องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 496

ฉีเฟยอวิ๋นเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้อวิ๋นหลัวฉวนฟังระหว่างทาง อวิ๋นหลัวฉวนถามว่า “ที่ท่านพี่เสียนเฟยต้องการสื่อคืออะไรหรือ”

“เรียกข้าว่าท่านพี่เถอะ เรียกว่าท่านพี่เสียนเฟยมันยุ่งยาก นอกจากนี้คนที่ไม่รู้จะคิดว่าข้าเป็นพระสนมในวังเอาได้”

คำพูดของฉีเฟยอวิ๋นทำให้อวิ๋นหลัวฉวนมีความสุขมาก “งั้นเราสาบานเป็นพี่น้องกันแล้วนะเจ้าคะ ท่านอายุมากกว่าข้า ท่านเป็นพี่ ข้าเป็นน้อง”

ฉีเฟยอวิ๋นกลัดกลุ้ม “ท่านอ๋องตวนกับท่านอ๋องเย่เป็นพี่น้องกัน ข้ากับท่านเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้ แล้วท่านก็อยากจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับข้า ว่ากันตามเหตุผลแล้วข้าเป็นน้องสะใภ้ ท่านเป็นพี่สะใภ้ ตอนนี้ท่านต้องเรียกข้าว่าท่านพี่ ข้าเรียกท่านว่าน้อง ไม่วุ่นวายแย่ละหรือ

ไม่จำเป็นต้องเป็นพี่น้องร่วมสาบาน ความรู้สึกระหว่างท่านกับข้าขอแค่มีความจริงใจให้กันก็พอ”

“นั่นสินะ เช่นนั้นก็ต้องเรียกท่านว่าท่านพี่”

อวิ๋นหลัวฉวนถามต่อ “ที่ท่านพี่ต้องการจะบอกคืออะไรหรือ”

“รองเสนาบดีกรมพิธีการผู้นี้ยังไม่เคยเห็นท่านกับข้า วันนี้เราจะไปดูกัน เขากำเริบเสิบสานขนาดนี้ กล้าจะสร้างเรือนของตัวเองให้เทียบเคียงกับพระราชวังอย่างเอิกเกริกในเมืองหลวง นั่นย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผล รากฐานของเฉาเหวินเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี บริเวณรอบๆ ถนนสายนี้ยังมีจวนอื่นๆ อีก เช่น จวนอาลักษณ์กรมพิธีการ จวนรองเสนาบดีกรมการคลัง ทั้งยังมีจวนของขุนนางน้อยใหญ่ต่างๆ อีก ท่านไม่คิดว่านั่นมีปัญหาอะไรหรอกหรือ” ฉีเฟยอวิ๋นถามอวิ๋นหลัวฉวน อวิ๋นหลัวฉวนมองครู่เดียวก็เข้าใจทันที

“เขาต้องมีภูมิหลังมากมายเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นผู้ที่อยู่รอบๆ ก็ต้องร่วมมือกับเขากระทำชั่ว มิเช่นนั้นเหตุใดจึงไม่มีคนรายงานทางการ ใครบ้างที่ไม่มีคนไม่พอใจ เขาใสสะอาดขนาดนั้นเลยเชียว

ใจคนไม่ซื่อตรงเหมือนสมัยก่อน จวนรอบๆ เห็นจวนของเขาใหญ่และสง่างามที่สุด อิจฉาตาร้อนแล้วเหตุใดจึงไม่ไปรายงานเขาต่อทางการ?” อวิ๋นหลัวฉวนยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ “พวกนี้ใช้ชีวิตพอแล้วจนไม่อยากมีชีวิตแล้วงั้นรึ”

ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าอวิ๋นหลัวฉวนมีคุณสมบัติที่ดีพอที่จะเป็นฮองเฮา แต่อ๋องตวนมีคุณสมบัติเหมาะสมพอจะเป็นมกุฎราชกุมารหรือไม่นั้นไม่มีทางรู้เลย

แต่หวังว่าองค์จักรพรรดิจะให้กำเนิดโอรสธิดาหลายๆ พระองค์

“ท่านพูดถูก แต่ยังมีสิ่งที่บกพร่องอยู่บ้าง ส่วนใหญ่คนพวกนี้มีภูมิหลังที่ดี ไม่ใช่การร่วมกันกระทำชั่วและไม่มีทางที่จวนของเขาจะใหญ่ที่สุดถ้าร่วมมือกัน เห็นหรือไม่ว่าจวนผู้อื่นดูมีสภาพซอมซ่อ

จวนของผู้อื่นมีสภาพทรุดโทรมมากเกินไป โดยเฉพาะจวนของเสมียนฝ่ายกระทรวงขุนนาง ท่านดูจวนเสมียนฝ่ายกระทรวงขุนนางสิ ดูซอมซ่อกว่าเขามาก ไม่ว่าอย่างไรก็มีตำแหน่งสูงกว่าเขา ทั้งยังเป็นคนชราอายุหลายสิบปี”

“เช่นนี้แล้วใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเขารึ” อวิ๋นหลัวฉวนยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ

ฉีเฟยอวิ๋นส่ายหน้า “ใครเล่าจะแน่ใจ ต้องถามก่อนจึงจะรู้ ไปกันเถอะ เราไปถามกัน”

ฉีเฟยอวิ๋นพาอวิ๋นหลัวฉวนไปเดินเล่นและเห็นหญิงชราผมเผ้ารกรุงรังผู้หนึ่งกำลังไอ นางนั่งยองๆ อยู่บนพื้นและกำลังขายหัวไชเท้า

หัวไชเท้ามีสีขาวนวลและดูสะอาดมาก

หญิงชราก็ดูสะอาดสะอ้าน

ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปถาม “แม่เฒ่า สิ่งนี้เอาไปทำอะไรกินได้บ้างหรือ”

“อันนี้น่ะเหรอ ทำได้หลายอย่าง ยาลูกกลอน ซุป เป็นกับข้าวก็ได้ กินทั้งอย่างนี้ก็ได้” หญิงชรายังคงไอไม่หยุด ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า “ท่านไม่สบายหรือ”

“ข้านะรึ โรคทั่วไปนั่นละ นี่จะเข้าฤดูเหมันต์แล้วมิใช่รึ ข้าก็แค่เริ่มไอเท่านั้นละ แต่หัวไชเท้านี่ไม่เป็นอะไรหรอกนะ ข้าทำความสะอาดแล้ว หนึ่งเหรียญหนึ่งหัว เจ้าอยากได้เท่าไรล่ะ”

ฉีเฟยอวิ๋นคลำไปตามตัวและควักเศษเงินจำนวนหนึ่งให้หญิงชรา “ข้าไม่ต้องการหัวไชเท้านี่หรอก ข้ามีเรื่องจะถาม ไม่รู้ว่าท่านพอจะรู้อะไรหรือไม่”

“เรื่องอะไร คนแก่ๆ อย่างข้าแค่ขายผักอยู่ที่นี่ ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก” หญิงชราไม่กล้ารับเงิน

ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองไปที่จวนรองเสนาบดี “เรือนหลังนั้นงามมาก ของใครงั้นหรือ ข้าเห็นข้างหน้าเขียนว่าจวนรองเสนาบดี เป็นจวนของรองเสนาบดีนั่นนะหรือ”

“นี่นะเหรอ แม่นางน้อย เจ้าถามถูกคนแล้ว แค่เห็นพวกแวบเดียวก็รู้แล้วว่าพวกเจ้าเป็นคุณหนูจากตระกูลผู้ดี ปกติคงไม่ออกไปไหน นี่คือจวนรองเสนาบดี แต่ร้ายกาจมากเลยละ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ