ความประทับใจของฟู้เซียนที่มีต่อซูเมิ่งเยียน ไม่ได้ดีมากเท่าไรนัก
คนผู้นี้คือชายที่อุ้มสาวไว้ในอ้อมแขนจนรถม้าเกือบที่จะพุ่งเข้ามาชนนางอย่างหวุดหวิดวันนั้น นางยังคงหวาดผวาอยู่ในใจจนถึงทุกวันนี้
และฟู้เซียน สำหรับนางแล้วเป็นเพียงแค่ชายขายบริการที่หน้าตายอดเยี่ยมคนหนึ่งเท่านั้น วันนี้ได้มาเห็นเขาขับร้องอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ด้วยความสงบนิ่งเช่นนี้ เค้าโครงหน้าของเขางดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้ และไม่ได้มีความเขินอายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย เมื่อครู่นี้ทำให้ได้รู้ว่า คนผู้นี้เกรงว่าจะไม่ได้ง่ายอย่างที่ตนเองได้คิดเอาไว้เช่นนั้น
เขา...น่าจะเป็นหนุ่มที่ค่อนข้างเป็นที่โปรดปรานของราชวงศ์และชนชั้นสูง
อย่างไรก็ตามก็จะต้องบอกว่า น้ำเสียงของเขานั้นต้องดีอย่างแน่นอน เพียงแค่ขับร้องเพลงเสียวฉวี่เอ๋อร์อย่างแผ่วเบา ดูประหนึ่งเสียงของสิ่งธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่านางระบำที่อยู่รอบกายนั้นงดงามมากเป็นพิเศษเพียงใด แต่เมื่ออยู่กับเขาก็จืดจางลงไปไม่น้อยเลย
ซูเมิ่งเยียนเหล่สายตาของนาง แม้ว่าจะไม่อยากที่จะยอมรับ แต่ก็ต้องบอกว่า หนุ่มน้อยผู้นี้ ช่างเป็นราวกับปีศาจที่เย้ายวนจริง ๆ แล้วยังทำให้คนยากที่จะละสายตาออกไปด้วย
ดูเหมือนว่าทันทีที่เขาปรากฏตัว เขาก็ได้รับความสนใจทั้งหมดของทุกคนไปเสียแล้ว
แต่แน่นอนว่า ต้องยกเว้นมู่เสี่ยว
ซูเมิ่งเยียนรู้สึกเพียงแต่ว่ามีคนที่อยู่ข้างกายจ้องมองมาที่นาง จากนั้นจึงได้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไป และก็ต้องพบกับสายตาทั้งคู่ของมู่เสี่ยว ที่กำลังจ้องมองมาที่นาง
"ท่านอ๋องมีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?" ซูเมิ่งเยียนเลิกคิ้วถาม
มู่เสี่ยวไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เพียงแค่กวาดสายตาไปมองที่ฟู้เซียนที่อยู่ตรงกลางเพียงเท่านั้น "หวางเฟยรู้จักหรือ?"
"คุณชายฟู้เซียนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร" ซูเมิ่งเยียนคิดที่จะหยิบจอกเหล้าเพื่อจะดื่ม แต่เพิ่งค้นพบว่าจอกเหล้าของตนเองนั้นอยู่กับมู่เสี่ยว ภายในใจของนางก็รู้สึกหมดสนุกทันที จากนั้นจึงได้หยิบถ้วยชาขึ้นมา น้ำชาที่อยู่ในถ้วยชาเย็นชืดไปแล้ว ซึ่งนางไม่ได้ตระหนักถึงมันเลย
มู่เสี่ยวยังคงจ้องมองมาที่นาง ฟู้เซียนเป็นคนของหอหยูอี้ และหอหยูอี้ก็ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่แสดงออกมาให้ได้เห็นกัน
และเมื่อครู่นี้ ตอนที่ฟู้เซียนกำลังขับร้องเพลง สายตาของเขาก็ได้มองมาที่ซูเมิ่งเยียนถึงสามครั้ง
ได้ยินข่าวลือมาว่าแต่ไหนแต่ไรมาคุณชายฟู้เซียนไม่เคยเห็นผู้ใดอยู่ในสายตามาก่อน แม้แต่คนในราชวงศ์ก็ไม่ได้เห็นอยู่ในสายตา ผู้ที่สามารถเข้าไปอยู่ในสายตาเขาได้มีน้อยถึงน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่ตอนนี้...
ภายในใจของเขา รู้สึกไม่พอใจอย่างอธิบายไม่ถูก
"ท่านอ๋องจ้องมองข้าเช่นนี้ หรือท่านไม่กลัวว่าพระสนมกุ้ยเฟยจะไม่ชอบใจเช่นนั้นหรือ?" มือหนึ่งของซูเมิ่งเยียนถือถ้วยชาเอาไว้ จากนั้นก็กวาดสายตาไปที่ฮัวหย้วนอย่างรวดเร็ว เสียงของนางนั้นแผ่วเบา จนมีเพียงแค่สองคนที่สามารถได้ยินได้เท่านั้น
ร่างกายของมู่เสี่ยวแข็งทื่อไปครู่หนึ่งจริง ๆ จากนั้นสายตาก็มองตรงไปข้างหน้า ฮัวหย้วนกำลังมองมาทางนี้อยู่จริง ๆ ถึงสีหน้าจะนิ่งสงบ แต่แววตากลับขุ่นมัว และภายในใจก็ไม่ได้สำนึกผิดแต่อย่างใด
สุดท้ายแล้วฮ่องเต้ที่สุขภาพไม่ดี เมื่อดื่มเหล้าไปสองสามจอก และหลังจากที่ฟังเพลงไปสองสามเพลงแล้ว เขาก็เริ่มเหนื่อยล้า และให้ขันทีประคองเขากลับไปยังที่พำนัก แล้วบอกเพียงแค่ว่าให้เหล่าขุนนางสนุกสนานกันต่อไป ฮ่องเฮาจะเป็นผู้รับรองแทนเอง
ในเมื่อไม่มีฮ่องเต้แล้ว เหล่าขุนนางก็ได้เป็นอิสระเสียที หลังจากนั้นเพียงไม่นาน บรรยากาศงานเลี้ยงในพระราชวังก็ดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
ส่วนฟู้เซียนนั้นร้องเพลงจบไปตั้งนานแล้ว เดิมทีซูเมิ่งเยียนก็เป็นเด็กที่เติบโตมาในตลาด จึงแทบที่จะไม่มีเพื่อนที่เป็นขุนนางเลย และมู่เสี่ยวก็ไม่เคยที่จะแนะนำนางให้คำเพื่อนผู้หญิงที่เป็นชนชั้นสูงเลยสักครั้ง เมื่ออยู่ในงานเลี้ยงพระราชวังนี้ จึงมีแค่นางที่เหมือนคนนอกเพียงผู้เดียว
เมื่อชีวิตที่แล้วนางจะพยายามคบกับภรรยาของพวกขุนนางขุนศึก เนื่องจากนางคิกที่จะช่วยเหลือเขา แต่ในชีวิตนี้นางไม่ได้มีความคิดเช่นนั้นแล้ว
เบื้องหน้า ฮัวหย้วนดื่มเหล้าเข้าไปอึกหนึ่ง แล้วคิ้วขมวดเล็กน้อย นางกัดริมฝีปากบางสีแดงนั้นเบา ๆ ด้วยหน้าตาที่งามเพริศพริ้ง หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็เดินไปด้านหน้าของฮ่องเฮา แล้วพูดอะไรบางอย่าง ฮ่องเฮาพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมโบกมือให้นาง
คิดดูแล้วคงจะพูดว่าร่างกายไม่ค่อยสบาย เลยจะขอจากไปก่อน แน่นอนว่าฮ่องเฮาก็คงจะเห็นด้วยอยู่แล้ว
ซูเมิ่งเยียนหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองด้านข้าง เมื่อครู่นี้มู่เสี่ยวยังกล่าวทักทายกับเพื่อนร่วมหน่วยอยู่เลย แต่ทว่าตอนนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว
นางบีบถ้วยช้าที่อยู่ภายในมือไว้แน่น จนปลายนิ้วกลายเป็นสีขาวซีดเลยทีเดียว
เมื่อชีวิตที่แล้วนางโง่เง่ามากเพียงใดถึงคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ? ทั้งสองคนนั้นออกไปทีละคน นี่มันไม่เพียงพอที่จะอธิบายปัญหาได้อีกหรือ?
ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดในใจ และรู้สึกได้เพียงแต่ความว่างเปล่า และก็เป็นอีกครั้ง ซูเมิ่งเยียนก็ยังคงเป็นซูเมิ่งเยียน ที่นั่งอยู่อย่างเดียวดายด้วยตนเองภายในห้องโถงแห่งนี้ ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ๋องเฟยเกิดใหม่ ท่านอ๋อง ขอหย่ากัน
อัพต่อหน่อยจ้าา...
อัพต่อด้วยค่ะ อยากอ่านต่อ...
อัพอีกหน่อยค่า อยากอ่านต่อ...
4/4/2567 ใครช่วยตอบที ไม่อัพตอนเพิ่มแล้วใช่ไหมค่ะ.... อยากอ่านต่ออะ 😢😢😢...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ หายไปเลย รออยู่นะคะ...
ไม่อัพแล้วหรอครับ...