หนานกงเย่หมุนตัวเข้าไปนั่งในรถม้า ทันทีที่เขาเข้าไป ก็มีคนยกม่านของรถม้าขึ้น หนานกงเย่คิดว่าเป็นหวังฮวายอันหันกลับมาและวางแผนที่จะผลักออกไป แต่มือของเขาเกือบจะจับหน้าอกของ หวาชิงเข้าให้ เลยรีบชักดึงมือมาไว้ข้างหลัง เขาตกใจจนรีบมองฉีเฟยอวิ๋น แล้วรีบไปนั่งข้างกายเธอ เขาตกใจจนใจเต้นรัว
หวาชิงเหลือบมองทางด้านของฉีเฟยอวิ๋น มองพิจารณาอย่างละเอียดแล้วเดินไปข้างหน้าฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นนั่งลงข้างกายของฉีเฟยอวิ๋นเสียเลย
อาอวี่อยู่ด้านนอกกล่าวด้วยสีหน้ารีบร้อนว่า“ท่านอ๋อง!”
“กลับจวน!”ไม่รอหนานกงเย่กล่าวอะไร ฉีเฟยอวิ๋นนั้นได้กล่าวมาก่อนแล้ว
หวาชิงชะงักงัน หนานกงเย่เอื้อมมือไปกอบกุมมือของฉีเฟยอวิ๋น เธอโมโหเขาอย่างมาก
หากไม่แต่งกายปลอมเป็นชายออกมา ก็ไม่ถูกสงสัยแล้ว
หนานกงเย่จงใจทำนิ่งเฉย กอบกุมมือของฉีเฟยอวิ๋นไว้ไม่มองไปที่หวาชิง อาอวี่นั่งบนรถม้าแล้วรีบกลับไปยังจวน
หวาชิงเอื้อมมือสัมผัสใบหน้าของฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นไม่สนใจ แต่หนานกงเย่ไม่เมินเฉย
“แม่ทัพน้อย เอามือของเจ้าออกด้วย”
หวาชิงคล้ายดั่งไม่ได้ยิน ดวงตาของนางแดงก่ำแล้ว
หวาชิงเอื้อมมือไปดึงหน้ากากของฉีเฟยอวิ๋น หนานกงเย่รีบดึงฉีเฟยอวิ๋นไป สบตามองด้วยความโกรธ
หวาชิงเบนหน้าหนี และไม่ดึงดันอีกต่อไปแล้ว
บรรยากาศภายในรถม้าเกรี้ยวกราดดุดัน หนานกงเย่โอบฉีเฟยอวิ๋นไว้ในอ้อมกอด หวาชิงจ้องมองหนานกงเย่ด้วยสายตาเย็นชา
รถม้าถึงจวนฉีเฟยอวิ๋นเตรียมตัวลุกขึ้นจะลง และมีหวาชิงตามลงมาด้วย
หนานกงเย่กลับกลายเป็นคนสุดท้ายที่ลงรถม้า
ทั้งสามคนเข้าไป หวาชิงกล่าวว่า“จะเข้าไปดูใครหรือ?”
ฉีเฟยอวิ๋นได้ยินหวาชิงกล่าวพูดปกติ แต่กลับยิ่งรู้สึกว่าไม่ปกติแล้ว
“ต้ากั๋วจิ้ว”
“เหตุใดถึงต้องแต่งตัวปลอมแปลงเป็นชายในร่างหญิงด้วย ท่านไม่ใช่บอกว่าเป็นพระชายาเย่ ไม่สามารถสวมแต่งเป็นชายหรือ?”
“ไม่ได้ช่วยพวกเขา ไม่มีหน้าที่จะพบพวกเขา”
ทั้งสองฝ่ายคุยกันแล้วเดินเข้าไป หนานกงเย่กำลังเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดใจ
กลับมาถึงสวนดอกกล้วยไม้ฉีเฟยอวิ๋นได้เปลี่ยนชุด หวาชิงเดินมาถึงด้านนอกห้อง ก็ได้รออยู่ด้านนอกห้องของฉีเฟยอวิ๋น หนานกงเย่ยืนเอามือไขว้หลังอยู่ในเรือน
ฉีเฟยอวิ๋นเปลี่ยนชุดออกมา หวาชิงเดินไปกล่าวว่า“ไม่กี่วันมานี้หวาชิงนอนไม่หลับ ช่วยดูให้ที”
หวาชิงจูงฉีเฟยอวิ๋นเล็กน้อย ฉีเฟยอวิ๋นเดินตามมาอยู่ด้านหน้าเก้าอี้ ทั้งสองนั่งลงหวาชิงยื่นมือวางบนโตหิน รอฉีเฟยอวิ๋น
ฉีเฟยอวิ๋นยกมือจับแมะที่ข้อมือของหวาชิง และหลุบตาลง
หวาชิงจ้องมองดวงตาของฉีเฟยอวิ๋น จ้องมองเธอตลอด
หนานกงเย่ที่ยืนอยู่อีกด้านคล้ายดั่งว่ากลืนแมลงวันตายแล้ว
ผู้หญิงล้วนไม่ปล่อยผ่าน เขาจะไปชนตาย!
“ไม่เป็นไร ”ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นไปที่เรือนจวินจื่อ เตรียมตัวที่จะไปดูลูกๆ หวาชิงจึงตามไปด้วย
หนานกงเย่กล่าวว่า“แม่ทัพน้อย เรือนจวินจื่อเป็นที่พักอาศัยของเจ้าห้า เจ้าห้าไม่ชอบแม่ทัพน้อย แม่ทัพน้อยไม่ต้องไปหรอก”
หวาชิงทำเป็นคล้ายดั่งไม่ได้ยิน แล้วตามฉีเฟยอวิ๋นไปที่เรือนจวินจื่อ
อวิ๋นจิ่นเห็นฉีเฟยอวิ๋นจึงได้โค้งเอวคารวะ กล่าวว่า“นายท่าน”
“อืม ไม่กี่วันมานี้ลำบากแล้ว”
“นายท่านสบายดีก็ดีแล้วเพคะ ไม่กี่วันมานี้ท่านแม่ทัพฉีก็นอนหลับได้ไม่ดี ไปดูเถิดเพคะ”
“อือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ