"เกิดอันใดขึ้น? ข้าถามเจ้าว่าเกิดอะไรขึ้น?" หนานกงเย่ตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราด
หมอโจวเอ่ยว่า "ข้าน้อยไร้ความสามารถ ข้าน้อยช่วยพระชายาไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ"
ฉีเฟยอวิ๋นมีเหงื่อไหลไคลย้อยทั่วเรือนร่าง "หัวหน้า ฉันต้องไปแล้ว"
ซูมู่หรงเดินลงมาถึงตีนเขา หมุนกายกอดฉีเฟยอวิ๋นที่กำลังพิงหลังอยู่ในรถ ฉีเฟยอวิ๋นฝืนลืมตามองซูมู่หรงด้วยสภาพน้ำตาไหลพรูลงใบหน้า "ฉันไม่ชอบที่นั่น แต่ฉันไม่อยากจากเขาไป"
ฉีเฟยอวิ๋นรีบช่วยฉีเฟยอวิ๋นเช็ดน้ำตา
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า "ไม่รู้ว่าถ้าฉันไปแล้ว ทุกอย่างจะจางหายหรือเปล่า หรือว่าทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้น"
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าทุกสิ่งกำลังเลือนหาย รวมทั้งใบหน้าซูมู่หรงด้วย
เธอได้ยินเสียงหนานกงเย่ตะคอกจนแก้วหูแทบฉีกขาด และภาพตรงหน้าก็ขาวโพลน
ทันใดนั้น ฉีเฟยอวิ่นรู้สึกหนาวสะท้านจนตัวสะดุ้งโหยง ครั้นลืมตาก็เห็นหนานกงเย่ถือกระบี่เล่มยาวหมายจะสังหารหมอโจว
"ข้าจะฆ่าเจ้า ให้เจ้า……"
"ท่านอ๋อง" ฉีเฟยอวิ๋นเรียกเสียงแผ่วเบา ทว่าตอนเธอเรียกหนานกงเย่ อีกฝ่ายก็คลายมือ และแล้วกระบี่ก็ร่วงหล่นสู่พื้น
เห็นหนานกงเย่แข็งทื่อคล้ายกับก้อนหินก็ไม่ปาน ทว่ากลับหันกายไวมาก ฉีเฟยอวิ๋นเลยรู้สึกขำ "ท่านอ๋อง"
หนานกงเย่รีบมานั่งข้างกายเธอ "อวิ๋นอวิ๋น"
ฉีเฟยอวิ๋นละสายตามองไปยังหมอโจวที่คุกเข่าอยู่บนพื้น หมอโจวหวาดกลัวจนจะสิ้นใจอยู่แล้ว
"หมอโจว เจ้าถอยไปเถอะ"
หมอโจวกลัวจนร่างกายแข็งค้าง เมื่อลุกขึ้นก็ต้องล้มหัวฟาดพื้นอีกคราว
หลังจากลุกขึ้นมาได้ หมอโจวก็นึกอะไรไม่ออก วิ่งทะเล่อทะล่าออกไปทันที
พวกอาอวี่กำลังทุกข์โศกอยู่ด้านนอก ครั้นเห็นหมอโจวออกมา จึงนึกได้ว่าควรเข้าไปดูด้านในเสียหน่อย
เมื่อเห็นฉีเฟยอวิ๋นฟื้น ทุกคนต่างตกตะลึงพรึงเพริด
ไม่ใช่สิ้นลมหายใจแล้วหรือ?
ฉีเฟยอวิ๋นขยับกายไปลูบไล้ใบหน้าหนานกงเย่ พลางรู้สึกหนวดทิ่มมือ
ฉีเฟยอวิ๋นถาม "ท่านอ๋อง ข้าหลับไปนานเท่าไหร่แล้ว?"
"หนึ่งเดือน"
ฉีเฟยอวิ๋นตะลึงตะไล "หนึ่งเดือนหรือ?"
หนานกงเย่พยักหน้าหงึกๆ ดึงฉีเฟยอวิ๋นขึ้นมาสวมกอด
ฉีเฟยอวิ๋นอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง กอดหนานกงเย่พร้อมกับหายใจหอบ "ท่านอ๋อง ข้าเหนื่อยจัง"
หนานกงเย่จับมือแน่นขนัด "ข้าไม่ยอมแน่ๆ"
ฉีเฟยอวิ๋นส่ายหัว ซบอยู่บนบ่าหนานกงเย่พร้อมกับนึกถึงใบหน้าซูมู่หรงตอนหนุ่ม มันคงจะเป็นความฝัน
ฉีเฟยอวิ๋นผละออกจากอ้อมกอด นอนมองหนานกงเย่แทน
หนานกงเย่สั่งให้หมอโจวกลับมาทันที หมอโจววิ่งพรวดพราดกลับมาด้วยเสียงหอบ เขาตื่นตกใจจนเหงื่อชุ่มกาย
หลังหมอโจวตรวจอาการฉีเฟยอวิ๋นแล้วเสร็จพลันรายงานว่า "นอกจากพระวรกายพระชายาอ่อนแอแล้ว อย่างอื่นก็ดีหมดพ่ะย่ะค่ะ บุตรในท้องก็ยังปลอดภัยดีพ่ะย่ะค่ะ"
"อืม เตรียมของบำรุงร่างกายให้พระชายาด้วย ข้าเหนื่อยแล้ว จะพักผ่อน"
หนานกงเย่อุ้มฉีเฟยอวิ๋นไปที่สระกำมะถัน ฉีเฟยอวิ๋นสรงน้ำพร้อมกับเขา
"ท่านอ๋องซูบผอมไปนะเพคะ?"
ฉีเฟยอวิ๋นจับเอวหนานกงเย่พลันพบว่าผอมลงเยอะมาก
"ข้ารอมาสองวัน ไม่ได้ร้อนใจทั้งสองวันเลย" หนานกงเย่เอ่ยเสียงแหบแห้ง ฉีเฟยอวิ๋นมองโครงหน้าเรียวที่มีมิติของเขา
ผอมลงแล้วยิ่งเพิ่มพูนความหล่อเหลาหลายเท่า
"เจ้ามองอันใด?" หนานกงเย่ไม่เข้าใจ
"ท่านรูปงามกว่าแต่ก่อนเพคะ"
ฉีเฟยอวิ๋นหอมแก้มหนานกงเย่อย่างไม่เอียงอาย การหอมแก้มครั้งนี้ได้ผลดีเยี่ยม หนานกงเย่หอมกลับเธอหนึ่งที
จากนั้นหนานกงเย่พลันจูงเธอไปพร้อมกับเขา ก่อนจะนั่งคุยกันในน้ำ
"พอข้ารอถึงวันที่สาม ฝ่าบาทก็เสด็จมา แต่ข้าไม่พบหน้าเขา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ