"เขาสู้ข้าไม่ได้ ข้าจู่โจมจนเขากระอักเลือด เขาลุกขึ้นด้วยสภาพที่ย่ำแย่และกล่าวกับข้าว่า เขาไม่เต็มใจ หากไม่ได้อยู่ด้วยกันกับอวิ๋นอวิ๋น ไม่ได้แต่งอวิ๋นอวิ๋นเป็นภรรยา เขาจะทำให้โลหิตหลั่งทั่วใต้หล้า จะให้ข้าตายต่างแดน เขายังบอกว่า ความแค้นที่แย่งชิงเมียจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ต้องมีสักวันที่เขาจะนำบุรุษทั่วใต้หล้ามาเหยียบย่ำพระราชวังแห่งแคว้นต้าเหลียง"
เฟิ่งหลิงอวิ๋นรู้สึกสับสน "แล้วต่อมาเล่า?"
"เขาลั่นวาจาเช่นนั้น เสด็จแม่จะปล่อยเขาได้อย่างไร เขาไม่ใช่เด็กอมมือที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ง เสด็จแม่สั่งคนเฆี่ยนเขา จากนั้นก็โยนออกนอกพระราชวัง เขาลากสังขารกลับจวนอ๋อง ตอนข้าไปเยี่ยมก็ไม่เห็นพูดกระไร แต่ต่อมาไม่นานก็ตายด้วยโรคภัย"
"......" เฟิ่งหลิงอวิ๋นนิ่งเงียบ
ครั้งนี้เจอคู่บาดหมางกับอีกหนแล้ว
เฟิ่งหลิงอวิ๋นลุกขึ้น "แสดงว่าท่านอ๋องต้องการสนับสนุนเขาให้เติบโต?"
"เขามาเกิดใหม่ เห็นทีคงจะเป็นโชคชะตา ชาติก่อนข้าขัดขวางชีวิตคู่ของเขา ตอนนี้เขามาแล้ว หากข้าขัดขวางอีก เขาต้องเกลียดชังข้าเข้ากระดูกเป็นแน่ หากสาปแช่งข้า เช่นนั้นไม่ถือว่าข้าซวยหรอกหรือ?
จะเป็นโชคหรือภัยต่อข้าก็ต้องดูความสามารถของเขา ข้ายุ่งไม่ได้
แต่บุตรสาวของข้าต้องแต่งกับคนที่ข้าพอใจ หากเขาไม่มีความสามารถ เช่นนั้นก็ไม่ใช่ความผิดของข้า ทางที่ดีควรมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขา ทำให้เขาตรอมใจตาย เช่นนั้นข้าก็ไม่ติดค้างเขาแล้ว"
เฟิ่งหลิงอวิ๋นรู้สึกเลื่อมใส ช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายเสียจริง
หนานกงเย่ลุกขึ้นไปดูบุตรสาวที่เตียง จากนั้นก็ดึงเฟิ่งหลิงอวิ๋นมานอนด้วย
เช้าวันถัดมา เฟิ่งหลิงอวิ๋นเห็นเอ๋าชิงยืนอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นอีกฝ่าย เฟิ่งหลิงอวิ๋นจึงนึกถึงเรื่องอวิ๋นเลี่ยขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปหาอีกฝ่าย
"อาการอวิ๋นเลี่ยดีขึ้นหรือยัง?"
เอ๋าชิงส่ายหัว "ไม่ดีพ่ะย่ะค่ะ เขาไม่หลับทั้งคืน หมอหลวงกำลังตรวจอาการเขาอยู่ เชิญรัชทายาทไปดูหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ"
เฟิ่งหลิงอวิ๋นหันไปมองสองพ่อลูกผู้ไร้จิตใจที่พึ่งตื่นมา ก่อนจะหันหน้าตามไป
เมื่อถึงห้องนอนของเอ๋าชิง เฟิ่งหลิงอวิ๋นก็ไปดูอวิ๋นเลี่ย ข้างกายอวิ๋นเลี่ยมีสิบกว่าคน ลำพังหมอหลวงก็หกเจ็ดคนแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นข้ารับใช้ที่ปรนนิบัติพัดวีเขา เขาเห็นเฟิ่งหลิงอวิ๋นจึงกล่าวว่า "รัชทายาท"
"ให้ข้าดูหน่อย" เฟิ่งหลิงอวิ๋นนั่งลงตรวจอาการของอวิ๋นเลี่ย เขากล่าวว่า "ถอยไปเถอะ"
เมื่อทุกคนถอยกันไปหมดแล้ว เฟิ่งหลิงอวิ๋นจึงกล่าวว่า "ข้าจะชี้นำให้เจ้า หากเจ้าหาเขาพบ ร่างกายเจ้าอาจจะฟื้นฟูได้"
อวิ๋นเลี่ยมีชีวิตชีวาทันควัน "เชิญรัชทายาทรับสั่ง"
"หนานกงเย่มีบุตรชายหกคน บุตรบุญธรรมอีกหนึ่งคน บุตรชายคนที่ห้าของเขาชื่อเจ้าห้า มีพรสวรรค์ล้ำเลิศและมีพลังเทพด้วย ข้าจะเขียนจดหมายให้เจ้าหนึ่งฉบับ หากเจ้าได้เจอเขาภายในสามวัน การฟื้นฟูร่างกายเจ้าก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เมื่อเจอหน้าเขาก็มอบจดหมายของข้าให้เขา เขาจะช่วยเจ้าเอง แต่หากไม่เจอเขา เจ้าก็ต้องตายอยู่ด้านนอก
เจ้าจะไปหรือไม่ก็ตัดสินเองเถอะ ข้าจะเขียนจดหมายให้เจ้า"
เฟิ่งหลิงอวิ๋นลุกขึ้นไปอีกทาง จากนั้นก็หยิบพู่กันกระดาษมาเขียนหนึ่งคำ ก่อนจะมอบให้อวิ๋นเลี่ย อีกฝ่ายดูปราดหนึ่งแล้วก็เอ่ยว่า "ไม่มีกระไรเลยนี่"
"เจ้าไปถึง เขาก็จะรู้เองว่าข้าให้เจ้าไป เขาอยากเขียนถึงเขา แต่นึกได้ว่าไม่เขียนจะดีกว่า ข้าจึงไม่ได้เขียน"
เฟิ่งหลิงอวิ๋นกล่าวจบก็มองไปยังเอ๋าชิง "ข้ารู้ว่าอวิ๋นเลี่ยสำคัญต่อท่านมาก หนานกงเย่ก็ไม่อยากให้เขาตาย หากท่านยังเชื่อใจข้าก็พาเขาไปที่แคว้นต้าเหลียงเถอะ เวลานี้เจ้าห้าคงรับรู้เจตนาของข้าแล้ว"
"ท่านอ๋องก็ควรกลับไปได้แล้ว"
"อืม"
เดิมทีหนานกงเย่ก็ไม่คิดจะอยู่นาน เขาแค่แวะมาดูเท่านั้น
เหตุใดการคิดถึงพวกนางมากจนเกินไป หนานกงเย่จึงห้ามใจตัวเองไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ