อวิ๋นหลัวฉวนพูดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่กินข้าวสักคำ
“ท่านพี่เสียนเฟย ท่านพูดอะไรหน่อยซี” อวิ๋นหลัวฉวนเฝ้ารออย่างกังวล
ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองนางนิดหนึ่ง “เดิมทีท่านดูเป็นคนฉลาดเฉียบแหลม เหตุใดตั้งแต่อยู่ร่วมกับท่านอ๋องตวนท่านจึงได้กลายเป็นคนเขลา เราเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กัน ท่านอ๋องตวนและท่านอ๋องเย่เป็นพี่น้องแท้ๆ ลูกของพวกเราใกล้ชิดกัน เป็นญาติกัน หากแต่งงานกัน ในอนาคตอาจมีปัญหาเรื่องการให้กำเนิดบุตร ข้าเป็นหมอ ท่านเชื่อข้าสิ”
อวิ๋นหลัวฉวนไม่พูดอะไรต่อ ฉีเฟยอวิ๋นจึงถามว่า “ท่านบุ่มบ่ามมาหาข้าเช่นนี้คงไม่ใช่เพราะเรื่องลูก ท่านไม่ใช่คนเช่นนั้น แม้ว่าการหาสามีที่เหมาะสมให้กับลูกจะเป็นหลักประกันความมั่นคงอย่างหนึ่ง แต่ท่านจะไม่ทำเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆ จะต้องมีเหตุผลบางอย่างท่านจึงได้ทำเช่นนี้”
เมื่ออวิ๋นหลัวฉวนไม่พูดอะไร ฉีเฟยอวิ๋นจึงยิ่งแน่ใจในความคิดของนางมากขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นใช่หรือไม่”
อวิ๋นหลัวฉวนเหลือบมองฉีเฟยอวิ๋น “วันนี้ข้าไปหาจงชินอ๋อง
ท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่ได้ยินมาว่าจงชินอ๋องไม่สบาย ได้ยินคนที่จวนกั๋วกงบอกว่าสองวันมานี้ท่านอ๋องตวนก่อเรื่องและทำร้ายจงชินอ๋อง ข้ากลัวว่าจะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บก็เลยแอบไปดู”
“แล้วท่านมาที่นี่เพื่อจะให้ข้าไปตรวจดูจงชินอ๋องงั้นหรือ”
อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้า “ไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ที่จวนของจงชินอ๋องมีหมอประจำจวนคนใหม่ เป็นคนที่มีฝีมือดีมาก เขาตรวจโรคต่างๆ ดูแล้วและจงชินอ๋องก็พึ่งพาเขาได้มาก
จงชินอ๋องถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บภายใน ตอนที่ข้าไปเยี่ยมเขาเขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด ตอนแรกข้ากังวลว่าจงชินอ๋องจะอาการแย่ แต่หมอประจำจวนบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แม้ว่าคราวนี้จงชินอ๋องจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน
ข้าถามว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเรื่องดี หมอประจำจวนผู้นั้นบอกข้าว่าแต่ก่อนท่านจงชินอ๋องเคยถูกคนทำร้ายมาก่อนจนมีเลือดคั่งในอก ตอนแรกอยากจะผ่าเอาเลือดออกแต่ติดอยู่ที่หมอประจำจวนไม่มั่นใจว่าจะทำได้ คราวนี้เมื่อถูกท่านอ๋องตวนทำร้ายก็พอดีไปทำให้จุดที่มีเลือดคั่งแตกออก นับเป็นความโชคดีในความโชคร้าย
เวลานั้นข้าทั้งดีใจทั้งกังวล เพราะถึงอย่างไรก็เป็นท่านอ๋องตวนที่ไปลงไม้ลงมือกับผู้อื่น
แต่ทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องรอง หมอประจำจวนนั่นมองข้าแปลกๆ พอข้าถามว่ามีอะไรเขาก็บอกว่าสีหน้าของข้าดูไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่าสุขภาพมีปัญหาตรงไหนหรือเปล่า
แน่นอนว่าข้าปฏิเสธ แต่หมอประจำจวนผู้นั้นกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ ข้าเองก็ประหลาดใจเล็กน้อย
พูดกันไปได้สองสามคำก็ถูกเขาหลอก ยอมฟังตามคำของหมอประจำจวน เพื่อให้เขาพิสูจน์ให้ข้าดู ข้าจึงยื่นมือให้เขาตรวจ เขาตรวจให้ข้าและบอกว่าข้ามีภาวะมีบุตรยาก ข้าก็พอเข้าใจแต่ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจัง
ข้าจำได้ว่าท่านเคยบอกว่าจงชินอ๋องน่าจะเป็นผู้นำกลุ่มหนึ่งของจงชิน ข้าจึงไม่อาจทำใจเชื่อพวกเขา
หมอประจำจวนอยากให้ข้าอยู่เพื่อจะได้ช่วยรักษาให้ข้า ข้าจึงปฏิเสธและกลับไปที่จวนกั๋วกง
ข้าไม่เชื่อจึงลองให้หมอประจำจวนกั๋วกงตรวจให้ข้า หมอประจำจวนดูแล้วก็บอกอย่างเดียวกัน ข้าจึงได้มาที่นี่”
อวิ๋นหลัวฉวนไม่พูดอะไรอีก ฉีเฟยอวิ๋นยื่นมือออกไปจับข้อมือของอวิ๋นหลัวฉวนและตรวจร่างกายให้นาง
“ท่านพี่เสียนเฟย ข้าอยากจะหาพระชายารองให้ท่านอ๋องตวนสักคนหนึ่ง ข้า...”
“จงชินอ๋องมีปัญหาจริงๆ”
ฉีเฟยอวิ๋นมองอวิ๋นหลัวฉวนและปล่อยมือออก
“อาอวี่ ไปที่จวนอ๋องตวนและรีบเชิญท่านอ๋องตวนมาที่นี่เดี๋ยวนี้”
“พ่ะย่ะค่ะ”
อาอวี่หันหลังและวิ่งออกไป อวิ๋นหลัวฉวนรู้ว่ามีปัญหาและไม่มีทางยับยั้ง
“พ่อบ้าน ไปเชิญท่านอ๋องมาที บอกเขาว่าอย่าเพิ่งหลับ เราจะกลับเดี๋ยวนี้”
พ่อบ้านโค้งคำนับและรีบไปที่เรือนของฉีเฟยอวิ๋น
แม่ทัพฉีที่ออกมาจากห้องฝึกซ้อมมองเห็นพ่อบ้านเดินเข้าไปในเรือนของบุตรสาว เขาคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงเดินตามไป
หนานกงเย่ลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าและก้าวออกมาจากห้อง เขามองแม่ทัพฉีที่เดินมาและอธิบายให้ฟังสองสามคำก่อนจะเดินไปที่ห้องโถง
เพื่อให้สะดวกในการพูดคุยเมื่อมีคนมาหา ฉีเฟยอวิ๋นจึงใช้ห้องโถงทางด้านตะวันตกของเรือนเป็นที่สำหรับรับรองแขก หนานกงเย่รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนของลูกเขาจึงตรงไปที่นั่น
แม่ทัพฉีเดินเข้ามา อวิ๋นจิ่นตามเข้ามาด้วยและคอยดูแลเด็กด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ