“อืม……” หนานกงเย่กอดฉีเฟยอวิ๋นไว้ในมือทั้งสองข้าง: "เช่นนี้ดีเท่าใด สามารถอยู่บ้านเป็นเพื่อนอวิ๋นอวิ๋นกับลูกชายทั้งหลายอย่างมีสมาธิได้แล้ว"
“ออ!” ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกขบขันแต่นางก็เป็นผู้ริเริ่มจุมพิตปากของหนานกงเย่และหัวใจของหนานกงเย่ราวกับว่าถูกบางสิ่งบางอย่างกระทบกระทั่ง เกิดอาการชาพุ่งมาเป็นพักๆ
ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่าเขาเพิ่งไปหาฝ่าบาท เพียงแต่ว่าน่าเสียดายที่ผู้อื่นนั้นเป็นถึงฝ่าบาท ท่านว่าท่านเป็นท่านอ๋องผู้หนึ่งท่านลำบากเท่าใดอีกถึงจะใหญ่กว่าฝ่าบาทได้
แต่ผู้คนบางคนเมื่อได้เจอเรื่องราวของนางก็จะไร้ซึ่งเหตุผลและแสดงอารมณ์เช่นเด็กๆ
เช่นนี้เป็นผลให้เกิดผลลัพธ์ดังตรงหน้านี้และก็ถูกหยุดราชการอีก
อ่อนโยนและดีเยี่ยมทั้งคืน ฉีเฟยอวิ๋นตื่นสายเล็กน้อยในตอนเช้าส่วนหนานกงเย่หลับสบายจึงได้ตื่นแต่เช้าแล้ว คนก็รู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาติดตามแม่ทัพฉีออกไปเที่ยวตั้งแต่เช้าและซื้อจิ้งหรีดสองสามตัวกลับมา
เนื่องจากทั้งพ่อตาและลูกเขยไม่ใช่ผู้ที่เคยชินกับการสู้จิ้งหรีด แม้จะรู้ว่าจิ้งหรีดใช้ต่อสู้แต่ทั้งสองคนก็ไม่มีผู้ใดเข้าใจ คนอื่นขายพวกเขาก็ซื้อกลับมาเลย
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นก็เห็นทั้งสองคนอุ้มโถจิ้งหรีดกลับมากันคนละหนึ่งโถเข้าพอดี
ฉีเฟยอวิ๋นประหลาดใจ ทั้งสองคนนี้ทำสิ่งใดอยู่?
“อาอวี่อยู่เป็นเพื่อนพ่อบ้านอัน อย่าได้รบกวนพวกเด็กๆพวกเขาหลับกันหมดแล้ว”
"พะย่ะค่ะ"
อาอวี่ตอบรับแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็เดินไปดูทั้งพ่อตากับลูกเขย
“ทานข้าวเช้าแล้วหรือยัง?” ฉีเฟยอวิ๋นถามพวกเขา
แม่ทัพฉีกล่าวว่า: "ทานบะหมี่เนื้อแกะชามหนึ่งที่ตลาด"
“แล้วท่านหล่ะ?” ฉีเฟยอวิ๋นมองไปยังหนานกงเย่แล้วหนานกงเย่นั้นพยักหน้า
“เช่นกัน เป็นครั้งแรกของข้าซึ่งอร่อยมาก” หนานกงเย่ได้ทานเป็นครั้งแรกจริงๆ แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ในเมืองต้าเหลียงแต่งานการที่เขาทำนั้นไม่ได้คลุกคลีกับร้านข้างทางเล็กๆเขาจึงไม่ทราบมากนัก
“แล้วนี่คือสิ่งใด?” ฉีเฟยอวิ๋นชี้ไปยังโถจิ้งหรีด
แม่ทัพฉีกล่าวว่า: “นี่คือโถจิ้งหรีดซื้อมาสู้กัน พ่อเตรียมจะสู้จิ้งหรีดกับเขา ภายภาคหน้าพวกเขาทั้งหลายก็สู้ด้วย”
ฉีเฟยอวิ๋นยิ้มเจื่อนๆ มองทั้งสองคนด้วยสายตาแปลกประหลาดเล็กน้อย
หนานกงเย่รู้สึกไม่ค่อยดีนักอยู่ครู่หนึ่ง
“ท่านพ่อ เหตุใดท่านต้องซื้อสิ่งนี้ด้วย ท่านอ๋องขอให้ท่านซื้อใช่หรือไม่?” ฉีเฟยอวิ๋นแนะแม่ทัพฉีทีละขั้นๆส่วนแม่ทัพฉีไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านั้นแล้วตบหน้าอกยอมรับในทันทีว่าเขาต้องการซื้อเอง และเขายังยอมรับว่าเป็นเขาเองที่ยุยงหนานกงเย่
“เรื่องนี้พ่อเป็นคนตัดสินใจเองแล้วเขาจะยังไม่ซื้ออีก พ่อไม่ได้ใช้เงินของเจ้า พ่อรู้ว่าตอนนี้เจ้ามีลูกมากต่อไปจะดำเนินการเรื่องบ้านใหม่เสียดายไม่กล้าใช้ นี่เงินของพ่อ"
แม่ทัพฉีใบหน้ายิ้มแย้ม
ฉีเฟยอวิ๋นทำสิ่งใดไม่ถูกแล้ว บางครั้งพ่อของนางก็ไร้เดียงสายิ่งนัก!
“ท่านพ่อท่านอย่าเพิ่งกล่าว ข้าถามเขา”
"เจ้าถามเถอะ"
ฉีเฟยอวิ๋นมองไปยังหนานกงเย่แล้วยื่นมือออกไปเปิดฝาโถ เหลือบมองไปยังจิ้งหรีดที่วิ่งไปวิ่งมาด้านในโดยที่ตัวไม่เล็กสักเท่าใด
“นี่เป็นแม่ทัพหรือ?” ฉีเฟยอวิ๋นถามส่วนหนานกงเย่นั้นเห็นด้วย
“อวิ๋นอวิ๋นรู้แม้กระทั่งเรื่องจิ้งหรีดหรือ?”
“ไม่เพียงแต่รู้?” ฉีเฟยอวิ๋นยิ้ม: “จิ้งหรีดของพวกท่านราคาเท่าไหร่?”
“เงินห้าสิบตำลึง เงินของท่านพ่อตา”
หนานกงเย่เกรงว่าจะมีเกิดเรื่องขึ้นและรู้สึกว่าถามเรื่องนี้อยู่ได้ดูไม่ปกติ
ฉีเฟยอวิ๋นส่งเสียงจุ๊ๆสองครั้งพร้อมส่ายศีรษะ: "เงินห้าสิบตำลึงนี้ช่างเสียเปล่าซะจริงๆ"
“อะไรนะ?” หนานกงเย่ดึงโถกลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ