นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ นิยาย บท 389

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ก็มีคนยกฝาถังขยะขึ้น

ตอนนั้นเขาทั้งสกปรกและเหม็น จ้องไปที่เธอและพยายามไล่เธอออกไปอย่างมาดร้าย

ไม่คิดว่าเธอจะยื่นผลไม้เคลือบน้ำตาลมาตรงหน้าเขา "คุณหิวหรือเปล่า?"

เขาหิวมาก หิวจนไม่มีแรงจะวิ่งหนี ผลไม้เคลือบน้ำตาลสีสด ด้านบนมีน้ำตาลเคลือบจนทำให้น้ำลายสอ

แต่เขาไม่มีหน้าไปรับ เขาเกลียดเธอ เกลียดรอยยิ้มที่สดใสของเธอ และเกลียดความแตกต่างระหว่างทั้งสองคน

เขาสกปรกและเหม็นมาก แต่เธอกลับเหมือนนางฟ้าตัวน้อยที่โผล่ออกมาจากภาพปีใหม่ สิ่งที่เต็มไปด้วยความหวังแบบนี้ไม่ควรปรากฏในโลกของเขา

เธอเหมือนจะมองความคิดของเขาออกก็พูดขึ้น: "ฉันแพ้ผลไม้เคลือบน้ำตาล คุณกินเถอะ"

เธอบีบคางของเขาและจิ้มผลไม้เคลือบน้ำตาลเข้าไปในปากของเขา รสหวานช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ในทันที

"คราวหน้าคุณก็อย่าออกมาข้างนอกเลย คุณยายฉันบอกว่าข้างนอกมีพวกค้ามนุษย์เยอะ พวกคนเมื่อกี้ต้องเป็นคนเลวแน่ จริงๆแล้วฉันกลัวมาก แต่ถ้าฉันไม่พูด คุณก็ต้องโดนจับแน่ เสียงของฉันยังสั่นอยู่เลย"

ใช่ เขาได้ยินความกลัวในน้ำเสียงของเธอที่มาพร้อมเสียงสั่น

แต่เธอก็ยังพูด ใจดีขนาดไหนกัน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นตายร้ายดียังไงหลังจากที่พูดออกไป

"รีบกลับไปหาครอบครัวเถอะ คราวหน้าอย่าแยกเดินมาล่ะ ฉันต้องไปแล้ว ไม่อย่างนั้นจะไม่มีรถไปต่างจังหวัด"

เขากัดผลไม้เคลือบน้ำตาล ทั้งหวานและเปรี้ยว

เขาจ้องมองไปที่แผ่นหลังภายใต้ดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดินอย่างเหม่อลอย ราวกับว่าโลกของตัวเองสว่างไสวขึ้นมา

ไม่นานหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น พ่อของฮ่อซือหนานก็โจมตีเขาอีกครั้ง โดยฉวยโอกาสครั้งนั้น เขาแสร้งทำเป็นป่วยหนักและเริ่มต้นชีวิตที่มีสองตัวตน

เขาบังเอิญเจอเธออีกครั้งเมื่อเขาโตขึ้น เป็นตอนที่เขาป่วย เขากัดคอเธออย่างตะกละตะกลาม และกลิ่นเลือดก็ทำให้เขาสงบลง

เขาเงยหน้ามองเธอ ก็จำดวงตาคู่นั้นได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาที่ให้ความหวังและทำให้ใจเขาสั่น

ในตรอกร้าง เขาคร่ำครวญถึงเวทมนตร์แห่งโชคชะตา

เธอจะเลี้ยงชานมเขา เขาก้มศีรษะลงอย่างชั่วร้ายและดูดไปสองคำ

หวานเหมือนกับผลไม้เคลือบน้ำตาลในตอนนั้น

ในชีวิตของเขา เหมือนความหวานจะเกิดขึ้นเพียงสองครั้ง แต่ความหวานสองครั้งนี้สามารถบรรเทาความขมขื่นในชีวิตได้มากมาย

เพียงแวบเดียว เขาก็รู้สึกทึ่งกับเธอ

ป๋ายเยี่ยนพูดถูก เมืองแห่งบาปมีคนที่สวยที่น่าสนใจกว่าสือฮว่าเยอะ แต่เขารู้ดี ในเวลาที่เขาตัวสกปรกกลับให้ผลไม้เคลือบน้ำตาลกับเขา คงไม่มีใครที่โดนขู่แล้วจะมาเลี้ยงชานมเขาหรอก

ความรักที่เขามีต่อเธอเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เขาหวาดระแวงมากจนอยากเป็นผู้ชายคนเดียวที่เหลืออยู่บนโลกนี้

เธอเป็นเหมือนต้นไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่แข็งแรง พอโตในใจของเขาจนจะทำให้หัวใจเขาระเบิด

เขาทำลายสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ ศักดิ์ศรี และมโนธรรม

เขาตกเป็นปีศาจและต้องการดึงเธอลงมาด้วย

แต่สิ่งที่เธอมอบให้เขานั้นแตกต่างไป เป็นความเสียหายที่รุนแรง

ยิ่งเขากดดันมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งกลัว เธออ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไป เป็นไปได้อย่างไร เธอเป็นคนบุกรุกเข้ามาในโลกของเขาเองตั้งหลายหน แล้วเธอจะจากไปได้ยังไงกัน

ฮ่อหมิงที่ห่างเหิน ย่อมไม่พูดออกไปในตอนแรกแน่ เพราะตอนนั้นเขาอันอาย นั่นเป็นครั้งเดียวที่เขาอ่อนแอ ต้องไม่ทำให้เธอนึกได้เด็ดขาด

ต่อมาเขาชอบเธอเหมือนคนบ้า แต่เธอกลับมองไม่เห็นเหมือนคนตาบอด เธอแค่อยากจะหนี

ฮ่อฉวนสือกุมขมับตัวเองและจ้องไปที่ความมืดนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

หลังจากนึกถึงพวกเรื่องนี้ได้ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ปฏิเสธตัวตนของฮ่อหมิงมากนัก

เขาลุกจากเตียง เปิดตู้เสื้อผ้า และหากล่องดำเล็กๆจากด้านใน

กล่องมีรหัสผ่านและเขาก็ป้อนรหัสผ่านอย่างชำนาญ

"กริ๊ก"

กล่องถูกเปิดขึ้น

ข้างในเป็นถุงเล็กๆ เขาเทสิ่งที่อยู่ในนั้นออกมา

เป็นเม็ดผลไม้เคลือน้ำตาลสี่เม็ด ที่ทำให้แห้งและแข็งตัวในอากาศเพราะอายุที่มากขึ้น

มุมปากของฮ่อฉวนสือโค้งงอและรู้สึกน่าหัวเราะ

ผลไม้เคลือบน้ำตาลตอนนั้นมีเจ็ดเม็ด เขาหิวมากแต่ก็กินไปแค่สามเม็ด อีกสี่เม็กเขาไม่กล้ากิน หลังจากที่มีคนมาช่วย เขาก็ซ่อนมันไว้

นี่คือความลับของเขา

เขาใส่เม็กผลไม้เคลือบน้ำตาลลงไปอีกครั้ง ปิดผนึกกล่อง และสับรหัสอย่างระมัดระวัง ราวกับซ่อนสมบัติล้ำค่าเอาไว้

เขาเดินไปที่หน้าต่างและยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองดูท้องฟ้าด้านนอกที่ค่อยๆสว่างขึ้น

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาจึงสวมเสื้อคลุมและลงไปทานอาหาร

"นายท่าน การผ่าตัดของคุณท่านเสร็จแล้วครับ แต่ยังอยู่ในช่วงต้องคอยจับตาดูและอาจจะนานครับ"

"ดูแลให้ดี"

หมิ่นซาพยักหน้า นึกบางอย่างได้ก็พูดต่อ "มีข่าวมาจากตระกูลหมิงครับ ท่านผู้นำตระกูลหมิงได้บังคับถามพวกลูกกระจ๊อกพวกนั้นแล้วรู้ว่าหมิงยวิ๋นเป็นคนสั่งให้พวกเขาซื้อยาพิษ ทางตระกูลหมิงได้ประกาศแล้วว่าจะถอดหมิงยวิ๋นจากทายาท เธอต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งปีกับตระกูลหมิง และไม่สามารถไปไหนได้ครับ"

ฮ่อฉวนสือไม่คิดว่าทุกอย่างจะราบรื่นขนาดนี้ เขาเลิกคิ้ว และดูท่าว่าเขาใกล้ได้กลับจิงตูแล้ว

"พ่อคะ"

เสียงของมูนดังขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนา "หนูไปจิงตูหาสือฮว่าได้ไหมคะ?"

มือของฮ่อฉวนสือชะงักและหลับตาลง มูนเป็นลูกสาวของสือฮว่า คงจะไม่สามารถแยกแม่ลูกออกจากกันได้

แต่สือฮว่าจะสามารถยอมรับที่จู่ๆจะลูกสาวอย่างกะทันหันได้เหรอ? นอกจากนี้เด็กคนนี้ไม่ใช่พวกเขาสองคน

ตามนิสัยของเธอ จะทนได้แค่ไหนกัน

รออีกหน่อยก่อนแล้วกัน

"ไม่ได้"

แสงในดวงตาของมูนหรี่ลงทันที และเหยียดริมฝีปาก "งั้นเหรอคะ"

ฮ่อฉวนสือลูบหัวเธอ และในที่สุดก็รู้ว่าทำไมฮ่อหมิงถึงต้องการเก็บมูนเอาไว้ข้างกาย ดวงตาคู่นี้ช่างคล้ายกับสือฮว่ามากจริงๆ

ฮ่อหมิงชอบมูน แต่กลับต้องยับยั้งความชอบเอาไว้

"เมื่อถึงเวลา ฉันจะพาไปแน่"

แสงสว่างในดวงตาของมูนสว่างขึ้นอีกครั้ง และดวงตาก็โคงงอ "ได้เหรอคะ? พ่อไม่ได้โกหกหนูใช่ไหม?"

ฮ่อฉวนสือใจอ่อนยวบและอารมณ์ก็ดีขึ้นมาก "ไม่ได้โกหก"

บรรยากาศที่นี่อบอุ่น แต่อีกด้านกลับเหมือนนรก

เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกไล่ออกจากการเป็นทายาท หมิงยวิ๋นก็โกรธมาก เธอพยายามมาตั้งหลายปี แต่วันนี้ก็ยังไม่สำเร็จ!

เป็นไปได้ยังไง!

ผู้นำตระกูลหมิงให้เธอสำนึกผิดกว่าครึ่งปี ถึงตอนนั้นค่อยออกไป เกรงว่าตระกูลหมิงคงจะเปลี่ยนไปแล้ว!

เธอแค่นยิ้ม คิดว่าเธอไม่มีอิทธิพลในตระกูลหมิงจริงๆงั้นเหรอ?

เธอจะกลับไปจิงตู! และตระกูลหมิงยังไงก็ไม่ให้ไปจิงตู!

เธอยังมีจุดอ่อนของฮ่อฉวนสือ ถ้ามีจุดอ่อนนั่น ฮ่อฉวนสือก็ไปคืนดีกับสือฮว่าไม่ได้!

หมิงยวิ๋นรู้สึกว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หากปราศจากการสนับสนุนจากตระกูลหมิงแล้วหากเธอกลับจิงตูก็มีแต่หนทางตาย!

ท้ายที่สุดฮ่อฉวนสือนั่นก็จะสามารถฆ่าเธอได้อย่างไม่ต้องลังเล!

แต่เธอยอมไม่ได้ ยอมไม่ได้ที่ทั้งสองต้องแยกจากกัน แต่กลับต้องอยู่ที่บ้าๆนี่!

เหอะเหอะ เธอต้องบอกความลับนั่นให้สือฮว่ารู้ ให้พวกเขาพังกันไปข้าง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้