ฉีเฟยอวิ๋นจึงเล่าเรื่องที่เกิดชึ้นให้หนานกงเย่ฟัง สีหน้าของหนานกงเย่ไม่น่ามองมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้ฟังแล้ว เขาก็กล่าวอย่างเย็นชา:“สองแสนตำลึงยังน้อยไป”
“ไม่เป็นไรเพคะ เดิมทีแค่หนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของท่านอ๋องตวน จึงขอเพิ่มอีกห้าหมื่นตำลึงเพคะ” ฉีเฟยอวิ๋นอธิบาย
หนานกงเย่ยังคงไม่พอใจ:“อาอวี่”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ไปที่จวนอ๋องตวน แล้วทำลายป้ายประตูของเขา!”
“หา?”
อาอวี่ทำอะไรไม่ถูก เขามองหนานกงเย่และไม่พูดอะไร
ทำลายป้ายประตูของจวนอ๋องตวน แต่นั่นเป็นจวนอ๋อง
แม้ว่าจวนอ๋องเย่จะมีอำนาจมากเพียงใด แต่ก็ไม่ดีที่จะไปฉีกหน้ากันเช่นนี้
หนานกงเย่มองอย่างเย็นชา:“ทำไม?ต้องให้ข้าไปด้วยตนเองหรือ?”
“ผู้น้อยจะไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ” อาอวี่หันหลังเดินออกไป เขาพาคนรับใช้ในจวนไปด้วยสองสามคน และไม่นานก็มาถึงหน้าจวนอ๋องตวน อาอวี่ผิวปาก จากนั้นคนรับใช้ก็ลงมือและป้ายประตูจวนอ๋องตวนก็ถูกทำลาย
ก่อนที่อาอวี่จะกลับมา ฉีเฟยอวิ๋นก็กำลังเฝ้ามองหนานกงเย่ สีหน้าของหนานกงเย่ไม่ค่อยดีนัก ฉีเฟยอวิ๋นจึงกล่าวว่า:“ไม่ต้องทนทุกข์เช่นนั้นหรอกเพคะ”
“ข้าอยากจะฆ่านาง” หนานกงเย่จับมือของฉีเฟยอวิ๋นด้วยแววตาที่เย็นชา
ฉีเฟยอวิ๋นโน้มตัวเข้าไปหา:“สองแสนตำลึงก็ไม่น้อยแล้วเพคะ และหม่อมฉันก็ไม่ได้เป็นอะไร?”
“นิสัยโฉดชั่วเหมือนหมาป่า ไม่ช้าก็เร็วต้องทำให้เกิดความหายนะ อวิ๋นอวิ๋นอยู่ในที่สว่าง นางอยู่ในที่มืด จึงไม่สามารถป้องกันได้”
“หม่อมฉันจะระวังตัวเพคะ”
สองสามีภรรยาสนทนากันอยู่สักพัก และอารมณ์ของหนานกงเย่ก็ค่อย ๆ ดีขึ้น เขากำลังจะกลับไปพักผ่อน และคนของอ๋องตวนก็มาพร้อมกับเงินสองแสนตำลึง
ฉีเฟยอวิ๋นไปดูเงิน มีสิบหีบ ฉีเฟยอวิ๋นจึงเปิดดูและเรียกให้คนมาตรวจนับ หลังจากที่ตรวจนับเรียบร้อยแล้วก็เอาไปเก็บในคลัง
ฉีเฟยอวิ๋นยืนนิ่งและส่ายหัว:“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องตวนทรงมีรายได้มากมาย ช่างน่าอิจฉาเสียจริง”
“มีอะไรน่าอิจฉากัน?อวิ๋นอวิ๋นก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน”
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้พูดอะไร นางหยิบยาขึ้นมาหนึ่งเม็ดและมอบให้คนของอ๋องตวน:“ผสมกับน้ำอุ่น หากกลับไปช้า ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา”
คนของอ๋องตวนรับยาและรีบกลับไปในทันที ในเวลานี้จวินฉูฉู่เริ่มมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ดแล้ว นางนอนอยู่บนเตียงและร้องโวยวายด้วยความทรมาน
อ๋องตวนยืนหน้าซีดอยู่ข้างๆ เมื่อเขาจะเข้าไปใกล้ จวินฉูฉู่ก็กรีดร้องเสียงดัง
ตอนที่จวินฉูฉู่เจ็บปวดทรมาน นางก็ด่าทอให้อ๋องตวนออกไป
อ๋องตวนยืนเฝ้าอยู่ในห้องและนึกถึงใบหน้าของอวิ๋นหลัวฉวน เขานึกถึงแววตาที่ไม่พึงปรารถนาของนางและรอยยิ้มที่มีความสุขของนาง
คนของอ๋องตวนเข้ามาและมอบยาให้:“ท่านอ๋อง ยาพ่ะย่ะค่ะ”
อ๋องตวนหยิบยาไปให้จวินฉูฉู่กิน จวินฉูฉู่มองไปที่อ๋องตวน และนางก็ค่อย ๆ สงบลง
ไม่เจ็บแล้ว น้ำตาของจวินฉูฉู่ไหลออกมา และมีเลือดปนออกมาด้วย น่าเกลียดมาก นอกจากนี้นางยังซูบผอมลงอีกด้วย และไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูไม่ดีเอาเสียเลย
อ๋องตวนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจวินฉูฉู่จะน่าเกลียดเช่นนี้ และคราวนี้เขาก็คิดว่ามันน่าเกลียดจริง ๆ
อ๋องตวนหันกลับไปข้างนอก และออกไปที่เรือนเซี่ยวเฟิง เขาหยุดอยู่ที่หน้าเรือนเซี่ยวเฟิงชั่วครู่จากนั้นก็เข้าไปนั่งที่ในเรือน
ในเรือนเงียบสงบ อ๋องตวนมองไปยังประตูที่อยู่ไม่ไกลอย่างเหม่อลอย
อ๋องตวนลุกขึ้นและออกไปจากจวนอ๋องตวน ป้ายประตูจวนถูกโยนไว้ที่พื้น พ่อบ้านจึงพาคนมาซ่อมแซมป้ายประตูจวนที่ถูกคนมาทำลายกลางดึก
พ่อบ้านเห็นว่าอาอวี่เป็นคนทำลายและบอกอ๋องตวนแล้ว แต่อ๋องตวนไม่ได้พูดอะไร เขาจึงไม่กล้าถามอะไรมากนัก
ไม่ง่ายเลยที่จะยั่วโมโหพระชายาเย่
อ๋องเย่จัดการเช่นนั้น เขาก็คงพอแล้ว!
“ท่านอ๋อง” เมื่อเห็นหนานกงเหยี่ยนออกมา พ่อบ้านก็รีบเข้าไปทักทาย อ๋องตวนเหลือบมองไปที่พื้นแล้วเดินจากไป
พ่อบ้านจึงรีบสั่งให้คนมาซ่อมแซมโดยเร็ว และฉวยโอกาสตอนที่ท้องฟ้ายังมืด เพื่อไม่ให้ผู้คนหัวเราะเยาะ
หนานกงเหยี่ยนออกไปและเดินไปที่จวนของฉีกั๋วกงอย่างไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ