“ท่านอ๋องเย่ พระชายาเย่”
เมื่ออ๋องเซี่ยวจวิ้นเห็นก็รีบคำนับในทันที หนานกงเย่นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขาหันไปมองไป๋ซู่ซู่ และหันกลับไมาถามว่า:“เหตุใดท่านอ๋องเซี่ยวจวิ้นถึงมาที่นี่ได้?”
“ข้ามาเยี่ยมพระชายา ข้าไม่ชินกับการที่ไม่มีนางอยู่ด้วย” อ๋องเซี่ยวจวิ้นมองไปที่ไป๋ซู่ซู่ และไป๋ซู่ซู่ก็รู้ในทันทีว่าเขาต้องได้ยินข่าวอะไรมาแน่ ๆ
“เช่นนั้นก็เข้าไปก่อนเถอะ” หนานกงเย่เดินเข้าไปในจวนอ๋องเย่ และแน่นอนว่าอ๋องเซี่ยวจวิ้นไม่ได้ตามเข้าไป
“ท่านอ๋องเย่ ข้าไม่เข้าไปแล้ว วันนี้ข้ามารับพระชายากลับไป จะว่าไม่แล้วก็ไม่เคยแยกจากกันมาก่อน หลายวันที่ผ่านมาคิดถึงนางแทบแย่
จึงอยากพานางกลับไปก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าข้าจะมาส่งนาง”
ตอนที่อ๋องเซี่ยวจวิ้นกล่าว หนานกงเย่ก็หันกลับไปมองอ๋องเซี่ยวจวิ้น แน่นอนว่าอ๋องเซี่ยวจวิ้นปากว่าตาขยิบ เดิมทีเขาไม่ได้จะเข้าไปยุ่งเรื่องของคนในตระกูลจงชิน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถช่วยได้
ความคิดของเขายิ่งใหญ่แค่ในจวนเท่านั้น เมื่อออกมาข้างนอกกลับไม่มีอะไรเลย
ความมั่นใจยังไม่เพียงพอ
วันนี้มาแล้วก็ต้องถูกต่อว่า แต่ไม่มาก็ไม่ได้
เมื่อถูกหนานกงเย่มองเช่นนี้ เขาก็ก้มหน้าลงและไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
ไป๋ซู่ซู่ชินแล้ว อ๋องเซี่ยวจวิ้นมีอำนาจแค่ในจวน และไม่ถือสาที่จะเข้าไปพร้อมกับฉีเฟยอวิ๋น
อ๋องเซี่ยวจวิ้นรู้สึกเกลียดชัง แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก และทำได้เพียงเดินตามเข้าไป
หนานกงเย่ดูถูกคนเช่นนี้มากที่สุด หลังจากที่เข้าไปแล้ว เขาก็มองไปที่อ๋องเซี่ยวจวิ้น:“ท่านอ๋องเซี่ยวจวิ้น ท่านเข้ามานั่งข้างในก่อนเถิด หากไม่รังเกียจก็อยู่ทานอาหารด้วยกันก่อน ส่วนพระชายาอ๋องเซี่ยวจวิ้น ท่านไปบอกนาง หากนางต้องการกลับไปกับท่าน ท่านก็พานางกลับไป แต่หากนางไม่ต้องการกลับไปกับท่าน เช่นนั้นข้าก็จะไม่ยอมให้นางกลับไปกับท่านเช่นกัน
วันนี้ตอนที่เข้าไปในวัง ฝ่าบาททรงขับไล่นางออกไปด้วยความโกรธ และรับสั่งให้พระชาเย่ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด หากนางกลับไปกับท่าน แล้วเกิดอะไรขึ้นกับนาง พระชายาเย่จะอธิบายอย่างไร ข้าผิดหวังในตัวท่านมาก ในเมื่อท่านเป็นสามี เหตุใดจึงกำจัดลูกของตนเอง ยกย่องนางสนมจนละเลยภรรยาเอก พระชายาเย่นั้นช่างเยือกเย็นจริง ๆ
พระชายาเย่เกลียดเรื่องนี้เป็นที่สุด ท่านอ๋องเซี่ยวจวิ้นจัดการตัวเองให้ดีเถิด”
หนานกงเย่กล่าวอย่างเย็นชา อ๋องเซี่ยวจวิ้นตกใจกลัวจนเหงื่อออกเต็มหน้า และแทบจะยืนไม่อยู่
หลังจากนั้นเขาก็กล่าวว่า:“ท่านอ๋องเย่ ท่านต้องช่วยข้าด้วยนะ”
“ท่านอ๋องเซี่ยวจวิ้น ไม่ใช่ว่าข้าไม่ช่วยท่าน แต่ท่านก็รู้ดีว่าข้าไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ท่านพึ่งพาตนเองเถอะ” หลังจากที่พูดจบ หนานกงเย่ก็จากไป อ๋องเซี่ยวจวิ้นยืนนิ่งสงบอยู่ในจวนอ๋องเย่ด้วยความงุนงง
ฉีเฟยอวิ๋นพาไป๋ซู่ซู่ไปที่สวนดอกกล้วยไม้ และเมื่อเข้าไปข้างในแล้ว นางก็ถามไป๋ซู่ซู่ว่าต้องการจะกลับไปหรือไม่
ไป๋ซู่ซู่ส่ายหัว:“ไม่กลับไปแล้ว ถึงอย่างไรที่นั่นก็ไม่มีอะไรที่ข้าจะต้องอาลัยอาวรณ์ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่สามารถกลับไปได้อีก”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ไปพักก่อนเถิด อีกเดี๋ยวข้าจะให้คนนำอาหารมาส่งให้เจ้า” ฉีเฟยอวิ๋นกำลังจะจากไป แต่ไป๋ซู่ซู่ก็จะตามออกไปด้านนอกด้วย
“เจ้ายังต้องการจะพบเขาอีกหรือ?” เมื่อเห็นไป๋ซู่ซู่ออกมา ฉีเฟยอวิ๋นจึงถาม
ไป๋ซู่ซู่กล่าวว่า:“ยังต้องพบ แต่ข้าไม่ได้พบอย่างเปล่าประโยชน์”
ฉีเฟยอวิ๋นยังคงไม่เข้าใจ และไป่ซู่ซู่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรกับนาง จนกระทั่งฉีเฟยอวิ๋นเห็นอ๋องเซี่ยวจวิ้นปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูและกำลังมองมา
อ๋องเซี่ยวจวิ้นต้องการให้ไป๋ซู่ซู่กลับไปกับเขา ไป๋ซู่ซู่ส่ายหัวและบอกว่าจะไม่กลับไป อ๋องเซี่ยวจวิ้นตบไป๋ซู่ซู่จนล้มลง
ฉีเฟยอวิ๋นไม่สนใจอะไร และรีบออกไปตะโกนบอกอาอวี่ว่า:“โบยเดี๋ยวนี้!”
อาอวี่ไม่พูดพร่ำทําเพลง เขาเข้าไปเฆี่ยนตีอ๋องเซี่ยวจวิ้นอย่างโหดเหี้ยม อ๋องเซี่ยวจวิ้นตะโกนร้องขอความเมตตา ฉีเฟยอวิ๋นไม่หายโกรธและไม่ได้สั่งให้หยุด แต่กลับสั่งให้อาอวี่เฆี่ยนให้ตาย
ในที่สุดก็เฆี่ยนจนอ๋องเซี่ยวจวิ้นบาดเจ็บสาหัส ปากเบี้ยวตาเขจนพูดไม่ออก และขาข้างหนึ่งก็เป๋
ตอนที่อ๋องเซี่ยวจวิ้นจากไป เขาก็เดินขากะเผลกออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ