องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 410

“วันนี้พวกเจ้าสองคนเข้ามา จวนอ๋องตวนและจวนเสนาบดีรู้เรื่องหรือไม่?”

“ฝ่าบาทถึงแม้ว่าหม่อมฉันจะแต่งงานกับอ๋องตวนแล้วแต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ แม่ทัพฉีนั้นแก่ชราและร่างกายอ่อนแอลง พวกเราผู้น้อยกว่าจะปล่อยให้เขาบัญชาการออกรบเพียงลำพังได้เช่นไร หม่อมฉันยินดีเป็นทัพหน้าตามทหารออกรบ เป็นผู้ช่วยซ้ายขวาให้กับแม่ทัพฉี”

“เรื่องนี้......” องค์จักรพรรดิอวี้ตี้เต็มไปด้วยสีพระพักตร์อันลำบากพระทัย

“ฝ่าบาท กระหม่อมก็มีความคิดเช่นเดียวกัน แต่ว่าพระชายาอ๋องตวนเพิ่งแต่งงานไม่นานและบรรดาศักดิ์ของพระชายาอ๋องตวนนั้นสูงส่ง ออกรบเป็นแนวหน้านั้นไม่ค่อยเหมาะสม กระหม่อมยินดีที่จะเป็นทัพหน้าออกรบ ขอฝ่าบาททรงมีพระราชโองการด้วย”

พระพักตร์เฉินอวิ๋นชูซีดเผือด พระนางไม่ต้องการให้น้องชายออกรบอยู่แล้วแต่จะปล่อยให้อวิ๋นหลัวฉวนไปได้หรือ?

เฉินอวิ๋นชูก็ไม่ได้ทรงตรัสสิ่งใด จักรพรรดิอวี้ตี้ยิ่งดูลำบากพระทัยมากขึ้นไปอีก

ในเวลานี้อ๋องตวนขอเข้าเฝ้าอยู่นอกพระตำหนักบำรุงฤทัย จักรพรรดิอวี้ตี้เห็นว่ากองกำลังช่วยเหลือมาแล้ว จึงทรงรับสั่งให้อ๋องตวนเข้าพระตำหนักมา

อ๋องตวนเข้าประตูมาก็เห็นเฉินอวิ๋นชูคุกเข่าอยู่บนพื้น เขาเดินไปแล้วยกมือถวายความเคารพ: "น้องขอถวายบังคมฝ่าบาท ฮองเฮาพะย่ะค่ะ"

“ตามสบาย อ๋องตวนพระชายาตวนกำลังจะเข้าร่วมกองทัพท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่?” องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงถาม

“ทูลฝ่าบาท น้องรู้เรื่องนี้แต่น้องไม่เห็นด้วยพะย่ะค่ะ”

“โอ้!” จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงแสร้งทำเป็นไม่รู้

อ๋องตวนกราบทูลว่า: "ทูลฝ่าบาท หากฉวนเอ๋อร์ต้องการออกรบโดยไม่มีเหตุบังเอิญหลังจากดึงเวลาไปประมาณหนึ่งเดือนให้หลังน้องก็คงจะรับปาก แต่ตอนนี้กลับไม่ได้แล้วพะย่ะค่ะ"

“เนื่องจากเหตุใด?” ไม่รอให้องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงถาม ส่วนอวิ๋นหลัวฉวนนั้นวิตกกังวลขึ้นซะก่อน

อ๋องตวนกล่าวว่า: “วันก่อนพี่สาวที่สี่ของท่านกลับมาเรือนมารดาฉวนเอ๋อร์ดื่มเหล้าจนเมามาย ยังจำช่วงเวลาตอนตื่นนอนได้หรือไม่?”

อวิ๋นหลัวฉวนคิดอย่างถี่ถ้วนอยู่ครู่หนึ่ง: "เรื่องนั้นมีสิ่งใดให้จดจำ"

กล่าวจบอวิ๋นหลัวฉวนหน้าก็แดงขึ้นแล้ว

ในเวลานั้นนางตื่นมาเนื้อตัวเปลือยเปล่าและมีรอยจูบทั่วทุกหนทุกแห่ง บนร่างของอ๋องตวนมีรอยขีดข่วนมากมาย นางก็ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เช่นไรแล้วเนื้อตัวของทั้งสองคนเต็มไปด้วยรอยแผล

แต่นางถามตวนอ๋องถึงเรื่องเสื้อผ้าและรอยแผลว่าเป็นเรื่องอันใด อ๋องตวนเพียงแค่มองนางโดยไม่กล่าวสิ่งใด

หลังจากเกิดเรื่องแล้วนางแอบถามท่านย่าอย่างเงียบๆ ท่านย่ากล่าวว่านางคงจะดื่มเหล้าเมาแล้วหลังจากนั้นก็ได้ทำเรื่องของสามีภรรยากับอ๋องตวนแล้ว

อ๋องตวนถึงได้กล่าวว่า: “ฝ่าบาท ในวันนั้นน้องและฉวนเอ๋อร์อยู่บนเตียงร่วมกันตลอดหนึ่งคืนเต็ม ตามการคาดการณ์ของข้าหนึ่งเดือนให้หลังน่าจะมีข่าวดี

ตามกองทัพออกรบนั้นต้องใช้เวลาเป็นครึ่งปีเป็นปีๆน้องไม่วางใจ"

“เช่นนั้นก็ไปไม่ได้จริงๆ แม้ว่าจะไม่ใช่แต่เป็นถึงพระชายาอ๋องตวนก็ไม่มีเหตุผลให้ไปออกรบ” เมื่อองค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงตรัสเช่นนี้ขึ้นอวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกเสียใจยิ่งนัก

“ฝ่าบาท น้องจะไปน้อมทักทายเสด็จแม่กับพระมารดา ขอทูลลาก่อนพะย่ะค่ะ”

"ไปเถอะ"

อ๋องตวนก้มลงแล้วจูงอวิ๋นหลัวฉวนขึ้นมา อวิ๋นหลัวฉวนนั้นใบหน้าโศกเศร้า หากรู้แต่แรกก็ไม่ดื่มเหล้าแล้ว ดื่มเหล้าแล้วเสียเรื่องหมด

อ๋องตวนจูงมืออวิ๋นหลัวฉวนออกจากพระตำหนักบำรุงฤทัย ออกจากประตูมาก็เหลือบมองยังอวิ๋นหลัวฉวน เพื่อป้องกันไม่ให้นางวิ่งออกไปอีก น้อมทักทายพระพันปีแล้วจึงไปยังตำหนักหวาหยางและคิดที่จะพักอาศัยอยู่ที่นั่นเลย

เฉินอวิ๋นเจี๋ยจะตามกองทัพออกรบ องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ได้พิจารณาแล้ว: "เจ้าไปฝึกฝนเอาไว้ก็ดี เช่นนั้นก็ไปเถอะ"

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

เฉินอวิ๋นเจี๋ยลุกขึ้นเหลือบมองไปยังฮองเฮาเฉินอวิ๋นชูแล้วหันหลังจากไป

เฉินอวิ๋นชูรีบเรียกเฉินอวิ๋นเจี๋ยเอาไว้: "อวิ๋นเจี๋ย"

เฉินอวิ๋นเจี๋ยหันกลับมาเงยหน้ามองเฉินอวิ๋นชูแล้วกล่าวว่า: "ฮองเฮารักษาพระวรกายด้วย"

ก้าวถอยแล้วจากไปเลย

เฉินอวิ๋นชูประทับนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งที่แล้วถูกพบเห็นเข้าพวกเขาพี่สาวและน้องชายก็ไม่ได้พูดคุยกันเลย เขาไม่ยอมยกโทษให้นางเป็นแน่

พระพันปีได้ทรงบรรทมแล้ว ไม่คิดว่ายังมีคนมารบกวนอีก

“ไทเฮา ราชครูจวินขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ” ไห่กงกงกระซิบอยู่ข้างเตียง พระพันปีลืมตาขึ้นแล้วลุกขึ้นนั่ง

ไห่กงกงช่วยดูแลจัดการและพระพันปีก็ทรงตรัสว่า: “ในที่สุดก็มาแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ