เฟิ่งหลิงอวิ๋นนอนตื่นก็เป็นช่วงดึกดื่นแล้ว เงยหน้าขึ้นมองเห็นหนานกงเย่กำลังจับจ้องมองดวงตาคู่นั้นของเธออยู่ เธอเลิ่กลั่กลุกขึ้นนั่งทันที
หนานกงเย่กอบกุมมือของเธอและนวดคลึงอย่างแผ่วเบา จากนั้นกล่าวขึ้นว่า“อวิ๋นอวิ๋น เคยคิดถึงข้าหรือไม่?”
“ท่านอ๋องคิดว่าอย่างไรเพคะ?”ฉีเฟยอวิ๋นยิ้มเล็กน้อย ลุกขึ้นต้องการจะออกไป แต่กลับถูกหนานกงเย่ดึงกลับ ฉีเฟยอวิ๋นหันมองหนานกงเย่ และกล่าวขึ้นว่า“ ท่านอ๋องทำตัวไม่ถูกเพราะว่าร่างกายนี้บ้างหรือไม่เพคะ?”
หนานกงเย่กล่าวว่า“ข้าไม่สนใจใส่ใจหรอกนะ”
“พูดเลอะเทอะ หากว่าเป็นคุณยายแก่ๆล่ะเพคะ? แก่เจ็ดสิบแปดสิบล่ะ?ท่านอ๋องลงมือได้หรือ?”เฟิ่งหลิงอวิ๋นพลิกตัวขึ้นบนตัวของหนานกงเย่ เธอคล้ายดั่งเด็กน้อย แต่หนานกงเย่ก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่คิดอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว หากเป็นอย่างนั้น ทำไม่ลงหรอก
แต่กอดเธอแล้วรู้สึกสบายมาก!
หนานกงเย่นวดคลึงมือของเฟิ่งหลิงอวิ๋น แล้วกล่าวว่า“ข้าคิดว่าข้าทำไม่ลง แต่ข้าสามารถรอวันที่จะอยู่ร่วมกันกับอวิ๋นอวิ๋นได้ เมื่อเทียบระหว่างเรื่องบนเตียง ข้าต้องการอวิ๋นอวิ๋นอยู่เป็นสหายร่วมกันมากกว่า ไม่ว่าจะแก่หรือเด็ก”
เฟิ่งหลิงอวิ๋นยิ้มเล็กน้อย กล่าวขึ้นว่า“ทุกคืนพระจันทร์เต็มดวงหม่อมฉันจะกลายเป็นคนแก่เพคะ ผมขาวหงอก ใบหน้ามีริ้วรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่ทว่าความสูงไม่เปลี่ยน หม่อมฉันไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะอย่างไร แต่นั่นมันน่ากลัวมากเพคะ!”
หนานกงเย่ชะงักงัน กล่าวว่า“อะไรนะ?”
เฟิ่งหลิงอวิ๋นกล่าวด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มว่า“เรื่องนี้มีเพียงเอ๋าชิงรู้เพคะ”
“ข้าไม่เข้าใจ!”
เฟิ่งหลิงอวิ๋นหมุนตัว กล่าวว่า“ไม่รู้ว่าตอนที่มาเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ประสบพบพานสิ่งใด แต่เป็นอย่างนี้แล้วจริงๆ”
หนานกงเย่ส่ายหน้า กล่าวว่า“อย่างไรมันต้องมีหนทาง”
“ไม่มีเพคะ”เฟิ่งหลิงอวิ๋นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวอีกว่า“เหลืออีกสองวันก็จะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงแล้ว พอถึงเวลานั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นหม่อมฉันเลยอยากจะไปเร็วสักหน่อยเพคะ”
หนานกงเย่รีบดึงฉีเฟยอวิ๋น กล่าวขึ้นว่า“ไม่ได้ ข้าไม่ยอม”
เฟิ่งหลิงอวิ๋นมองเขา แล้วกล่าวว่า“หากไม่ไป ท่านอ๋องก็จะเห็นหม่อมฉันที่เป็นเช่นนี้”
“ข้าไม่กลัว”
“......”เฟิ่งหลิงอวิ๋นไม่อยากพูด เลยหันไปมองด้านนอกรถม้า จากนั้นจึงลุกออกไปจากรถม้า เหลือบมองบนรถม้าแล้วลงไป
หนานกงเย่ออกมาจากด้านในรถม้า เขารีบโค้งเอวอุ้มฉีเฟยอวิ๋นขึ้น สาวเท้าก้าวไปที่จวนท่านอุปราช
เขาพาเฟิ่งหลิงอวิ๋นเข้ามาในห้อง จากนั้นวางลงแล้วถามขึ้นว่า“สามารถอาบน้ำด้วยกันได้หรือไม่?”
เฟิ่งหลิงอวิ๋นกล่าวด้วยสีหน้าแดงก่ำว่า“ท่านอ๋องอาบน้ำกับเสี่ยวอวิ๋นหรือเพคะ?”
“เลอะเทอะ อวิ๋นเอ๋อร์คือลูกของข้า จะอาบน้ำด้วยกันได้อย่างไร?”หนานกงเย่โมโหจนหน้าแดงก่ำ แต่ทว่าเฟิ่งหลิงอวิ๋นกลับหันไปมองทางสระกำมะถัน นึกถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย
หนานกงเย่อ้าปากค้างเก้ๆกังๆกล่าวว่า“ข้าเพียงแค่อยากอาบน้ำ ไม่ได้คิดอยากทำสิ่งใดเลย”
เฟิ่งหลิงอวิ๋นหันกลับมามองหนานกงเย่ แล้วถามว่า“แน่ใจนะเพคะ?”
“แน่ใจ!”หนานกงเย่หายใจติดขัด ฉีเฟยอวิ๋นคิดๆแล้ว กล่าวว่า
“หากหม่อมฉันเปลี่ยนกลายเป็นคนแก่ ท่านอ๋องจะต้องเสียใจภายหลัง”
“ไม่มีทาง!”
เฟิ่งหลิงอวิ๋นพยักหน้ากล่าวว่า“เช่นนั้นไปเถิดเพคะ”
เฟิ่งหลิงอวิ๋นผลักประตู หนานกงเย่ยืนอยู่สักพักหนึ่งแล้วสาวเท้าก้าวเข้าไป
ตอนที่เขาเข้าไป เฟิ่งหลิงอวิ๋นได้ถอดชุดที่อยู่บนเรือนร่างออกแล้ว เธอเดินลงไปในน้ำโดยที่ไม่ได้หันกลับมา
หนานกงเย่ถอดชุดออกแล้วตามลงไป
เฟิ่งหลิงอวิ๋นเดินลงไปด้านในแล้วหันกลับมามองหนานกงเย่ หนานกงเย่ยืนอยู่ทางด้านนั้น
“ข้า.....”
“ท่านอ๋อง พวกเราอยู่อย่างนี้กันสักครู่เถิดนะเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ