องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 409

หนานกงเย่พยักหน้า: “ข้าไม่วางใจในเรื่องนี้ยิ่งนักดังนั้นให้ผู้อื่นไปข้ายิ่งไม่วางใจมากยิ่งกว่า แต่ว่าข้าสืบไม่พบเรื่องใดเลย”

แม่ทัพฉีพยักหน้า: “แม้ว่าตระกูลจวินจะไม่ได้มีความจงรักภักดีทั้งตระกูลแต่ราชครูจวินนั้นยังคงเชื่อถือได้ เพียงแต่ว่าจวินฉูฉู่ตายไปแล้วจวินเจิ้งตงได้รักษาการณ์ชายแดนมาหลายปีเกรงว่าจะไม่พอใจซะแล้ว”

“ท่านพ่อตากล่าวได้ถูกต้องแล้วดังนั้นเรื่องนี้ไม่ว่าผู้ใดไปก็ไม่ใช่ตัวเลือกในใจของลูกเขยทั้งสิ้น”

“ช่างเถอะ ข้าจะไปดูเอง รออยู่เช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใช่ราว อวิ๋นอวิ๋นปล่อยให้เจ้าแล้ว หากเจ้าปฏิบัติต่อนางได้ไม่ดีข้ากลับมาจะขยี้กระดูกของเจ้าให้เป็นแหลกผุยผงกวาดล้างให้สิ้นซาก"

“ลูกเขยจะรักและเอ็นดูอวิ๋นอวิ๋นให้ดี เรื่องที่ไม่ดีกับนางนั้นไม่มีทางกระทำเป็นแน่ เพียงแต่ว่าลูกเขยเป็นห่วงในวัยอาวุโสของท่านพ่อตา เส้นทางนั้นช่างเหน็ดเหนื่อยนักและนอนกลางดินกินกลางทราย......"

“เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล ออกจากประตูบ้านไปจะคิดเป็นห่วงกังวลมากมายเช่นนั้นไปทำไมกัน ยิ่งกว่านั้นข้าเป็นถึงแม่ทัพผ่านวันเวลาเช่นนี้มาอยู่แล้ว” แม่ทัพฉีกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“ลูกเขยขอขอบคุณท่านพ่อตา” หนานกงเย่ก็ไม่เกรงใจมากนัก ลุกขึ้นแล้วไขว้มือทั้งสองไว้กลางหน้าอก

แม่ทัพฉีโบกมือ: "ดื่มเหล้าเถอะ"

ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก มีท่านพ่อผู้ซึ่งเฉลียวฉลาดและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมาก่อน เป็นบุญบารมีที่นางสั่งสมมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว น่าเสียดายที่เจ้าของเดิมปฏิบัติต่อท่านพ่อผู้นี้เช่นนี้

หลังจากทานอาหารแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็พักอยู่ที่จวนท่านแม่ทัพเป็นเพื่อนแม่ทัพฉี หนทางอันตรายและยากลำบากนางจึงต้องอธิบายให้ชัดเจนเป็นธรรมดา นางเรียกเจ้าแห่งอีกามาก่อนและให้เจ้าแห่งอีกานำเหล่าอีกาคุ้มครองเป็นการลับ มีเรื่องใดก็รีบกลับมารายงานในทันที

ตระเตรียมงานไว้อย่างมากมายจากนั้นฉีเฟยอวิ๋นจึงได้ค่อยๆวางใจ

กลับเป็นท่านแม่ทัพฉีซึ่งฝากฝังฉีเฟยอวิ๋นไว้แค่เรื่องดูแลทารกในครรภ์ให้ดีและรอเขากลับมาเพียงเท่านั้น

หนานกงเย่เข้าวังภายในชั่วข้ามคืนเพื่อหารือเรื่องที่ท่านแม่ทัพฉีจะรับคำสั่งออกรบ

แต่ภายนอกนั้นไม่ได้กล่าวว่าเรื่องที่จวินเจิ้งตงได้รับบาดเจ็บและสูญเสียกำลังทหาร แต่กล่าวว่าอาการเจ็บป่วยเดิมเป็นเวลาหลายปีแล้วของจวินเจิ้งตงนั้นกำเริบจึงให้ท่านแม่ทัพฉีออกรบเพื่อช่วยเหลือจวินเจิ้งตง และในขณะเดียวกันองค์จักรพรรดิอวี้ตี้ก็ได้ถ่ายทอดพระราชโองการลับอีกหนึ่งคำสั่งว่าให้ท่านแม่ทัพฉีรอคอยโอกาสลงมือ หากพบว่าจวินเจิ้งตงน่าสงสัยให้สังหารก่อนแล้วค่อยกราบทูล ไม่ต้องรายงานราชสำนักก็สามารถปลิดชีพได้

หนานกงเย่รับพระราชโองการแล้วออกจากวังหลวง

สามวันให้หลังกำหนดการณ์ของเรื่องที่ให้แม่ทัพฉีออกรบและเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ผู้คนมากมายตกใจ

คนแรกที่ตระหนกตกใจก็คือพระมเหสีหวา

พระมเหสีหวาทรงกระสับกระส่ายและยิ่งได้ยินเรื่องนี้เข้าก็ยิ่งกลัดกลุ้มพระทัยยิ่งนัก

“แม่นมสองสามวันนี้อ๋องตวนไม่ได้มาน้อมทักทายเลยหรือ?” พระมเหสีหวาตรัสถามและแม่นมหลิวก็รีบตอบ

“แม่นมเว่ยไร้ซึ่งข่าวคราวและท่านอ๋องนั้นไม่ได้เสด็จมาจริงๆ”

“โธ่ เหตุใดเด็กคนนี้ถึงไม่เป็นโล้เป็นพายนะ วันนี้ข้าไม่สบายใจก็รู้ว่าต้องเกิดเรื่องใดขึ้นซะแล้วเขาก็ยังไม่รู้จักโต”

“พระมเหสี บ่าวไม่เข้าใจ” แม่นมหลิวเป็นผู้อาวุโสข้างกายพระมเหสีหวา เรื่องราวใดๆนั้นพระมเหสีหวาจะบอกกับนาง แม่นมเว่ยไม่อยู่นางก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว

พระมเหสีหวาเหลือบมองในตำหนัก แม่นมหลิวก็บอกให้ผู้คนถอยออกไปทันที

แม่นมหลิวช่วยพยุงและพระมเหสีหวานั่งลงแล้วตรัสว่า: "ชายแดนเกิดปัญหาอ๋องเย่นั้นต้องวุ่นวายเป็นแน่ เขาให้ผู้อาวุโสไปยังชายแดนเห็นได้ว่าเรื่องราวในครั้งนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน และเมืองอู๋โยวนั้นปกติแล้วก็ไม่ได้จัดการได้ง่ายๆ จวินเจิ้งตงรักษาการณ์มานานหลายปีเกรงว่าจะเป็นเพราะจวินฉูฉู่สารเลวผู้นั้นถึงได้เป็นเช่นนี้

เรื่องราวไม่เกิดเร็วและไม่เกิดช้ากลับมาเกิดขึ้นในเวลานี้?

ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ซับซ้อนอยู่ในนี้"

“พระมเหสีตรัสได้ถูกต้องเพคะ” แม่นมหลิวก็คิดว่าเป็นตามนี้จริงๆ

พระมเหสีหวารู้สึกหดหู่ใจ: “เรื่องนี้นั้นเกรงว่าเหล่าจงชินทั้งหลายจะหลีกเลี่ยงความเกี่ยวข้องไม่พ้น หากเพียงแค่ปลุกระดมเมืองอู๋โยวก็ช่างเถอะ หากว่ามีเมืองอื่นอีกเช่นนั้นพี่ชายของข้าก็จะเกี่ยวข้องไปด้วยเป็นแน่ ถึงเวลานั้นพวกเราเมืองต้าเหลียงจะไร้ซึ่งแม่ทัพฉีคนที่สองแล้ว"

“ความหมายของพระมเหสีคือนายท่านของเราจะถูกผู้อื่นหลอกใช้?” แม่นมหลิวไม่ทันได้ครุ่นคิดจึงถูกพระมเหสีหวาทอดพระเนตรอย่างดุดัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ