ตอนที่ 904 รักตราบนิรันดร์ (4)
ไม่มีแสงไฟที่สวยงาม ไม่มีนักเต้นคนสวย กระทั่งไม่มีดนตรีประกอบ มีเพียงลู่เฉินเพียงคนเดียว กอดกีตาร์เล่นและร้องเพลงอยู่บนเวที ร้องเพลงบัลลาดเพลงแล้วเพลงเล่า
‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ‘ปีที่ล่วงเลยผ่าน’ ‘ธุลีรักในสายลม ‘ดอกไม้เหล่านั้น’…
กีตาร์ที่อยู่ในมือของเขา พาผู้ชมและแฟนคลับทั้งหมดแปดหมื่นสามพันคน หวนคิดถึงเพลงบัลลาดไปด้วยกัน นึกถึงประวัติศาสตร์ของเพลงบัลลาดร่วมสมัยไปพร้อมกัน ให้ทุกคนรำลึกเรื่องราวในความหลังจนถึงตอนนี้
ท่วงทำนองที่คุ้นชิน เสียงเพลงที่คุ้นเคย ความคิดถึงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผู้คนมากมายน้ำตารินไหล
แฟนคลับหลายคนร้องเพลงตามลู่เฉินตั้งแต่เพลง ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ และส่วนมากลู่เฉินจะเริ่มร้องช่วงแรก ส่วนข้างหลังทุกคนกลับร้องประสานเสียงพร้อมกัน
ภาพเช่นนี้ เห็นได้น้อยมากจริงๆ ในคอนเสิร์ตเดี่ยวของดาราดัง
ผลงานเพลงบัลลาดที่แสดงถึงช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของลู่เฉินถูกร้องติดต่อกัน และจบลงที่เพลง ‘วัยเจิดจรัส’
ในที่สุดเขาก็วางกีตาร์ลง
แสงไฟโดยรอบมืดลง มีเพียงไฟสปอตไลต์ดวงหนึ่งส่องอยู่บนตัวของลู่เฉิน ในความมืดด้านหลังของเขามีทีมงานกำลังช่วยกันจัดเวทีอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณทุกคนที่ร้องเพลงพวกนี้เป็นเพื่อนผมนะครับ…”
ลู่เฉินพูดกับไมค์ “ทำให้ผมรู้สึกเกรงใจเล็กน้อยที่ทุกคนต้องควักเงินซื้อบัตรของผม”
ผู้ชมที่นั่งอยู่หัวเราะระงมไปทั่วทันที
ทุกคนรู้สึกถึงความสนิทสนมเป็นอย่างมาก สิ่งที่ลู่เฉินพูดอยู่ตอนนี้เหมือนกับเพิ่มความใกล้ชิดกับทุกคน ลดระยะห่างระหว่างกันและกันอย่างรวดเร็ว
ลู่เฉินกล่าวต่อว่า “อืม เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคน ทุกท่านครับ เพื่อนๆ ที่อยู่ที่นี่ในคืนนี้ พวกคุณจะได้รับของขวัญลึกลับชิ้นหนึ่ง!”
ว้าว!
เสียงฮือฮาดังไปทั่วงาน ทุกคนคิดไม่ถึงว่า มาดูคอนเสิร์ตคืนนี้จะได้รับของขวัญอีกด้วย
มีคนถามเสียงสูงว่า “ของขวัญอะไร”
“ผมได้ยินแล้วครับ…”
ลู่เฉินยิ้มพลางชี้นิ้วไปตามเสียงที่ดังมา “เพื่อนคนนี้ถามว่าของขวัญอะไร แน่นอนว่าผมจะไม่บอกคุณ ไม่อย่างนั้นจะดูลึกลับได้ยังไงครับ”
เสียงหัวเราะและเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง
ลู่เฉินทำสัญญาณมือขอโทษ “ขอโทษนะครับที่บอกคุณไม่ได้ตอนนี้ แต่ผมรับรองว่า ของขวัญชิ้นนี้มีความพิเศษมาก ไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังแน่นอน แต่ขอให้พวกคุณอย่าลืมว่าหลังจากกลับไปให้ใช้บัญชีของตัวเองเข้าไปลงทะเบียนที่อยู่บนเว็บไซต์ที่ซื้อบัตร ไม่อย่างนั้นพวกเราจะส่งของขวัญออกไปไม่ได้นะครับ”
“ต่อจากนี้…”
เขาเหลียวหลังแล้วพูดว่า “ขอเชิญวงนิพพานครับ!”
แสงไฟห้าดวงส่องลงมาจากโดมโค้งมนในทันที ตกกระทบลงบนตัวสมาชิกวงดนตรีทั้งห้าคนที่อยู่ข้างหลังลู่เฉิน
“ผมขออนุญาตแนะนำให้ทุกคนรู้จักก่อนนะครับ คนแรกคือหวังจิ้งมือกีตาร์หลักของพวกเราครับ!”
หวังจิ้งกอดกีตาร์ โน้มตัวคำนับให้เหล่าผู้ชมอย่างเป็นกันเอง เธอดีดกีตาร์ทันที เล่นท่อนโซโลสุดเท่สั้นๆ
หญิงสาวคนนี้ตัดผมสั้น ใส่เสื้อลายดอก ดูแล้วสดใสเป็นอย่างมาก บวกกับฝีมือที่ยอดเยี่ยมและหน้าตาที่สวยเกินมาตรฐานของเธอ สามารถเรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมทั้งงานได้ในทันที
“มือกีตาร์หวังฮุย!” “มือเบสโอวหยางเฮ่อ!”…
“มือคีย์บอร์ดเวินยวน!” “แล้วก็มือกลองของพวกเราหยางเสี่ยวอี้!”
ลู่เฉินเอ่ยถึงชื่อคนไหน คนนั้นต่างเล่นท่อนโซโลทักทายทุกคน กระตุ้นอารมณ์ของพวกผู้ชมอย่างต่อเนื่อง
เมื่อก่อนวงนิพพานเคยทำสตูดิโอเนี่ยผานมาก่อน ตอนนั้นวงนี้ยังไม่มีความเป็นมืออาชีพนัก เหมือนเล่นเป็นงานอดิเรกมากกว่า เวลาออกไปแสดงข้างนอกไม่ค่อยมีคนรู้จัก
แต่หลังจากที่ลู่เฉินซื้อสตูดิโอเนี่ยผาน ก็เปลี่ยนชื่อเป็นวงนิพพานเหมือนดั่งนกฟีนิกซ์ที่เกิดใหม่จากเถ้าถ่าน เปลี่ยนสีสันใหม่อย่างไม่เคยมีมาก่อน และสร้างความแปลกใหม่ในวงการอย่างรวดเร็วหลังจากที่ลู่เฉินเปลี่ยนชื่อของวงดนตรี
สี่ปีที่ผ่านมา วงนิพพานไม่เคยเปลี่ยนสมาชิก แต่ชีวิตของสมาชิกทุกคนกลับไม่เหมือนเดิมอย่างสิ้นเชิงเพราะลู่เฉิน สามารถพูดได้ว่าเปลี่ยนแปลงราวกับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน!
ณ จุดๆ นี้ หวังจิ้งสามารถสัมผัสได้ลึกซึ้งยิ่งกว่า
สายตาของเธออดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่ตัวของลู่เฉิน นัยน์ตาฉายแสงแห่งความทรงจำแวบหนึ่ง
ตอนที่ได้เจอลู่เฉินครั้งแรก สตูดิโอเพลงของครอบครัวหวังจิ้งกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต ไม่มีงานขาดเงินทุนสามารถปิดตัวไปทุกเมื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar