เมื่อเรื่องของหมิงยวิ๋นได้รับการจัดการแล้ว ฮ่อฉวนสือก็ไปเยี่ยมคุณท่าน
คุณท่านยังอยู่ในห้องไอซียู ในช่วงสังเกตการณ์ สถานการณ์ปัจจุบันก็ยังคาดเดาไม่ได้
เขายืนอยู่นอกห้องกระจกและสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง พลางฟังคำอธิบายของแพทย์เกี่ยวกับสภาพร่างกายของคุณท่าน
ผ่านไปครู่หนึ่ง หมิ่นซาก็รีบเข้ามา "นายท่าน เมื่อกี้มีข่าวจากทางตระกูลหมิงว่าหมิงยวิ๋นหนีไปแล้วครับ"
ดวงตาของฮ่อฉวนสือฉายแววแสดงความเกลียดชังอย่างรวดเร็ว ผู้หญิงคนนั้นยังคงไม่ยอมแพ้ เธอจะไปหาสือฮว่างั้นเหรอ?
"ตามหาเธอ เช็คเครื่องบินไปจิงตู อย่าปล่อยให้เธอไปจิงตู"
หมิ่นซาพยักหน้าและกำลังจะหันหลังกลับ ฮ่อฉวนสือก็พูดอีกครั้ง "ในเมื่อตระกูลหมิงดูแลไม่ได้ เจอตัวแล้วก็อย่าปล่อยไว้ จะได้ไม่มีปัญหาอีก"
หมิ่นซาชะงักฝีเท้า เขาคิดว่านายท่านจะมีความรักให้คุณหมิงสักนิด แต่ไม่คิดเลยว่าจะถึงขั้นนี้ "ได้ครับ"
ฮ่อฉวนสือกลับไปที่สวนจื่อทันที ขมวดคิ้วรอข่าว
ถ้าหมิงยวิ๋นติดต่อสือฮว่า ทุกอย่างที่เขาทำมาก็จะพังทลาย ยังไงสือฮว่าก็ต้องไม่รู้ความรับนั้น
คนของเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาเครื่องบินไปจิงตู แต่หมิงยวิ๋นก็ฉลาดพอที่จะไม่เลือกเครื่องบิน แต่นั่งเรือส่วนตัวไป
เธอไม่กล้าใช้อุปกรณ์สื่อสารใดๆ ก่อนที่จะมาถึงจิงตู ตระกูลหมิงทรงพลังมาก การสื่อสารของเธออาจเปิดเผยออกไปได้
คนของฮ่อฉวนสือตามหาอยู่สองวัน แต่ก็ยังไม่พบที่อยู่ของหมิงยวิ๋น เขายิ่งนิ่งไม่ติดและคิดจะกลับจิงตู
ในวันที่จะจากไป มูนก็มาเคาะประตูเขา
"พ่อคะ พ่อช่วยหนูเอาอันนี้ไปให้สือฮว่าทีค่ะ"
มูนต่างจากเด็กคนอื่นๆมาตั้งแต่เด็ก เธอชอบเล่นดาบและปืน นิสัยของเธอก็จืดชืด
เธอถือมีดเล็กๆ ไว้ในมือ น่าจะทำเอง ละเอียดอ่อนมาก
ด้ามมีดเป็นสีดำ บางเฉียบแถมน้ำหนัก
มูนดึงเส้นผมออกมาหนึ่งเส้นแล้ววางลงบนปลายมีด ผมก็ขาดเป็น 2 ส่วนทันที
มีดที่คมมาก ไม่พูดเกินจริงที่จะบอกว่าคงตัดทองแดงและเหล็กได้
"หนูให้อันนี้เพื่ออะไรงั้นเหรอ?"
สือฮว่าคงไม่ได้ใช้ อาจจะกลัวด้วยซ้ำไป
"แน่นอนว่าไว้ฆ่าคนเลวค่ะ อันนี้พับได้ด้วย ฟันทีเดียวคอก็ขาดเลยค่ะ"
ฮ่อฉวนสือขมวดคิ้วอย่างดุเดือด แต่เมื่อเห็นแววตาของเธอก็ยากที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงตอบอย่างไม่เต็มใจ: "ได้ ฉันจะให้เธอเอง"
คราวหน้าถ้าเขากลับมาคงต้องสอนเด็กคนนี้เองเสียแล้ว เด็กขนาดนี้ทำไมถึงพูดจาโหดร้ายขนาดนั้นได้
ฮ่อฉวนสือคิดจะเดินผ่านเธอไป เพื่อออกจากสวนจื่อแล้วไปขึ้นเครื่องบิน แต่ชายเสื้อเขาก็ถูกเด็กจับไว้
"พ่อจะกลับมาเร็วๆ นี้ใช่ไหมคะ?"
น้ำเสียงของเธอไม่แน่นอน ดูตื่นตระหนก ราวกับว่าเธอคุ้นเคยกับการถูกทิ้ง
หัวใจฮ่อฉวนสือเจ็บปวดอย่างรุนแรง จนเขาอยากพาเด็กคนนี้ไปที่จิงตูตอนนี้เพื่อให้เธอกับสือฮว่าเข้ากันได้
แต่สือฮว่ายังไม่ทันได้เตรียมใจ ยิ่งเธอเคยถูกสะกดจิต แล้วไปโดนกระตุ้นเข้าคงจะไม่ค่อยดี
ในใจของเขา ไม่มีใครสามารถเทียบกับสือฮว่าได้ แม้แต่เด็กคนนี้ก็ไม่ได้
"อืม"
มูนปล่อยมืออย่างไม่เต็มใจ "งั้นก็ได้ พ่อไปเถอะค่ะ"
ฮ่อฉวนสือก้าวไปไม่กี่ก้าวก็อดไม่ได้ที่จะมองกลับไป
เด็กยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ เหมือนต้นไม้ที่ไม่ขยับเขยื้อน
เด็กที่อายุเท่ากันกับเธอ มีความรักพ่อแม่คอยหล่อเลี้ยงก็คงยิ้มอย่างสดใส แต่เขาไม่เคยเห็นเธอยิ้มมาก่อน
เพราะทุกคนในสวนจื่อบอกเธอว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า เป็นเด็กไม่มีใครต้องการ
เธอมีมารยาทที่ดีและไม่ยึดติดกับคน บางครั้งก็เงียบราวกับไม่มีตัวตน
ฮ่อฉวนสือชะงักฝีเท้าลงทันที ขมวดคิ้วแน่นแล้วยื่นมือออกไปโดยไม่พูด
เหมือนมูนจะไม่เข้าใจท่าทางของเขา เป็นเวลานานถึงลองเอามือเล็กๆวางลงบนมือใหญ่ของเขา
ฮ่อฉวนสือโน่มตัวลงอุ้มอีกคนไว้ในอ้อมแขนและเดินไป
ดวงตาของเด็กคล้ายกับสือฮว่ามาก จนเขาไม่สามารถปฏิเสธคำขอของเธอได้
ตอนแรกฮ่อหมิงมีแต่ความเกลียดให้เด็กคนนี้แต่ก็รู้สึกดีที่เข้ากันได้เช่นกัน เห็นได้ชัดว่าดวงตาคู่นี้ทำให้คนหลงได้
ฮ่อฉวนสือเดินไปก็ได้ยินเสียงสะอื้นเล็กน้อยจากในอ้อมแขนของเขา
ฝีเท้าของเขาแข็งทื่อก่อนจะก้มมองเธอ
เด็กกำลังร้องไห้ กัดฟันแน่นราวกับไม่ต้องการให้คนอื่นได้ยินเธอร้องไห้
โตขนาดนี้แล้ว เธอไม่เคยถูกกอดมาก่อน
ฮ่อฉวนสือเปลี่ยนท่าทางและทนไม่ได้ที่จะมองตาเธอ
มูนเอาแขนคล้องคอ ยกยิ้มมุมและหลับตาอย่างสบายใจ
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่จิงตู ฮ่อฉวนสือก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่เขาพาเด็กมา
อีดเดี๋ยวก็เจอสือฮว่าแล้ว เขาจะพูดว่าอะไรดี?
ไม่มีทางเลือก เขาไปหาตันเวยก่อน และเอาเด็กให้ตันเวยเลี้ยงก่อน
ปัจจุบันซิ่วหยูกับตันเวยอาศัยอยู่ด้วยกัน ตันเวยเป็นอาจารย์และรักเด็กมาก เพราะงั้นมูนจะได้รับการปฏิบัติที่ดีอย่างแน่นอน
ซิ่วหยูมองไปที่ใบหน้านี้คล้ายกับสือฮว่า ดวงตาก็เบิกกว้าง แต่ต่อหน้าเด็กเขาไม่สามารถแม้แต่จะถามได้
ตันเวยชอบมูนมาก แต่หลังจากพูดสิ่งดีๆ ออกไปแล้ว เด็กก็ไม่ยิ้มเลย
ฮ่อฉวนสือโน้มตัวแล้วเตะศีรษะของมูน "หนูอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวจะมารับ"
มูนพยักหน้าและมองเขาอย่างไม่อยากให้ไป
ฮ่อฉวนสือโหดร้ายและจากไปอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เขาขึ้นรถ หมิ่นซาก็โทรมาจากต่างประเทศบอกว่าหมิงยวิ๋นออกจากเมืองแห่งบาปและอยู่บนเรือและกำลังจะลงจอด
ดวงตาของฮ่อฉวนสือเฉียบคม กระตุกมุมปากอย่างเย็นชา "ไปที่ชายฝั่งแล้วไล่ตามเธอ ยังไงก็ให้มาที่จิงตูไม่ได้"
หลังจากวางสายแล้ว อารมณ์ของเขาก็ไม่ค่อยดีนัก
หนานสือรู้จักเขาดีและจอดรถไว้นอกบ้านที่สือฮว่าอาศัยอยู่
ฮ่อฉวนสือลงจากรถแล้วหยิบกุญแจออกจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะประตูบ้าน
ไม่มีใครอยู่ในห้องนั่งเล่น ดังนั้นเขาเลยตรงไปที่ห้องนอน
ในห้องนอนมีอะไรนูนๆอยู่บนเตียง เขาเดินเข้าไป ก็หายใจเบาลงมาก
เขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วเปิดชายผ้านวม
หลังจากนอนลง ก็กอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างพึงพอใจ
เขาคิดถึงเธอมาก คิดถึงมากๆ
สือฮว่าได้กลิ่นลมหายใจที่คุ้นเคย ก่อนจะกระพริบตา ด้วยแสงเหลืองสลัวจากภายนอกทำให้เธอเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนี้ได้อย่างรวดเร็ว
เธอยังคิดว่าตัวเองกำลังฝัน แต่ไม่ทันเปิดปากก็ถูกจุมพิตเสียก่อน
ไม่เจอกันไม่กี่วัน เขาเริ่มมีความกระตือรือร้นอย่างมาก มือของเขาประสานกับนิ้วมือของเธอ เกี่ยวพันริมฝีปากของเธอไปมา
บรรยากาศเริ่มร้อนขึ้นในทันที เขาเหมือนไฟลุกจนจะเผาเธอให้เป็นเถ้าถ่าน
มีเหงื่อออกเล็กน้อยจากปลายจมูกของทั้งสอง
สือฮว่ากัดริมฝีปาก ไม่อยากทำให้หัวใจเต้นแรง
ในหัวเธอมีเสียงอื้ออึง รู้สึกเพียงไปมุนไหนก็หลบไม่พ้น
ราวกับเธอยืนอยู่บนชายฝั่งของทะเลสาบที่สั่นสะเทือน ตราบใดที่มีเขาก็สามารถเห็นสี่ฤดูกาลของโลกได้
ปลายนิ้วของเขาเช็ดเหงื่อออกจากขมับของเธอเบาๆ แล้วถามเสียงที่แหบ "คิดถึงฉันไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้