ตอนมีชีวิตอยู่ก็คับอกคับใจมากอยู่แล้ว ยังจะตายอย่างคับอกคับใจอีก!
“คนผู้นั้นไม่ได้ให้อันใดข้าเลยจริงๆ”
หยุนเจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ข้าเดาว่าคนผู้นั้นถูกบีบบังคับจนไร้ทางเลือกแล้ว ถึงได้วิ่งเต้นมาหาข้าถึงที่เรือนนี้”
หยุนลี่หรี่ตาพลางกล่าวเย้ยหยัน “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่ออย่างนั้นหรือ?”
หยุนเจิงแบมือสองข้างพลางกล่าว “ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ แต่ข้าเชื่อเช่นนั้น!”
เมื่อเห็นท่าทางนี้ของหยุนเจิง นางกำนัลหลายคนก็ทำท่าทางเหมือนกับเห็นผีก็มิปาน
พระเจ้าช่วย!
องค์ชายหกผู้อ่อนแอผู้นี้ช่างกล้ายิ่งนัก นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับองค์ชายสาม
เมื่อวานเขาถูกองค์ชายสามตบหน้าฉาดใหญ่จนสมองเลอะเลือนไปแล้วกระมัง
เมื่อเห็นหยุนเจิงทำตัวแปลกไปเช่นนี้ สีหน้าของหยุนลี่พลันเคร่งขรึมลง เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “นี่เจ้าดื้อรั้นจะไม่ยอมเอาของที่คนผู้นั้นให้เจ้าออกมาให้ข้าอย่างนั้นรึ?”
“ก็ข้าไม่มี ข้าจะเอาให้เจ้าได้อย่างไรกันเล่า”
หยุนเจิงยักไหล่ “เอาหล่ะ ข้ายังต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของเจ้า! หากเจ้าคิดว่าข้ามีของที่เจ้าต้องการ เจ้าก็เรียกคนมาค้นหาเองเถอะ!”
ขณะที่กล่าวนั้น หยุนเจิงก็เตรียมตัวจะเดินออกไป
ตอนที่เขาทะลุมิติมา เขาก็เผาจดหมายเลือดนั้นทิ้งไปแล้ว หากเขาจะหาก็ปล่อยให้เขาหาไปเถอะ!
สีหน้าของหยุนลี่พลันเปลี่ยนไป รีบรั้งหยุนเจิงพลางตะโกนเสียงดุดันขึ้นว่า “ทหาร!”
เมื่อได้ยินเสียงของหยุนลี่ องครักษ์ที่อยู่ด้านนอกก็รีบวิ่งเข้ามา
องครักษ์หลายคนเป็นองครักษ์เรือนปี้ปัวของหยุนเจิง แต่กลับเชื่อฟังคำพูดของหยุนลี่ราวกับเป็นสุนัขรับใช้เขาก็มิปาน
“เจ้าคิดจะทำอันใด?”
ทันใดนั้นแสงเย็นก็วาบผ่านดวงตาของหยุนเจิง
องครักษ์ของตนเองไม่จงรักภักดีต่อผู้เป็นนาย อีกทั้งยังแว้งกัดเจ้านายเพื่อคนนอกเช่นนี้อีก
“จะทำอันใด?”
หยุนลี่ทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูก และกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เอาตัวพรรคพวกขององค์รัชทายาทผู้ก่อกบฏผู้นี้ไปขังคุกสวรรค์ รอตัดสินโทษ!”
หยุนเจิงหรี่ตาพลางกล่าว “นี่เจ้ากำลังใส่ร้ายป้ายสีข้ารึ?”
ไม่มีราชโองการของฝ่าบาท กล้าจับเขาขังคุกได้อย่างไรกัน
จะข่มขู่ให้ข้ากลัวอย่างนั้นรึ
“ใส่ร้ายป้ายสีรึ ประเดี๋ยวข้าหาหลักฐานได้แน่นอน!”
หยุนลี่ทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูก และเงยหน้ามองไปที่นางกำนัล “พวกเจ้าเป็นคนของเจ้าหก พวกเจ้าบอกข้ามาซิว่าเจ้าหกเป็นพรรคพวกกับองค์รัชทายาทหรือไม่”
เผชิญหน้ากับการซักถามของหยุนลี่เช่นนี้ นางกำนัลทั้งหลายต่างรีบพยักหน้าด้วยความกลัว
“ใช่เพคะ ข้าน้อยเคยได้ยินองค์ชายหกพูดคุยแผนร้ายก่อกบฏกับคนขององค์รัชทายาทเพคะ”
“องค์ชายหกยังบอกอีกว่าจะหาโอกาสวางยาพิษฝ่าบาทเพคะ…”
“ใช่เพคะ ข้าน้อยก็ได้ยินเพคะ…”
นางกำนัลหลายคนรีบกลับลำ แถมยังเอาสิ่งที่ตนเองจินตนาการขึ้นมากล่าวเป็นตุเป็นตะอีก
หยุนเจิงได้ยินเช่นนี้ในใจก็เกิดจิตสังหารขึ้น
เมื่อเห็นภาพนี้ นางกำนัลและองครักษ์ในเรือนต่างตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น
ทุกคนต่างต่างตกใจยืนแน่นิ่งราวกับหิน
พระเจ้าช่วย!
นึกไม่ถึงเลยว่าองค์ชายหกผู้ไร้ประโยชน์ผู้นี้จะกล้าถีบเป้าองค์ชายสาม
ภานลวงตา ภาพลวงตาเป็นแน่!
ทว่า เสียงร้องที่ดังลั่นด้วยความเจ็บปวดของหยุนลี่นั้นบอกพวกเขาว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา!
“องค์ชายสาม เป็นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?”
“ไปตามหมอหลวงเร็วเข้า เร็ว!”
เมื่อตั้งสติได้ องครักษ์ก็รีบเข้ามา
“รีบจับ…รีบจับตัวกบฏนี่ให้ข้า! อ๊า…”
หยุนลี่กลิ้งไปมาอยู่บนพื้นด้วยความน่าอับอาย ส่งเสียงร้องเจ็บปวดด้วยใบหน้าอันบิดเบี้ยว
“พ่ะย่ะค่ะ!”
องครักษ์รับคำสั่ง และรีบเข้าไปจับตัวหยุนเจิงทันที
“บังอาจ!”
หยุนเจิงตะคอกใส่องครักษ์ด้วยความโกรธ กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “จะอย่างไรข้าก็เป็นถึงคุณชายหก พวกเจ้ากล้าลงมือกับข้าได้เช่นไร ข้าจะไปขอรับโทษกับเสด็จพ่อด้วยตัวเอง!”
กล่าวจบ หยุนเจิงก็ย่ำเท้าเดินออกไปด้านนอกทันที…

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน