องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 543

ฉีเฟยอวิ๋นและหนานกงเย่ถูกขวางอยู่หน้าประตูวัง เสี่ยวสวีจื่อรุดหน้าขึ้นมาพร้อมกับพระราชโองการ คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการออกคำสั่งให้หนานกงเย่เข้าเฝ้า ณ ตำหนักบำรุงหฤทัย

หนานกงเย่ไม่ยอมรับพระราชโองการ เสี่ยวสวีจื่อจึงได้คุกเข่าลง

ฉีเฟยอวิ๋นจึงทำได้แค่ต้องรับพระราชโองการนั้น ทั้งสองคนจึงแยกจากกัน

เมื่อมาถึงประตูตำหนักเย็น ฉีเฟยอวิ๋นเอ่ยถามขันทีน้อยที่ตามอยู่ด้านหลัง : “สองวันนี้เต๋อเฟยดีขึ้นบ้างหรือไม่?”

ขันทีน้อยมองหน้ามองหลัง จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูของฉีเฟยอวิ๋นด้วยเสียงเบา ๆ ว่า : “เต๋อเฟยดีขึ้นบ้างแล้วพ่ะย่ะค่ะ สองวันนี้ฝ่าบาทเสด็จมาเยี่ยมเยียนทุกวัน ซึ่งเต๋อเฟยก็ไม่ได้ปฏิเสธ ยังคงปฏิบัติตัวปกติเฉกเช่นเดิม แต่ฝ่าบาททรงพระราชทานรางวัลให้มากมาย ทั้งหมดถูกส่งมายังตำหนักหรงเต๋อแล้ว เพียงแต่เต๋อเฟยไม่อยากออกจากตำหนักเย็น พระราชโองการก็รับไปแล้ว แต่นางไม่ยอมออกมาพ่ะย่ะค่ะ”

ฉีเฟยอวิ๋นพยักหน้า รู้สึกลำบากใจอยู่ภายใน มู่เหมียนก็ยังอ่อนเยาว์ แต่ดันหาผู้ชายที่โตกว่าเสด็จพ่อของนาง แล้วจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไร?

ครั้นมาถึงภายในตำหนักเย็น ฉีเฟยอวิ๋นก็เดินเข้าไปและเห็นมู่เหมียนกำลังเหม่อลอย เมื่อได้ยินมามีคนมามู่เหมียนจึงมองไปยังฉีเฟยอวิ๋นด้านนั้น จากนั้นก็เลิกคิ้วสูงเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สนใจนาง

ฉีเฟยอวิ๋นเหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก นี่มันบ่งบอกได้หลายความหมายเชียวนะ ให้นางมา แล้วนางยังต้องมาเจอกับการแสดงออกเช่นนี้อีก

นางเป็นถึงหวงกุ้ยเฟย ช่างเถอะ ไม่อยากทะเลาะ

ฉีเฟยอวิ๋นเดินมาถึงข้างกายของมู่เหมียน ย่อกายเล็กน้อย : “หม่อมฉันน้อมทักทายเต๋อเฟยเพคะ”

มู่เหมียนเงยหน้าขึ้น มองพิจารณาฉีเฟยอวิ๋นอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะกล่าวถามว่า : “เห็นข้าแล้วอึดอัดมากหรือ?”

“.......” ฉีเฟยอวิ๋นไม่รู้ว่าควรจะกล่าวสิ่งใดออกไป ตกลงผู้ใดกันแน่ที่ควรจะอึดอัด

“หม่อมฉันไม่ได้อึดอัด ที่มาก็เพราะเป็นห่วงกลัวว่าเต๋อเฟยจะอึดอัดเพคะ”

ทั้งสองคนถามคำตอบคำ ขันทีน้อยเองก็เหงื่อออกเต็มใบหน้า เห็น ๆ อยู่ว่าทั้งสองคนก็เคยดีต่อกัน บัดนี้กลับเหมือนจะเข่นฆ่ากันและกัน เหมือนกับศัตรูที่อิจฉาตาร้อนเมื่อพบเจอกัน

ในเมื่อมู่เหมียนไม่มีเหตุผล ฉีเฟยอวิ๋นจึงทำได้แค่ไม่พูดสิ่งใด แต่สุดท้ายนางก็เอ่ยขึ้นว่า : “หม่อมฉันผิดไปแล้ว พอใจแล้วใช่หรือไม่?”

มู่เหมียนแสดงสีหน้าเคร่งขรึม จากนั้นก็มองไปทางคนรอบตัวแวบหนึ่ง : “ออกไป”

ทุกคนจึงพากันถอยออกไป ฉีเฟยอวิ๋นเองก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป นั่งลงข้าง ๆ จากนั้นก็ดึงมือจองมู่เหมียนไป จับข้อมือเพื่อตรวจวัดชีพจรของนาง

มู่เหมียนแค่อ่อนเพลียเท่านั้น อย่างอื่นไม่มีสิ่งใดต้องเป็นกังวล

“ดูท่าทางพิษคงจะจางลงมากแล้ว”

ฉีเฟยอวิ๋นตั้งใจเตรียมยาบำรุงมาให้มู่เหมียน นางวางลงตรงหน้าของมู่เหมียน แต่มู่เหมียนได้แต่มองไม่ยอมขยับแต่อย่างใด

“ไม่สบายหรือเพคะ?” ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวถาม ครานี้มีความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย

มู่เหมียนหลุบตามองต่ำ : “ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนี่ก็แค่ปรับตัวไม่ได้ จู่ ๆ ก็มาดีกับข้าเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการให้ร่างกายของข้าดีขึ้นเท่านั้น”

ฉีเฟยอวิ๋นเองก็จนปัญญา : “ท่านนึกถึงใจฝ่าบาทบ้างเถอะเพคะ?”

“หากเขาให้ข้า บางทีข้าก็อาจจะนึกถึงใจเขาบ้าง แต่ตอนนี้ก็ไม่เห็นจะทำสิ่งใด....” มู่เหมียนหน้าแดงเล็กน้อย : “เจ้าไม่ต้องมาสนใจหรอก”

ฉีเฟยอวิ๋นแปลกใจ : “ท่านไม่ชมชอบฝ่าบาทหรือเพคะ?”

มู่เหมียนมองออกไป กลอกตาที่ดูหมิ่นไปทางฉีเฟยอวิ๋น : “เขาเป็นถึงองค์จักรพรรดิแล้วอย่างไร? หรือเขาไม่ใช่พระสวามีของข้า ข้าชมชอบเขาไม่ใช่เรื่องปกติหรือ ข้าไม่ชมชอบเขานั่นสิถึงจะแปลก”

“ก็จริงอยู่ เพียงแต่....”

ฉีเฟยอวิ๋นไม่เข้าใจเล็กน้อย นี่คงไม่ได้ต้องการปั่นป่วนหรอกกระมัง?

มู่เหมียนค่อย ๆ ปรายตามองฉีเฟยอวิ๋นด้วยสายตาเหยียดหยาม : “เรื่องอายุเขาสู้ท่านอ๋องเย่ไม่ได้ แต่ร่างกายขอเขาก็ยังถือว่าไม่แย่ หากข้าต้องอยู่ในวังอย่างที่เจ้าพูด แล้วข้าจะยังออกไปได้อีกหรือ ในเมื่อออกไม่ได้ เช่นนั้นไม่สู้แก่ตายในวังดีกว่า”

“มู่เหมียน....หรือว่าท่านชมชอบฝ่าบาทจริง ๆ ?” ฉีเฟยอวิ๋นก็ยังคงไม่เข้าใจ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่

“ฝ่าบาทเสด็จ” ในขณะที่กำลังจะเอ่ย เสี่ยวสวีจื่อก็ตะโกนขึ้น ฉีเฟยอวิ๋นรีบลุกขึ้นยืนทันที

มู่เหมียนยังคงเอนกายพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้านต่อไป ไม่ขยับไปไหน ฉีเฟยอวิ๋นมองออกไป มู่เหมียนไม่เพียงแต่จะไม่ลุกขึ้นทำความเคารพแล้ว ตรงกันข้ามยังหยิบพุทราลูกหนึ่งขึ้นมากินอย่างสบายใจอีกด้วย

จักรพรรดิอวี้ตี้เดินเข้ามา ตามมาด้วยหนานกงเย่ ฉีเฟยอวิ๋นรีบคุกเข่าทำความเคารพทันที : “น้อมทักทายฝ่าบาทเพคะ”

จักรพรรดิอวี้ตี้กล่าวอย่างเรียบเฉย : “ลุกขึ้นเถิด”

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวขอบพระคุณจากนั้นก็ลุกขึ้น จักรพรรดิอวี้ตี้มองไปทางมู่เหมียนพลางกล่าวถามว่า : “ดีขึ้นบ้างหรือไม่?”

“อื้อ” มู่เหมียนตอบสั้น ๆ จักรพรรดิอวี้ตี้เดินเข้าไป นั่งลงจากนั้นก็วางมือลงบนมือของมู่เหมียน มู่เหมียนผลักเล็กน้อย จากนั้นก็กินพุทราต่อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ