องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 526

พระพันปีก็จนปัญญาส่วนไห่กงกงนั้นกล่าวว่า: "ไทเฮา มิเช่นนั้นปล่อยให้ข้าน้อยอุ้มเอาไว้"

พระพันปีทรงเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้างทรงอุ้มมาเป็นเวลาหนึ่งชั่วยามแล้ว

ก็ดี......

กำลังจะกล่าวเจ้าห้าก็ลืมตาขึ้น แววตาของเขาหมองลงจนทำให้ไห่กงกงตกใจจึงถอยออกไปเล็กน้อย

ไห่กงกงตกใจจนรีบกล่าวขึ้นมาว่า: “ข้าน้อยสมควรตาย สมควรตาย เสี่ยวซื่อจื่ออย่าได้กล่าวโทษเลย!”

พระพันปีมองดูหลานชายตัวน้อยและพบว่าเด็กคนนี้เข้าใจทุกอย่างจริงๆ

“อยากให้เสด็จย่าอุ้มเอาไว้ตลอดเวลาหรือ?" พระพันปีทรงถาม

เจ้าห้ามองพระพีนปีแล้วยังคงโกรธอยู่จึงหลับตาลงแล้วพิงอยู่ด้วยลักษณะท่าทีที่ท่านทำให้ข้าไม่พอใจแล้วยังจะส่งข้าให้ผู้อื่นอีก

แต่พระพันปีทรงมองว่าหลานชายตัวน้อยชอบให้พระนางทรงอุ้ม ข้ารับใช้คนอื่นนั้นไม่เข้าตาเขาเอาซะเลย ถึงจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขอยู่แล้ว!

พระพันปีมองดูหลานชายตัวน้อยแล้วก็เกียจคร้านที่จะจากออกไปและอารมณ์ก็ดีขึ้นแล้วจึงอุ้มเจ้าห้าไปมาอยู่ในห้องบรรทม

รวมทั้งทรงตรัสคำพูดที่เป็นการกล่อมเด็ก พระพันปีทรงตรัสถึงเรื่องของตำหนักเฉาเฟิ่ง เจ้าห้าลืมตาขึ้นมองอย่างสนใจ

พระพันปีทรงตรัสอยู่ตรงนั้นเจ้าห้ามองไปที่นั่นอย่างเชื่องช้า พระพันปีทรงเห็นก็ตรัสว่าเด็กคนนี้เฉลียวฉลาดและชมเชยอยู่ตลอด!

เหล่าผู้รับใช้ก็ไม่กล้ากล่าวว่าไม่และก็ชมเชยตามอยู่ตลอด เสี่ยวซื่อจื่อนั้นฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก!

กระทั่งพระพันปีก็ทรงเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง เจ้าห้าดูเหมือนจะรู้ว่าพระพันปีทรงเหน็ดเหนื่อยจึงมองย้อนกลับไปพิงหนานกงเย่อย่างเกียจคร้าน หนานกงเย่เฝ้าสังเกตดูลูกชายอยู่ตลอด นี่เป็นบรรพบุรุษตัวน้อยหากว่าไม่จัดการให้ดีกลับก็ไม่ต้องขึ้นเตียงแล้ว

หนานกงเย่ลุกขึ้นเดินยังตรงหน้าลูกชาย: "เสด็จย่าทรงเหนื่อยแล้ว?"

พระพันปีทอดพระเนตรดูลูกชายแล้วทอดพระเนตรหลานชาย ทรงเหนื่อยมากแล้วจริงๆ

หนานกงเย่อุ้มเจ้าห้ากลับไปเจ้าห้าก็นอนอยู่เช่นนั้น พระพันปีทรงทอดพระเนตรหลานชายคนเล็กและกุมมือของหลานชายคนเล็กเอาไว้: "เจ้าหวู่ เสด็จย่าได้เตรียมของเล่นสนุกมากมายไว้ให้เจ้า เจ้าดูซิว่ามีที่ชอบหรือไม่"

พระพันปีเดินกลับไปหนานกงเย่ก็อุ้มลูกชายคนเล็กเดินไปยังเตียงหงส์แล้ววางลูกชายลง

แม้ว่าร่างกายเจ้าห้าจะอ่อนแต่เขาสามารถนั่งได้

หนานกงเย่นั้นเคยชินซะแล้ว

“เสด็จย่าเตรียมสิ่งของดีๆมากมายไว้ให้เจ้า หากเจ้าไม่รังเกียจก็นำมันกลับไปให้แม่ของเจ้าเช่นไรก็มาแล้วรอบหนึ่ง”

หนานกงเย่กล่าวเช่นนั้นเจ้าห้าก็เริ่มมองไปยังสิ่งของตรงหน้า

ไห่กงกงกล่าวว่า: "ช่างเป็นเด็กวิเศษจริงๆ เสี่ยวซื่อจื่อที่ตัวเล็กเช่นนี้เหตุใดถึงได้รู้เรื่องไปหมดนะ?"

ได้ยินไห่กงกงกล่าวเจ้าห้าก็เงยหน้าขึ้นเหลือบมองไห่กงกงราวกับว่าไม่ชอบที่เขาก่อกวนขึ้น ไห่กงกงรีบปิดปากไม่กล้าที่จะทำให้บรรพบุรุษตัวน้อยโมโห

เจ้าห้ามองย้อนกลับไปร่างน้อยๆเคลื่อนไปข้างหน้าและจับปิ่นสีทองชิ้นหนึ่ง จับไว้แล้วนั่งลงที่เดิม

พระพันปีทรงทอดพระเนตร: "เจ้าช่างมีใจรู้ถึงแม่ของเจ้า เช่นนั้นเสด็จย่าถามเจ้าหน่อยว่าเจ้าเลือกชิ้นหนึ่งในนี้ให้เสด็จย่าหน่อย"

พระพันปีทรงล้อเล่นและก็ไม่ได้จริงจัง

เจ้าห้ากลับใส่ใจ มองไปรอบๆและเห็นตรงทิศหนึ่ง

ไห่กงกงรีบเดินเข้ามาและนำลูกปัดพวงหนึ่งมอบให้เจ้าห้า เจ้าห้าไม่ต้องการและไม่แม้แต่จะมอง

ไห่กงกงนำตลับแป้งชิ้นหนึ่งมา เจ้าหาก็ยังคงไม่ต้องการ

ผ่านไปสามสี่ครั้งไห่กงกงก็เหนื่อยแล้ว คาดเดาไม่ได้จึงต้องขอความเมตตา: “บรรพชนตัวน้อย ข้าน้อยหาไม่เจอ สิ่งของมากมายเช่นนี้หรือไม่ท่านก็หาเอง”

เจ้าห้าเหลือบมองไห่กงกงดูเหมือนว่าจะไม่พอใจกับไห่กงกงที่บอกให้เขาหาด้วยตัวเอง ทำราวกับเขายังเป็นเด็กแล้วเอามาไม่ได้

หนานกงเย่อุ้มลูกชายไปวางไว้ในสถานที่ที่เขามองดู เขาคว้าลูกท้อฝ้ายให้กับพระพันปี

พระพันปีมองดูลูกท้อฝ้ายในมือแล้วทรงยิ้มไม่หุบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ