องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 562

“ข้าบอกเมื่อไหร่ว่าจะให้ลูกสาวของเจ้าแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรี?” พระพักตร์ขององค์จักรพรรดิอวี้ตี้ย่ำแย่ยิ่งนัก

“หากฝ่าบาททรงรับปากกับกระหม่อมว่าต่อไปภายภาคหน้าฝ่าบาททรงมีพระธิดาจะทรงให้พระธิดาไปอภิเษกเชื่อมสัมพันธไมตรีแต่ไม่ใช่บุตรีของชินอ๋องจวิ้นอ๋องไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ กระหม่อมก็เต็มใจยินยอมพะย่ะค่ะ”

ประโยคเดียวซึ่งบีบบังคับองค์จักรพรรดิอวี้ตี้ให้ทรงตรัสสิ่งใดไม่ออกและพระพักตร์ก็ซีดเซียว

ต่อหน้าผู้คนในราชสำนักองค์จักรพรรดิอวี้ตี้อยากจะลากหนานกงเย่ออกไปประหารซะ

“ราชครู ท่านหล่ะ?”

ราชครูจวินก้มศีรษะลงเป็นเวลานาน: "ฝ่าบาท ที่อ๋องเย่กังวลนั้นใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลพะย่ะค่ะ"

“ฮึ่ม ดูเหมือนว่าทั้งฝ่ายพลเรือนและการทหารทั่วราชสำนักล้วนเข้าข้างอ๋องเย่”

ราชครูจวินก้มศีรษะ: "กระหม่อมตื่นตระหนกพะย่ะค่ะ"

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองไปยังอ๋องตวน: "อ๋องตวนเจ้าร่วมสนุกสิ่งใดด้วย?"

อ๋องตวนกล่าวว่า: “กราบทูลฝ่าบาท ฉวนเอ๋อร์มีข่าวดีแล้วพะย่ะค่ะ”

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ตกตะลึง

ทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊รวมถึงอันกั๋วกงอาวุโสที่เข้าประชุมขุนนางผู้ยากยิ่งที่จะขอสิ่งใดซึ่งเป็นเวลาเนิ่นนานถึงได้อ้าปากพูด ความรู้สึกนึกคิดนั้นก็ยังวุ่นนัก

ดูไม่ออก เริ่มมีความคิดความอ่านหรือ?

แววตาอันไม่พึงพอใจของฉีกั๋วกงใช้เวลานานกว่าจะหายไป ช่างเถอะ!

เห็นเขาขลาดเขลาแต่ในเรื่องนี้กลับกระตือรือร้นนัก

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงกริ้วและตรัสว่า: "การแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีมีไว้เพื่อมิตรภาพระหว่างสองเมืองไม่ใช่อย่างที่พวกเจ้าคิดเช่นนั้น การแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีใช่ว่าจะเป็นเรื่องเลวร้าย ในสมัยโบราณมีหญิงสาวที่แต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีจำนวนมากที่มีความสุข"

“ขุนนางประวัติศาสตร์จะเขียนประวัติศาสตร์ตามพระบัญชาของฝ่าบาทเท่านั้น จะมีสตรีสักกี่คนที่สามารถถูกบันทึกไว้อย่างแท้จริง” หนานกงเย่ยังคงไม่ยอมถอยให้

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงกริ้วและตรัสว่า: "เรื่องระหว่างสองเมืองไม่ใช่เรื่องเล็ก หากว่าสามารถแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีได้ก็เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง ดีกว่าที่ทั้งสองเมืองจะสู้รบกันตลอดทั้งปี"

“หากว่าฝ่าบาททรงยืนหยัดที่จะยินยอมในเรื่องนี้ เช่นนั้นกระหม่อมเลือกชายหนุ่มเยาว์วัยที่พร้อมสมรสของราชวงศ์จากเมืองอู๋โยวเข้าสู่กรมพิธีการเพื่อตรวจสอบ จากนั้นฝ่าบาททรงทอดพระเนตรซะก่อน คัดผู้ถูกเลือกและท้ายที่สุดก็ให้หญิงสาวผู้แต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีเลือก หากหญิงสาวเลือกผู้ที่ชอบพอ คนผู้นี้ต้องเข้าร่วมราชวงศ์เมืองต้าเหลียงเราและแต่งงานเป็นสามีของหญิงสาวเมืองต้าเหลียง การแต่งงานครั้งนี้ถึงจะได้รับอนุญาต!"

“บังอาจ!” องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงกริ้วยิ่งนักและทรงชี้ไปยังหนานกงเย่: “เจ้าต้องการให้ทั้งสองเมืองสู้รบกัน เจ้าต้องการนำภัยพิบัติมาสู่บ้านเมืองและราษฎร!”

หนานกงเย่หยิบฎีกาออกมา: "นี่คือฎีกาของกระหม่อมพะย่ะค่ะ"

"ฎีกาของเจ้าก็คือให้เมืองต้าเหลียงเราเปิดศึก" องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงกริ้วจนจ้องมองตาเขม็ง

หนานกงเย่วางฎีกาลงจากนั้นถอดชุดบนร่างลงมา ปลดมงกุฎสีม่วงทองบนศีรษะ: "กระหม่อมไม่เป็นขุนนางแต่เป็นสามัญชนก็ได้ แต่กระหม่อมไม่อนุญาตให้บุตรสาวแต่งงานไปไกลถึงเมืองอื่นเพื่อเป็นเบี้ยล่าง! อย่าว่าแต่ป่าเถื่อนไม่มีเมตตา แม้ว่าเขาจะมีใจก็ใช่ว่าจะเข้าตากระหม่อมได้

กระหม่อมเป็นบุรุษแต่ไม่สามารถปกป้องภรรยาและลูกเอาไว้ได้

กระหม่อมกำเนิดมาก็เพื่อบ้านเมืองและราษฎร แต่ว่าแม้แต่สตรีก็ปกป้องไม่ได้แล้วจะเพื่อบ้านเมืองและราษฎรได้เช่นไร?

กระหม่อมทูลลา! "

หนานกงเย่ลุกขึ้นและจากไป องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงไม่รอให้เขาเดินไปถึงหน้าประตูก็ทรงตรัสอย่างโกรธเคือง: "พวกเจ้า อ๋องเย่ลบหลู่เบื้องสูงโบยห้าสิบที"

หนานกงเย่หันกลับมาเหลือบมองยังองค์จักรพรรดิอวี้ตี้แล้วถูกคนลากไปโบยอยู่ฝั่งหนึ่งสักพัก

“อ๋องตวน เจ้าหล่ะ? ยังคงยืนหยัด!”

องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ทรงถามอย่างโกรธเคือง อ๋องตวนก็ปลดชุดออกแม้ว่าจะอกสั่นขวัญแขวนอยู่บ้าง เช่นไรก็ถูกกระดานโบยผู้ใดยอมถูกโบยหล่ะ?

อ๋องตวนวางมงกุฏสีม่วงทองลงจากนั้นลุกขึ้นเดินไปยังด้านข้างของอ๋องเย่แล้วนอนคว่ำอยู่บนเก้าอี้เพื่อรอคนมาโบย!

“ดี พวกเจ้าลงโทษโบยอ๋องตวนหนึ่งร้อยที!”

โบยท่านอ๋องทั้งสองคนแล้ว องค์จักรพรรดิอวี้ตี้มองผู้คนบนพื้นแล้วทรงถามว่า: “ยังมีผู้ใดอีก?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ