ฮูหยินเสนาบดียกน้ำชามาวางลง "ท่านเสนาบดีเป็นกังวลใจเพราะเรื่องอะไรหรือ?"
"ข้าไม่เห็นด้วยกับคำร้องขอของอวิ๋นเจี๋ย แต่เรื่องนี้จักรพรรดิได้ออกคำสั่งแล้ว จึงทำให้เรื่องนี้ไม่มีทางแก้ไขได้อีก
ไปเขตชายแดนก็ดี เขาไปรบที่เขตชายแดนก็เหมือนเป็นเรื่องปกติ ในเมื่อไม่ยอมอยู่รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้า เช่นนั้นก็ไปเป็นพี่ชายของเขาก็ดีเช่นกัน อย่างน้อยก็สามารถทำให้พวกเราอยู่อย่างสงบสุข
เพียงแต่ราชครูจวินยังป่วยหนัก เรื่องราวในราชสำนักก็มากมาย หากยังมีเรื่องเช่นนี้ไปอีก ข้าเกรงว่าข้าจะแบกรับไว้ไม่ไหวและเกิดความวุ่นวายขึ้นในที่สุด"
"ท่านเสนาบดีอย่ามัววิตกกังวลอยู่กับเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ ข้าเชื่อมั่นในความสามารถของท่านเสนาบดี ทำไมถึงดูถูกตัวเองเกินไปล่ะเจ้าคะ
อีกทั้ง ราชครูจวินก่อเรื่องขึ้นก็เป็นโอกาสของท่านเสนาบดีไม่ใช่หรือ?
หากสามารถรักษาอำนาจและควบคุมไว้ได้ เช่นนั้นจะมีใครสามารถทำอันตรายต่อตำแหน่งของท่านในราชสำนักได้อีกหรือ" ฮูหยินเสนาบดีรู้สึกได้ใจ
คนที่มาวันนี้ล้วนมาเพื่อผลประโยชน์ เพียงเพื่อใช้โอกาสจากตรงนี้ วันคืนที่แสนสุขสบายของจวนเสนาบดีก็จะมาถึง
เสนาบดีมองออกไปด้วยใบหน้าอบอุ่นแต่โกรธเคือง "เจ้าเป็นเพียงผู้หญิง แม้จะมีผมยาวแต่ไม่มีความรู้เอาเสียเลย หากจะบอกว่าเจ้าไม่มีประสบการณ์ความรู้ทางโลกเลยก็คงเป็นเช่นนั้น
เจ้าคิดว่าราชครูจวินเจ็บป่วยจริงๆ หรือ?"
"เช่นนั้นเขา?" ฮูหยินเสนาบดีรู้สึกสงสัย
เสนาบดีถอนหายใจ "ข้ารู้นิสัยของราชครูจวินดี เกรงว่าเขาคงกำลังดูการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่เรือนก็เท่านั้น
เขามีลูกเยอะ หากจะตายสักคนสองคนจะเป็นไรไปเสีย?
เขาไม่เหมือนกับพวกเรา เขาส่งลูกหลานเข้าไปอยู่ในวังหลวง เจ้าเห็นว่าเขารู้สึกเสียดายบ้างหรือ เขาก็คิดเพียงแค่โยนหมูป่าหมาป่าออกไปโดยไม่สนใจเลยสักนิด
จักรพรรดิเพียงแค่เห็นแก่ความดีความชอบของเขา ทำไมเขาถึงจะไม่ยอมเสียสละผลประโยชน์เล็กน้อยเพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่มากขึ้น?
จวินฉูฉู่เป็นคนที่เขาเลือกเพื่อแต่งงานกับท่านอ๋องตวน ตอนตายก็ตายอย่างน่าอนาถ แต่เขากลับไม่เหลือบมองแม้แต่น้อย
หัวใจของเขาช่างเหี้ยมโหดมากเหลือเกิน!
ข้ากลัวเขาเหลือเกิน!"
"เช่นนั้น......"
"ให้เป็นเช่นนี้ไปก่อนเถอะ เขาก็คือเขา ข้าก็คือข้า หากเขายังยอมให้ข้าได้ ข้าก็จะต่อสู้กับเขาไปเช่นนี้"
เสนาบดีลุกขึ้นเพื่อจะไปพักผ่อน ฮูหยินเสนาบดีกลับรู้สึกไม่ยอม
แค่พลาดโอกาสก็กลัวจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นก็ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน แต่เธอไม่สนใจเรื่องเหล่านี้
เพียงแต่ราชครูจวินติดโรคร้ายเข้า นี่เองที่ทำให้ฉีเฟยอวิ๋นเป็นกังวล
หากหมอหลวงไม่สามารถรักษาให้หายได้ เช่นนั้นก็เชื่อว่าคนอื่นคงไม่สามารถรักษาให้หายได้เช่นกัน และหากเธอไม่ไปดูอาการเสียหน่อย ก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ ตอนเช้าฉีเฟยอวิ๋นได้มาส่งท่านแม่ทัพฉีไปออกรบ หลังจากนั้นตอนบ่ายจึงสะพายกล่องยาไปจวนราชครูจวินพร้อมกับอาอวี่
เมื่อมาถึงจวนราชครูจวิน ฉีเฟยอวิ๋นให้อาอวี่ไปเคาะประตู เมื่อพ่อบ้านเห็นว่าฉีเฟยอวิ๋นมาจึงรีบให้เธอรอก่อน
จวนราชครูจวินในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่เขตชายแดนขึ้น จวนราชครูจวินก็ตกเป็นสถานที่ที่ทุกคนต่างพากันหวาดกลัว และที่ยังสามารถเข้ามาที่จวนได้ก็มีเพียงไม่กี่คน
พ่อบ้านเข้าไปรายงาน ไม่นานก็ออกมาเชิญฉีเฟยอวิ๋นเข้าไปข้างใน
ฮูหยินรองของตระกูลจวินออกมาต้อนรับฉีเฟยอวิ๋นด้วยตัวเอง จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นจึงเดินตามเข้าไป
"เชิญพระชายาเย่ข้างในเพคะ ท่านราชครูรออยู่ข้างในแล้ว ที่นี่เป็นที่พักของท่านราชครู คนที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่ได้รับอนุญาตจากท่านราชครูจะไม่สามารถเข้าไปได้เพคะ"
"ขอบคุณท่านฮูหยิน" ฉีเฟยอวิ๋นหันกลับและพาอาอวี่เข้าไปในเรือน
ภายในเรือนมีคนยืนอยู่คนหนึ่ง เมื่อเห็นฉีเฟยอวิ๋นจึงรีบพาเธอไปที่ห้องของราชครูจวิน
เมื่อเข้าประตูมาก็ได้เห็นว่าราชครูจวินกำลังนอนอยู่บนเตียง ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าไปดู "ท่านราชครูจวิน ท่านสบายดีหรือไม่"
"กระหม่อมไม่สามารถลุกขึ้นมาต้อนรับได้ แถมยังต้องลำบากให้พระชายาเย่มาเยี่ยมถึงในห้อง กระหม่อมเกรงกลัวเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ"
"ท่านราชครูจวินพูดเกินไปแล้ว ท่านอ๋องติดภารกิจมากมายจึงไม่สามารถมาเยี่ยมได้ ไม่เช่นนั้นเขาก็คงติดตามข้ามาพบท่านราชครู"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ