ฉีเฟยอวิ๋นยังคงสนทนาหัวข้อของนาง: "ข้าก็ตกหลุมรักเช่นนี้และชื่นชอบในคนผู้นั้น
น่าเสียดายขณะที่ข้าชื่นชอบเขา เขาได้ตกตึกสูงลงมาสิ้นชีพซะแล้ว
แล้วก็จากลาไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้และไร้ซึ่งชีพจรอีกต่อไป "
หนานกงเย่หันกลับมาแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็ยิ้ม: "ใช่ ขณะที่ข้านั้นชื่นชอบเขาเขาก็ได้สิ้นชีพซะแล้วและขณะที่เขาสิ้นชีพนั้นอายุมากกว่าข้าผู้ที่เขาไม่รู้จักตั้งยี่สิบกว่าปี พวกเราถือว่าเป็นผู้ที่ชื่นชอบที่ไร้ข้อจำกัดใดๆ
มิใช่ว่าน่าเสียดายแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ข้าชื่นชอบในความสูงส่งสง่างามของเขา ชื่นชอบในความเฉลียวฉลาดของเขา ชื่นชอบในความไร้ซื้อตรงเดียงสาของเขา รวมทั้งสามารถยอมรับในเรื่องที่เขารักบุรุษผู้หนึ่งได้"
หนานกงเย่เดินไปนั่งลงตรงหน้าฉีเฟยอวิ๋น เลิกคิ้วขึ้นและมองไปยังฉีเฟยอวิ๋นอยู่ครู่หนึ่งด้วยสีหน้าอันดีขึ้น รักในบุรุษ?
ฉีเฟยอวิ๋นรินน้ำชาถ้วยหนึ่งให้หนานกงเย่: "เขาชื่อจางกั๋วหรงและเสียชีวิตด้วยอาการซึมเศร้า ในสมัยของข้านั่นเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แล้วหลังจากการรักษาก็มักจะเกิดอาการขึ้นได้เป็นประจำ
เขาเป็นผู้ที่สง่างามและมองโลกในแง่ดี เขาเป็นผู้ที่ใจกว้างยิ่งนัก และข้าเข้าใจในตัวเขาจากในโทรทัศน์ ในหนังสือ และในภาพยนตร์ของเขารวมทั้งเพลงของเขา! "
ฉีเฟยอวิ๋นร้องเพลงให้หนานกงเย่เพลงหนึ่ง แม้ว่าหนานกงเย่จะฟังไม่เข้าใจแต่เขาก็สามารถรู้สึกได้ว่าฉีเฟยอวิ๋นยังคงรู้สึกเสียดาย
“แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจในจังหวะดนตรีของเจ้า แต่ดูเหมือนว่าเขาผู้นี้ซึ่งร้องเพลงประเภทนี้ก็ไม่ใช่คนเช่นที่เจ้ากล่าว
เพลงนี้ฟังดูโศกเศร้ายิ่งนัก"
“เพลงนั้นก็ยังสะท้อนถึงความรู้สึกของคนผู้หนึ่ง แต่ว่าเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น สิ่งที่ข้าจดจำได้คือคำกล่าวในเพลงของเขา เนื่องจากข้ามีความฝันถึงได้เก็บท่านไว้ในใจ
ท่านอ๋องแม้ว่าข้าจะออกไปแต่ข้าก็ไม่มีวันที่จะไม่กลับมา
เนื่องจากมีท่านอยู่ที่นี่ "
หนานกงเย่เบือนหน้าออก: "อ้อมเป็นวงกว้างขวางเช่นนี้ก็เพียงเพื่อหลอกลวงข้า"
“หากว่าท่านอ๋องคิดเช่นนั้นข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะกล่าวแล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นกลับไปยังห้องและหนานกงเย่ก็ตามกลับไปกอดฉีเฟยอวิ๋นเอาไว้ เขาไม่สมัครใจปล่อยมือแต่เขากล่าวว่า: "หากอวิ๋นอวิ๋นนอนหลับแล้วไม่กลับมา ข้าจะไปหาท่านพ่อตาแล้วโขกศีรษะซะให้ตาย!"
ฉีเฟยอวิ๋นอ้าปาค้างแล้วหันไปมองยังใบหน้าอันหล่อเหลาของหนานกงเย่: "วางใจเถอะ ข้าหาวิธีกลับมาได้แล้ว หากหัวหน้ากล้าทำสิ่งใดเรื่อยเปื่อยข้าจะใช้ความตายบังคับเขา เขาก็ไม่กล้าแล้ว"
“หืม หรือไม่พระชายาหาวิธีพาข้าไป ข้าจะได้นำเขากลับมาด้วย” ดวงตาของหนานกงเย่ลุกเป็นไฟ ฉีเฟยอวิ๋นมีลางสังหรณ์ว่าหากพาไปได้จริงเขาจะสังหารซูมู่หลง
ฉีเฟยอวิ๋นเขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วจุมพิตหนานกงเย่ครั้งหนึ่ง
เขาไม่รู้และนางเองก็หวาดกลัวมากเช่นกัน
หากว่านางไม่กลับมานั้นเพียงเพื่อยาแค่นัันช่างไม่คุ้มค่านัก แต่นึกถึงชีวิตหนึ่งของเสด็จอาใหญ่แล้วหากไม่กลับไปก็นับว่าผิดบาปมหันต์
ชีวิตคนนั้นใหญ่เท่าท้องฟ้า ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตคน
แม้ว่านางได้กว้างไปบนเส้นทางของการทำลายแล้ว แต่ผู่ที่ควรจะรักษาก็ต้องรักษา
“ท่านอ๋องวางใจเช่นไรก็ต้องมีโอกาสเสมอ เมื่อมีโอกาสข้าจะนำหัวหน้ามาด้วยเป็นแน่ จากนั้นให้ท่านอ๋องลงมีดสามร้อยหกสิบแผลให้แต่ละแผลบาดลึกถึงยังกระดูก ให้หัวหน้าอยู่ไม่ได้ตายก็ไม่ได้ ให้ท่านอ๋องเพลิดเพลินให้เต็มที่"
“เจ้าต้องการให้ข้าเพลิดเพลินให้เต็มที่หรือต้องการให้ข้าตกใจจนตาย ข้าต้องการจะสังหารเขาให้ตายแต่ข้าไม่ได้น่ารังเกียจเช่นนั้นถึงจะคิดหาวิธีทรมานเขาให้ตายเช่นไรอยู่ในใจได้ตลอดทั้งวัน "
“ท่านอ๋องมีหรือไม่นั้นไม่รู้แต่ว่าครั้งนี้ท่านอ๋องอย่าได้กังวลไป บอกว่าครรภ์ของข้ากระทบกระเทือนแล้วท่านอ๋องเพียงแค่ต้องคอยเฝ้าดูแลก็พอ”
“ข้าต้องคอยเฝ้าดูแลอยู่แล้ว อวิ๋นอวิ๋นจำไม่ได้ว่าต้องกลับมาข้าก็จะไปหาท่านพ่อตาจากนั้นโขกศีรษะซะจนตาย!”
“ท่านอ๋อง ข่มขู่มากนักช่างไร้ความหมาย”
“ข้าก็ไร้ซึ่งหนทางแล้วเช่นกัน”
“ได้ ท่านอ๋องเป็นผู้ถูก”
ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปนอนลงยังฝั่งหนึ่ง ถึงช่วงเวลานี้หนานกงเย่ถึงได้นอนลงแล้วจับมือฉีเฟยอวิ๋นเอาไว้และอาลัยอาวรณ์มากขึ้น: "อวิ๋นอวิ๋น ข้าก็อยากไปด้วยพาข้าไปดูด้วยจะเป็นเช่นไรไป?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ