หากไม่หนีจะอยู่ทำหอกอันใดในวังหลวงล่ะ?
หากอยู่ในวังหลวงต่อ ก็ต้องถูกฆ่าตายเป็นแน่!
หนี!
ต้องหนี!
สายตาของจักรพรรดิเหวินดุดันขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา จ้องมองหยุนเจิงพลางกล่าว “เจ้าลูกทรพี เหตุใดเจ้าถึงไม่พูด เราจะให้เจ้าพูด ให้โอกาสเจ้าอธิบาย!”
หยุนเจิงรับกับความโกรธโค้งคำนับพลางกล่าว “ลูกไม่อยากอธิบายพ่ะย่ะค่ะ และไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายด้วย! ไม่ว่าอย่างไร ลูกก็บังอาจทำร้ายพี่สามเช่นนั้น ไปแล้ว! ลูกยอมรับโทษพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อได้ยอนคำพูดนี้ของหยุนเจิง สวีสือฝู่ก็อดที่จะทำเสียงเหอะๆ อยู่ในใจไม่ได้
สวะไร้ประโยชน์ก็ยังเป็นสวะไร้ประโยชน์อยู่วันยังค่ำ!
ให้โอกาสไปแล้วก็ไม่ใช้
ทว่า ต่อให้ให้โอกาสคนไร้ประโยชน์อธิบายมันก็ไร้ค่าอยู่ดี!
เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ให้จักรพรรดิเหวินถอดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายไร้ประโยชน์นี้ให้เป็นสามัญชนคนธรรมดา
สวีสือฝู่ครุ่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโค้งคำนับและกล่าวว่า “ฝ่าบาท ในเมื่อองค์ชายหกยอมรับโทษแล้ว โปรดฝ่าบาทลดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายหกเป็นสามัญชนคนธรรมดา เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”
“โปรดฝ่าบาทลดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายหกเป็นสามัญชนเพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่างด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
พวกพ้องขององค์ชายสามต่างยื่นคำร้อง
หยุนเจิงจดจำคนสารเลวเหล่านี้ไว้ในใจแล้ว อีกทั้งยังโค้งคำนับจักรพรรดิเหวิน และกล่าวด้วยเสียงถ้อยคำชัดว่า “ลูกรู้ว่าโทษของลูกร้ายแรงนัก ได้โปรดอภัยโทษให้ลูกด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
“อภัยโทษ?”
แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของจักรพรรดิเหวิน “เช่นนั้นเจ้ามาเรามาซิ ว่าเจ้าควรได้รับโทษเช่นไร?”
“โทษตายพ่ะย่ะค่ะ!”
หยุนเจิงกล่าวอย่างไม่คิดเลย เขาโค้งคำนับพลางกล่าว “เสด็จพ่อได้โปรดให้ลูกตายเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”
ปัง!
ทันทีที่สิ้นเสียงของหยุนเจิง ในตำหนักก็เงียบสงัดเป็นป่าสาก…
ให้โทษตายอย่างนั้นหรือ?
นึกไม่ถึงเลยว่าหยุนเจิงจะขอให้จักรพรรดิเหวินลงโทษประหารเขา
สมองเขาเลอะเลือนไปแล้วหรือไม่?
ทุกคนมองหยุนเจิงด้วยความสับสนมึนงง
ใครก็คิดไม่ถึงว่าหยุนเจิงจะเอ่ยปากขอความตายเช่นนี้
แม้แต่สองพี่น้องอย่างซูเฟยและสวีสือฝู่เองก็งุนงงสับสนไปโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าหยุนเจิงจะไม่ได้มีตำแหน่งอันใด แต่อย่างไรเขาก็เป็นองค์ชาย
องค์ชายแห่งราชวงศ์ต้าเฉียน ขอเพียงแค่ไม่ก่อกบฏ และไม่กระทำเรื่องร้ายแรง ก็ไม่จำเป็นต้องโทษประหาร
หยุนเจิงถีบเป้ากางเกงหยุนลี่ไปครั้งเดียว ยังไม่เพียงพอที่จะให้จักรพรรดิเหวินลงโทษประหาร
แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่อยากขอ นึกไม่ถึงเลยว่าหยุนเจิงจะเอ่ยปากขอด้วยตัวเองเช่นนี้
จักรพรรดิเหวินเองก็ตกตะลึงมากเช่นกัน
หลังจากที่เงียบไปครู่ใหญ่ จักรพรรดิเหวินก็กล่าวถามด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะให้ข้าลงโทษประหารเจ้า?”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
หยุนเจิงพยักหน้า “ลูกมีเพียงโทษความตายเท่านั้น!”
“ลูกขี้ขลาดไร้ความสามารถมาหลายปี ลูกไม่อยากตายไปอย่างขี้ขลาด!”
หยุนเจิงกัดฟันกรอดพลางกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าและโกรธว่า “เสด็จพ่อโปรดอนุญาตให้ลูกไปชายแดน ลูกยอมถือกระบี่สู้รบจนตัวตาย!”
สู้รบจนตัวตายอย่างนั้นหรือ?
แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของสวีสือฝู่
เขาเข้าใจแล้ว!
หยุนเจิงต้องการหนีไปจากวังหลวง!
“องค์ชายหกกล้าหาญยิ่งนัก แต่กระหม่อมคิดว่าไม่เหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”
สวีสือฝู่รีบออกมาคัดค้านทันใด “อย่างไรเสียองค์ชายหกก็เป็นถึงองค์ชาย หากแม้แต่องค์ชายต้องออกสู้รบจนตัวตายในสนามรบ พวกป่าเถื่อนเหล่านั้นคงต้องหัวเราะเยาะราชวงศ์ต้าเฉียนเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ’”
เขาไม่มีทางปล่อยให้หยุนเจิงหนีรอดไปจากวังหลวงได้หรอก!
เรื่องจดหมายเลือด หยุนลี่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาแล้ว
พวกเขาจะต้องเอาจดหมายเลือดออกมาให้ได้!
หยุนเจิงส่ายหน้าพลางกล่าว “คำพูดนี้ของจิ้งกั๋วกง ข้าไม่เห็นด้วย!”
“อย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
สวีสือฝู่เงยหน้ามองหยุนเจิง “แล้วองค์ชายหกมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ?”
หยุนเจิงยืดอกตรงพลางกล่าวเสียงดังว่า “แม้นแต่ลูกชายของชาวบ้านตาดำๆ ยังต้องออกศึกสู้รบตายเพื่อต้าเฉียนได้เลย ข้าในฐานะที่เป็นโอรสของฮ่องเต้ ก็ควรเป็นแบบอย่างให้กับใต้หล้าไม่ใช่หรือ!”
“แต่ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ก็ไม่มีเคยองค์ชายใดต้องออกศึกสู้รบตายในสนามรบ กฎบ้านเมืองไม่อาจฝืนได้พ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้น ให้เริ่มที่หยุนเจิงเป็นคนแรกเลยก็แล้วกัน!!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน