเจนว่าจะแต่งงานกับลูกสาวของเขา ยังบอกอีกว่าประธานได้ปกปิดประวัติการแต่งงานของตัวเองและประนามประธานว่าเป็นผู้ชายขี้ขลาด"

ตอนนี้ด้านนอกเต็มไปด้วยข่าวเกี่ยวกับสือฮว่าและฮ่อฉวนสือ เมื่อนักข่าวดมกลิ่นข่าวนี้ก็อยากจะติดตามเป็นธรรมดา

สือฮว่าลุกขึ้นจะไปจัดการ แต่ฮ่อฉวนสือคว้าข้อมือของเธอไว้ "เป็นใคร?"

"เรื่องมันยาว ยังไงคุณก็ไม่รู้"

ฮ่อฉวนสือเลิกคิ้วขึ้นและกดเธอลงอีกครั้ง "ในเมื่อไม่รู้จักเขา งั้นก็ไม่ต้องไปสนใจ"

แรงของผู้ชายนั้นแข็งแรงมาก ซึ่งเธอไม่สามารถดิ้นออกไปได้เลยและรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย

"ก่อนหน้านี้หัวของฮ่อหมิงเคยเกิดการกระแทกอย่างแรงมาก่อน จนปัญญาอ่อนไปอยู่พักหนึ่ง ฉันคิดว่านั้นเป็นคุณเลยช่วยเขากลับมาดี"

เมื่อสือฮว่าพูดเช่นนี้ เสียงของก็หยุดลงและดวงตาก็มืดลงทันที

หลายวันมานี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น และเธอไม่มีเวลามาเล่ารายละเอียดมากนัก

หวังอี้หวนเคยบอกว่า ฮ่อหมิงถูกยิงในขณะนั้น เป็นเธอที่เอาเงินที่ช่วยชีวิตของหวังฉั่งมาช่วยฮ่อหมิง ดังนั้นฮ่อหมิงเลยยังรอดอยู่

อย่างไรก็ตามหนานสือก็ยังเปิดเผยว่าตอนนั้นฮ่อฉวนสือนั้นถูกยิง

ทำไมพวกเขาทั้งสองคนถึงถูกยิงได้?

เมื่อคิดอย่างนี้ เธอก็จำช่วงเวลาที่เธอกระโดดลงทะเลขึ้นมาอีกครั้ง ฮ่อหมิงกระโดดลงไปในทะเลกับเธอ และฮ่อฉวนสือก็ถูกช่วยขึ้นมาจากในทะเล

ถ้าเรื่องบังเอิญครั้งเดียวก็ไม่เป็น แต่ถ้ามันเป็นเรื่องบังเอิญแบบนี้ ก็ควรค่าแก่การสืบหา

เธอหรี่ตาลง หลบริมฝีปากของชายที่ยังคงจูบที่คอของเธอและพูดเบาๆว่า "ฮ่อฉวนสือ คุณยังจำครั้งแรกที่เรามีความสัมพันธ์กันได้ไหม?"

ฮ่อฉวนสือหยุดลงและเงยหน้าขึ้นจากร่างที่อ่อนโยน"ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ คุณย่าขังผมกับมู่หวั่นโจวไว้ในห้อง ตอนนั้นผมมีความคิดแอบแฝง ขอให้คุณไปช่วยผมและใช้โอกาสนั้นมีอะไรกับคุณ"

ริมฝีปากของเขาจิกที่ริมฝีปากของเธออยู่ครู่หนึ่ง คิ้วนั้นถูกย้อมเป็นสีแดงเล็กน้อย "คุณโกรธมาก หลังจากนั้นก็ยังตบหูผมเลย"

มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ อย่างไรก็ตามตอนนั้นเธอเพิ่งถูกเขากระทำเสร็จ ซึ่งการตบครั้งนั้นไม่มีเรี่ยวแรง ดังนั้นจึงไม่มีร่องรอย ซึ่งแม้แต่พวกหนานสือก็ไม่รู้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้