แต่ที่น่าโมโหก็คือเวลานี้อวิ๋นหลัวฉวนเกิดง่วงนอนขึ้นมา
หลังจากที่สับสนกันอยู่ครู่ใหญ่ อวิ๋นหลัวฉวนก็ได้เอนกายนอนขดตัวอยู่ข้างกายของท่านอ๋องตวน
เวลานี้ท่านอ๋องตวนได้ตื่นขึ้น ทันทีที่ลืมตาเขาก็ยื่นมือออกไปลูบใบหน้าของอวิ๋นหลัวฉวน จิตใจเกิดความว้าวุ่น แม้ว่าเส้นทางที่มานี้จะลำบากมาก แต่เขากลับรู้สึกว่ามันคือความสุขที่หาได้ยากยิ่ง
เดิมทีตามเจตนารมณ์ของน้องสาม เขาตั้งใจจะกลับไปทันที ระหว่างทางเขาได้เปลี่ยนตัวกับน้องสามให้เขากลับไปและให้น้องสามมาแทน แต่เขาอาลัยอาวรณ์ จึงดื้อดึงที่จะตามไป
ระหว่างทางน้องสามมีสีหน้าเคร่งเครียดมาก เมืองหลวงไม่มีผู้ใดที่ไว้ใจได้ เมื่อเกิดเรื่องพวกเขาจึงต้องทิ้งใต้หล้าเพื่อสตรี แต่เขาไม่สนใจอีกแล้ว
ท่านอ๋องตวนพลิกตัว ปลดกระดุมของอวิ๋นหลัวฉวน และทำการพรมจูบลงไปบนระหว่างคิ้วของอวิ๋นหลัวฉวน
ในขณะที่ตั้งใจจะพรมจูบต่อนั้น อวิ๋นหลัวฉวนก็พลันลืมตื่นขึ้น
ท่านอ๋องตวนผงะไปเล็กน้อย ก่อนที่ใบหน้าจะแดงระเรื่อ
อวิ๋นหลัวฉวนทำได้แค่มองไปยังท่านอ๋องตวนราวกับหลงวังวนอยู่ในห้วงความฝัน : “ท่านอ๋อง ท่านจะทำสิ่งใด?”
“ฉวนเอ๋อร์ ข้าให้สัญญากับเจ้าเรื่องหนึ่ง เป็นอย่างไร?” ท่านอ๋องตวนค่อย ๆ ก้าวไปทีละขั้นตอน
อวิ๋นหลัวฉวนนึกถึงเรื่องที่ทำให้นางอยู่ต่อ จากนั้นก็พยักหน้า : “ขอบพระคุณท่านอ๋อง”
“แต่ ข้ามีเรื่องให้เจ้าทำ”
“แลกเปลี่ยนหรือ?” อวิ๋นหลัวฉวนชำเลืองตามองไปทางท่านอ๋องตวน เรื่องนี้จะต้องมีการแลกเปลี่ยน
ท่านอ๋องคลี่ยิ้ม : “ฉวนเอ๋อร์จะไม่รับปากข้าก็ได้ ข้าจะได้ออกไป”
“....ช้าก่อน.....” เพื่อจะได้อยู่ต่อ อวิ๋นหลัวฉวนล้วนยอมทุกอย่าง นางดึงตัวของท่านอ๋องตวนไว้
มุมปากของท่านอ๋องตวนกระตุกโค้งเล็กน้อย : “ข้าอยากได้ผู้หญิง”
“หา?”
อวิ๋นหลัวฉวนหน้าแดงก่ำ : “ที่นี่ไม่มีหรอก หม่อมฉันจะไปหามาให้ท่านอ๋องจากที่ไหนละเพคะ?”
“ไม่ต้องหาหรอก ตรงหน้าข้าก็เพียบพร้อมแล้ว” หัวใจของท่านอ๋องเต้นเร็วรัวเหมือนจะทะลุออกมา
อวิ๋นหลัวฉวนนึกบางอย่างได้อย่างฉับพลัน : “หม่อมฉันหรือ?”
“ฉวนเอ๋อร์ช่างเฉลียวฉลาดยิ่งนัก” ท่านอ๋องตวนจูบลงไปบนใบหน้าของอวิ๋นหลัวฉวน อย่างแผ่วเบา ก่อนจะผละออก อวิ๋นหลัวฉวนกำเสื้อผ้าของท่านอ๋องตวนแน่น ด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ
“ท่านอ๋อง ไม่ได้ หม่อมฉัน.....อุ๊บ...”
อวิ๋นหลัวฉวนไม่ทันได้เปิดปาก หนานกงเหยี่ยนก็ประกบจูบลงบนริมฝีปากของอวิ๋นหลัวฉวนอย่างอดใจไม่ได้ ใบหน้าของอวิ๋นหลัวฉวนร้อนผ่าวยิ่งกว่าน้ำร้อน ภาพตรงหน้าว่างเปล่าในชั่วพริบตา นางจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของหนานกงเหยี่ยนอย่างเหม่อลอย หัวใจอ่อนระทวยลง เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดอย่างไรอย่างนั้น
หนานกงเหยี่ยนผละออกชั่วครู่ : “ฉวนเอ๋อร์ ข้าให้สัญญาเจ้าหนึ่งเรื่องแล้ว เจ้าเองก็ต้องมอบกายนี้ให้กับข้า แม้ว่านี้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่สองครั้งก่อนหน้านั้นล้วนเป็นตอนที่ฉวนเอ๋อร์มึนเมาครองสติไม่ได้ ข้าต้องการตอนที่ฉวนเอ๋อร์มีสติดีทุกอย่าง ได้หรือไม่?”
“ไม่......ไม่.....ไม่ได้!” อวิ๋นหลัวฉวนหน้าแดงยิ่งกว่าผลแอปเปิล ได้แต่ตอบกลับอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แต่ในหัวของนางตอนนี้กลับว่างเปล่า ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำสิ่งใด
ท่านอ๋องตวนบีบปลายคางของอวิ๋นหลัวฉวน และเชิดขึ้นอย่างเบามือ : “ข้าเจ็บปวด เจ็บปวดแทบขาดใจ!”
อวิ๋นหลัวฉวนค่อย ๆ มองออกไป : “ท่านอ๋อง ...... ป่วยหรือเพคะ?”
“......ป่วย? คงป่วยรักสินะ!” หนานกงเหยี่ยนกดจุดบนร่างกายของอวิ๋นหลัวฉวน แม้ว่าอวิ๋นหลัวฉวนจะได้สติกลับมาก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว นางได้แต่มองหนานกงเหยี่ยนปลดเปลื้องเสื้อผ้า และปลดเสื้อผ้าของนางจนร่างกายเปลือยเปล่าเช่นกัน เสื้อผ้าทั้งสองชุดได้คลุมอยู่บนร่างกายของพวกเขา พวกเขาเกลือกกลิ้งไปมาอยู่ใต้กองเสื้อผ้า กระทั่งการกดจุดของนางค่อย ๆ เสื่อมคลาย พวกเขาก็ยังคงกอดรัดกันไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เมื่อทุกอย่างสงบ อวิ๋นหลัวฉวนได้แต่กะพริบตา ส่วนข้างกายก็คือท่านอ๋องตวนที่หายใจเหนื่อยหอบ มือของนางยังถูกจับอยู่บนฝ่ามือของท่านอ๋องตวน
อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นางจึงได้เอ่ยถามว่า : “ท่านยังคิดถึงจวินฉูฉู่อีกหรือไม่เพคะ?”
ท่านอ๋องตวนกุมมือของนางแน่น จากนั้นก็ดึงมือของอวิ๋นหลัวฉวนมาวางลงบนหน้าอก : “ไม่ได้คิดถึง แต่จดจำไว้”
อวิ๋นหลัวฉวนหันไปมอง ด้วยใบหน้าที่งดงามนั้น หนานกงเหยี่ยนดึงมือของอวิ๋นหลัวฉวนมาพรมจูบ : “ข้าให้สัญญากับฉวนเอ๋อร์ ต่อแต่นี้ไปจะจดจำนางไว้ และข้าก็ให้สัญญากับฉวนเอ๋อร์ ว่าตั้งแต่บัดนี้ไปจะเป็นท่านอ๋องที่ดี เป็นคนที่มีประโยชน์ให้จงได้
หลังจากกลับตระกูลอวิ๋นครานี้ จะไม่มีเรื่องต้องเสียหน้าอีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ