องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 360

ฉีเฟยอวิ๋นหันกลับไปมองที่ฮูหยินท่านพ่อบ้าน หลังจากนั้นจึงเดินกลับไปที่จวนก่อน เรื่องของพระชายาตวนยังต้องเข้าวังไปเพื่ออธิบาย และยังต้องเข้าวังไปพบพระมเหสีหวาอีกด้วย

พระมเหสีหวาต้องการให้จวินฉูฉู่เป็นพระสนม ฉีเฟยอวิ๋นได้ทำตามความต้องการของพระมเหสีหวาทุกประการ

"หม่อมฉันคารวะพระมเหสีเพคะ"

ฉีเฟยอวิ๋นก้มศีรษะโค้งคำนับ ขณะนี้พระมเหสีหวากำลังนั่งอย่างสง่าผ่าเผยอยู่ที่เก้าอี้ไม้ยาวและมองฉีเฟยอวิ๋นอย่างเหม่อลอยและกล่าวว่า "ลุกขึ้นเถอะ"

"ขอบพระทัยพระมเหสีเพคะ" ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้น พระมเหสีหวาโบกมือเพื่อแสดงให้ฉีเฟยอวิ๋นไปนั่งที่ข้างๆ นาง

ฉีเฟยอวิ๋นเห็นว่าสีหน้าของพระมเหสีหวาไม่ค่อยจะดีนัก จึงเดินเข้าไปใกล้และกล่าวว่า "หม่อมฉันตรวจสอบให้พระมเหสีนะเพคะ"

"อืม"

พระมเหสีหวายื่นมือออกมาให้ฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นเริ่มทำการตรวจจับชีพจร และกล่าวว่า "พระมเหสีหวามีความว้าวุ่นภายในใจ มีอาการนอนไม่หลับหรือไม่เพคะ?"

"พบเจอกับเรื่องเช่นนี้จะนอนหลับได้อย่างไรกัน?" พระมเหสีหวาฝืนยิ้มออกมา ฉีเฟยอวิ๋นก็ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดี

ฉีเฟยอวิ๋นก้มศีรษะลง "พระมเหสีไม่ต้องทรงเก็บมาคิดให้ไม่สบายพระทัยหรอกเพคะ ต้องดูแลร่ากายให้ดี"

"ข้าไม่ได้เป็นอะไร เรื่องที่ข้าประสบพบเจอมาเจ้าไม่อาจจินตนาการขึ้นมาได้ ตั้งแต่ที่อาณาจักรต้าเหลียงมีจักรพรรดิขึ้นมา ก็เริ่มปั่นป่วนและไม่สงบสุข

จักรพรรดิองค์ก่อนมีน้ำใจเมตตากรุณา จึงเป็นโอกาสให้คนเหล่านั้นมาทำลายราชวงศ์จักรพรรดิของอาณาจักรต้าเหลียงได้

อาณาจักรต้าเหลียงต้องการคนที่โหดเหี้ยมอย่าท่านอ๋องเย่เช่นนั้น ท่านอ๋องตวนมีความเมตตา จะทำให้อาณาจักรต้าเหลียง......"

พระมเหสีหวารู้สึกหอบเหนื่อยและหยุดพูดลง ฉีเฟยอวิ๋นหยิบขวดยาบำรุงโลหิตและยาคลายเครียดจากปลายแขนเสื้อของเธอและยื่นให้กับพระมเหสีหวา "นี่คือยาบำรุงโลหิตและคลายความเครียด ทานสามครั้งในหนึ่งวัน และทานต่อกันสามวัน หนึ่งครั้งทานหนึ่งเม็ดนะเพคะ"

แม่นมหลิวก้าวเดินมาข้างหน้าเพื่อหยิบยาบำรุงโลหิตและคลายเครียดไป พระมเหสีหวาตรัสว่า "กลับไปเถอะ"

หลังจากนั้นฉีเฟยอวิ๋นจึงกราบทูลลาออกไป

หนานกงเย่รออยู่ที่ตำหนักหวาหยาง เมื่อเจอเธอจึงพาเธอกลับไป

เมื่อกลับมาถึงจวนท่านอ๋องเย่ ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลงอย่างเหม่อลอย เมื่อนึกถึงจุดจบของจวินฉูฉู่ที่ไม่ค่อยดีนักก็รู้สึกเสียใจ

หนานกงเย่นั่งลง "วันเวลาที่ดีดีของจวินฉูฉู่จบลงแล้ว"

ฉ๊เฟยอวิ๋นมองไปที่เขา "ท่านอ๋องตวนเป็นห่วงเป็นใยนางเช่นนั้น อาจจะมีทางช่วยชีวิตได้"

หนานกงเย่หัวเราะ "หากมีทางช่วยชีวิตได้ อวิ๋นอวิ๋นจะมานั่งทุกข์ใจเช่นนี้หรือ?"

"จวินฉูฉู่จะเป็นหรือตายไม่เกี่ยวข้องกับหม่อมฉัน หม่อมฉันทุกข์ใจหรือเพคะ?" ฉีเฟยอวิ๋นยิ้ม

หนานกงเย่ยกมือขึ้นไปบีบคางของฉีเฟยอวิ๋น "ข้าคิดว่าอวิ๋นอวิ๋นจะรู้สึกเศร้าเสียใจ แต่ก็ไม่อาจห้ามใจได้ ดูเหมือนว่าข้าจะคิดผิด อวิ๋นอวิ๋นช่างจิตใจดีเหลือเกิน กับศัตรูยังสามารถเป็นเช่นนี้ ข้ากลับไม่รู้สึกเป็นกังวลใจ ว่าจะมีวันไหนที่อวิ๋นอวิ๋นจะโยนข้าทิ้งไปเสีย"

ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกพูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง ช่างน่าขบขันเหลือเกิน

"หม่อมฉันพูดไปเมื่อไรว่าหม่อมฉันจะโยนพวกท่านทิ้งไป?"

ฉีเฟยอวิ๋นเพียงแค่รู้สึกเป็นวังกลกับการกระทำของจวินฉูฉู่ ที่ทำให้นางต้องตายเพราะตัวเอง

เธอไม่ได้เป็นคนที่เมตตาต่อศัตรูเช่นนั้น

"ไม่โยนข้าทิ้งไป ข้าก็ไม่เป็นกังวลแล้ว"

สามีภรรยาพูดคุยกันอยู่สักครู่หนึ่ง ฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาจึงได้กลับเข้าไปพักผ่อนในห้อง

ในช่วงเวลาค่ำได้มีกระดาษเชิญส่งมาถึงจวนท่านอ๋องเย่ ลูกชายของท่านหมอเว่ยแต่งงาน จึงได้เชิญให้ท่านอ๋องเย่และฉีเฟยอวิ๋นเข้าร่วมพิธีด้วย

ฉีเฟยอวิ๋นกลับไม่ได้รู้สึกสนใจอะไร ส่วนหมอเว่ยนี้เธอก็ไม่รู้จักมักคุ้นเท่าไรนัก

แต่หนานกงเย่บอกว่า หมอเว่ยและต้ากั๋วจิ้วเป็นญาติกัน

"เขาเป็นญาติห่างๆ ฝั่งแม่ของฮูหยินต้ากั๋วจิ้ว แต่กลับมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับต้ากั๋วจิ้ว" หนานกงเย่อธิบาย

ฉีเฟยอวิ๋นหยิบบัตรเชิญขึ้นมามองอยู่ครู่หนึ่งหลังจากนั้นจึงถามหนานกงเย่ "ท่านอ๋องอยากไปหรือไม่เพคะ?"

"เรื่องเช่นนี้ ข้าไม่สนใจอยากจะไปหรอก แต่ช่วงนี้หมอเว่ยได้ถวายฎีกาเรื่องพื้นที่เขตแดนในที่ห่างไกล พอดีกับที่ข้าก็ต้องการเสนอให้เขาเข้ามา ส่งเขาเป็นทูตไปยังพื้นที่ห่างไกล เพื่อสอบสวนเรื่องที่เขาได้กล่าวอ้างขึ้นมาในฎีกา"

"ทั้งสองอาณาจักรจะมีการทะเลาะเบาะแว้งกันหรือเพคะ?" ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกแปลกใจและไม่เคยได้ยินหนานกงเย่พูดถึง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ