ราชวงศ์ต้าเหยียน ชานเมืองหลงเฉิง เขาต้าอวี่
“ตายซะ!”
เสียงคำรามดังกึกก้อง ดาบคมกริบที่มีแสงเย็นเฉียบแทงเข้าหาหัวใจของฉินซูเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า
“คุ้มกันองค์รัชทายาท!”
ราชองครักษ์หลายนายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉินซูตะโกนลั่นด้วยความโกรธ พลางชักดาบขึ้นสู้
ในขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน ฉินซูมีแววตาเลื่อนลอย
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น?‘
‘เมื่อกี้ข้ายังอยู่กับเทพีสงครามผู้งดงามในห้องอยู่เลยมิใช่หรือ?’
‘ไฉนจู่ ๆ ข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?‘
ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดศีรษะแปลบ ความทรงจำที่มิใช่ของตัวเองไหลเข้ามาในสมองราวกับน้ำป่าไหลหลาก!
ราชวงศ์ต้าเหยียน... รัชทายาท…
‘(สะอึก!) นี่ข้าข้ามมิติมาแถมยังกลายเป็นองค์รัชทายาทของราชวงศ์ต้าเหยียนไปแล้วจริง ๆ หรือนี่!‘
ฉินซูตื่นตัวอย่างรวดเร็ว
มิคิดมิฝันว่าการข้ามมิติที่เคยอ่านในนิยายจะเกิดขึ้นจริงกับตัวเอง
ในขณะที่เขากำลังประหลาดใจ เหล่าราชองครักษ์ก็ถูกมือสังหารฟันลงไปกองกับพื้น
(เสียงชักดาบออกมาพร้อมกัน)
มือสังหารสวมหน้ากากเจ็ดหรือแปดคนถือดาบล้อมรอบเขาไว้
หนึ่งในนั้นตะโกนอย่างเย็นชา “ฉินซู ถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังมิยอมฆ่าตัวตายอีก รอหาอะไรเล่า?”
“ฆ่าตัวตายรึ? ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ฉินซูเงยหน้ามองฟ้าหัวเราะลั่น หลังจากหัวเราะอยู่นานเขาก็พูดต่อน้ำเสียงเย้ยหยัน “เศษสวะอย่างพวกเจ้าคิดจะให้ข้าฆ่าตัวตายเช่นนั้นรึ? ใครให้พวกเจ้ากล้าพูดเช่นนี้กันเหลียงจิ้งหรูรึ?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนก็มองหน้ากันด้วยความงุนงน
“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อครู่ฉินซูยังกลัวจนขาแข้งอ่อนอยู่เลยมิใช่รึ เหตุใดตอนนี้ถึงกล้าถึงเพียงนี้กัน?”
“ข้าก็มิรู้ แต่ในเมื่อองครักษ์ของเขาถูกเราฆ่าไปหมดแล้ว ตอนนี้เราถือดาบ เขามีแต่ตัว อย่างไรวันนี้เขาก็ต้องตาย”
“เขาคงคิดจะถ่วงเวลา เมื่อครู่ที่พูดถึงเหลียงจิ้งหรูอะไรนั่น อาจจะเป็นยอดฝีมือที่เขาแอบฝึกฝนไว้ก็ได้ อย่ามัวพูดมาก รีบเข้าไปจัดการเขาเถอะ!”
มือสังหารเหล่านั้นมองฉินซูอย่างดุดัน แกว่งดาบคมกริบในมือแล้วพุ่งเข้าหาฉินซู
ฉินซูส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา กวัดแกว่งมือออกมาตบพวกเขาหลายครั้ง
ฝ่ามืออันรวดเร็วและรุนแรงนั้นตัดผ่านความว่างเปล่าไป
ทันทีหลังจากนั้น…
“ตุ้บ”
“ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ!”
เสียงล้มลงดังขึ้นอึกทึก ร่างของชายชุดดำเจ็ดคนกลายเป็นละอองเลือด แตกสลายไปในอากาศในทันใด!
ชายชุดดำคนสุดท้ายเห็นสิ่งนี้ก็ยืนตกตะลึงอยู่กับที่ราวกับถูกฟ้าผ่า!
เพียงมิกี่ฝ่ามือก็ทำให้คนทั้งคนกลายเป็นละอองเลือดได้ นี่มันวิชาเทพเซียนอะไรกัน?!
เขาตกตะลึง ดาบในมือร่วงหล่นลงกับพื้นเสียงดัง “เคร้ง”
ฉินซูเหลือบมองเขาแล้วถามอย่างเย็นชา “บอกมา ใครส่งเจ้ามาฆ่าข้า?”
“ตึก ๆ!” (เสียงหัวใจเต้น)
ชายชุดดำรีบคุกเข่าลงบนพื้นและร่างกายสั่นระริก “กราบ… กราบทูลองค์รัชทายาท… เป็น… เป็นท่านอ๋องซิ่น..."
ฉินซูหรี่ตาลงพร้อมกับยิ้มมุมปาก “เจ้าสี่รึ? ฮ่า ๆ เช่นนั้นตัวข้าจะเล่นกับเจ้าเอง!”
ชายชุดดำสับสนอย่างสิ้นเชิงในเวลานี้
วัน ๆ องค์รัชทายาทฉินซูเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับสุรานารี ร่างกายอ่อนแอ แม้แต่แรงจะจับไก่ก็ไม่มีเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น ในวังยังเล่าลือกันมานานแล้วว่า ฝ่าบาทได้ทรงตัดสินพระทัยแล้วว่าจะปลดเขาออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาท และแต่งตั้งองค์รัชทายาทใหม่ในวันชุนเฟิน(1)ปีหน้า
หลังจากที่ฉินซูได้ยินข่าวลือเรื่องนี้ก็ยิ่งท้อแท้ในตัวเองหนักขึ้น เอาแต่ใช้เงินซื้อความสุขอย่างมิรู้จักพอ
แต่ไฉนตอนนี้องค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้จึงดูเหมือนเป็นคนละคนไปแล้วเล่า?
ในขณะที่ชายชุดดำยังสับสน จู่ ๆ เขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งร่าง ราวกับตกลงไปในหุบเขาน้ำแข็ง!
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นสายตาเย็นชาของฉินซูกำลังจ้องมองมา!
เขาหวาดกลัวจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง พลันรีบอ้อนวอนขอชีวิต
ร่างไร้หัวสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะหงายหลังลงพื้นไป!
เฮือก!
เมื่อเห็นเหตุการณ์มิคาดฝันนี้ ทุกคนอ้าปากค้างลืมหายใจทันที!
ฉินเหยี่ยนก็ตกใจกลัวเช่นกัน ตะโกนขึ้นด้วยใบหน้าซีดเซียว “องค์รัชทายาท เหตุใดถึงฆ่าองครักษ์ข้าง
กายของข้า หากมิให้คำอธิบาย ข้าจะไปร้องเรียนท่านกับเสด็จพ่อ!"
“ดี เจ้าไปทูลเสด็จพ่อได้เลย ให้เสด็จพ่อรู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าขบถและต่อต้านอย่างไร!”
“ท่าน...”
ฉินเหยี่ยนโกรธมากจนคันฟัน และเขาพูดอย่างมิมั่นใจ "ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับมาทะเลาะกับบ่าวไพร่ มิคิดว่าเสื่อมเกียรติหรืออย่างไร?”
ฉินซูวางมือไพล่หลังแล้วพูดอย่างเย็นชา "พวกเจ้าก็รู้ว่าข้าคือองค์รัชทายาท เหตุใดจึงมิคุกเข่าและทำความเคารพข้าอีก?!"
ใบหน้าของฉินเหยี่ยนยิ่งดูน่าเกลียดมากขึ้น!
องครักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขาก็มองหน้ากันด้วยความสับสน หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาทั้งหมดก็คุกเข่าลงด้วยสีหน้ามิเต็มใจ
“ถวายบังคมองค์ชายรัชทายาท”
ฉินเหยี่ยนมิสามารถรักษาหน้าไว้ได้ จึงประสานมือโค้งคำนับให้ฉินซูเล็กน้อย
ฉินซูแค่นเสียงเย้ยหยันว่า “ตั๊กแตนตำข้าวสะกดรอยจักจั่นโดยมิรู้ว่ามีนกขมิ้นอยู่ข้างหลัง(3) น่าเสียดาย แผนการแยบยลขององค์ชายหกถูกกำหนดให้ล้มพับมิเป็นท่า”
หลังพูดจบเขาก็มิสนใจใครอีก และเดินลงเขาไปทันที
หลังจากที่เฝ้าดูเขาจากไป ฉินเหยี่ยนก็กัดฟันและพูดว่า “สารเลว เจ้าบอกว่าพี่สี่ส่งคนมากำจัดเขาแล้วมิใช่หรือ ไฉนยังมีชีวิตอยู่อีก?”
คนสนิทคนหนึ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม “องค์ชาย ข้าน้อยเห็นกับตาว่าคนของท่านอ๋องซิ่นตามองค์รัชทายาทขึ้นไปบนภูเขา อีกทั้งทุกคนยังพกอาวุธ มิผิดแน่พ่ะย่ะค่ะ”
“ไป ขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น!”
ฉินเหยี่ยนออกคำสั่ง ก่อนจะเดินขึ้นเขาไป
มิไกลนัก ฉินเหยี่ยนอดมิได้ที่จะหรี่ตามอง และอ้าปากค้างอีกครั้ง!
วันชุนเฟิน เป็นช่วงที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน เริ่มประมาณวันที่ 20 ถึง 21 มีนาคมของทุกปี
องครักษ์พกดาบคือ องครักษ์ผู้ถือดาบแทนพระองค์
ตั๊กแตนตำข้าวสะกดรอยจักจั่นโดยไม่รู้ว่ามีนกขมิ้นอยู่ข้างหลัง หมายถึง จ้องจะจับแต่เป้าหมายเบื้องหน้าจนไม่สังเกตเห็นอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน