บทที่ 141 นายเคยเห็นคนจนที่ขับรถเบนซ์จิ๊บด้วยเหรอ?
“ลู่ลู่ ลู่ลู่ เธออย่าทำให้แม่ตกใจนะ”
แม่ของเชี่ยลู่ รีบวิ่งเข้าไปในบ้าน ดึงตัวเชี่ยลู่เข้ามากอดอยู่ในอ้อมอก
“คุณนี่มันเป็นตาแก่ที่ใช้ไม่ได้เลย หากลู่ลู่เป็นอะไรไป ฉันก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว” แม่ของเชี่ยลู่แสดงสายตาดุร้ายและน่ากลัวออกมา
“ผม ผมจะโทรเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้” พ่อของเชี่ยลู่รีบล้วงโทรศัพท์อย่างลนลาน กำลังที่จะโทรเรียกรถพยาบาลนั้น
“คุณโง่หรือเปล่า จะมัวเรียกรถพยาบาลอะไร รีบไปหารถมา หากรอรถพยาบาลมา จะต้องรอถึงเมื่อไหร่!” น้ำเสียงของคุณแม่เชี่ยลู่เยือกเย็นมาก
“ใช่ ใช่ หารถ” คุณพ่อของเชี่ยลู่ที่ลนลาน ก็รีบวิ่งออกไปจากบ้านตัวเอง
คุณพ่อของเชี่ยลู่เพิ่งก้าวออกมาจากประตู ก็เห็นรถเบนซ์G-Classของหลี่ฝาง เลยวิ่งเข้าไป
ขณะนี้หลี่ฝางกำลังยุ่งเรื่องการจับฉลากของชาวบ้านอยู่ จู่ๆ พ่อของเชี่ยลู่ก็วิ่งเข้ามา คว้าแขนของหลี่ฝาง: “เสี่ยวฝาง นายช่วยลูกสาวฉันด้วย”
“ช่วยเชี่ยลู่?” หลี่ฝางอึ้งไปชั่วขณะ แล้วก็จี้ถาม: “เชี่ยลู่เป็นอะไรเหรอ?”
“ลู่ลู่กรีดข้อมือตัวเอง นายขับรถของนาย ช่วยฉันพาเธอไปส่งโรงพยาบาลหน่อย” พ่อของเชี่ยลู่กล่าวด้วยสีหน้าที่ขอร้องและรู้สึกผิด
เชี่ยลู่กรีดข้อมือ?
หลี่ฝางตกใจก่อน จากนั้นก็ถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย: “ผมทำไมต้องช่วยคุณด้วย?”
“ผมจำได้อย่างขึ้นใจ คืนนั้นคุณชี้ที่หน้าผมแล้วตักเตือนผม หากผมยังกล้าที่จะติดต่อกับเชี่ยลู่อีก ก็จะตีขาของผมให้หัก คำพูดนี้ คุณเป็นคนพูดหรือเปล่า?” สีหน้าของหลี่ฝางเข้มขรึมทันที
ชาวบ้านที่อยู่ข้างๆ ได้ยินข่าวที่เชี่ยลู่กรีดข้อมือ ต่างก็ตกใจ
“เสี่ยวฝาง เราอย่าเพิ่งจับฉลากเลย นายรีบส่งเชี่ยลู่ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”
“ใช่จ้า ช่วยชีวิตคุณสำคัญกว่า”
หลี่ฝางทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วกล่าว: “จับฉลากกันต่อเถอะ ถึงใครแล้ว?”
“เสี่ยวฝาง เรื่องจับฉลากไม่รีบ นายไปช่วยคนก่อนเถอะ” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งของหมู่บ้านได้กล่าวขึ้น
“คุณลุง ลุงไม่จับ ก็หลีกหน่อยครับ ให้ป้าหวางที่อยู่ด้านหลังมาจับ” หลี่ฝางกล่าวอย่างเย็นชา
“เจ้าเด็กคนนี้นี่............”
“คนต่อไป” สี่หน้าของหลี่ฝางดูน่ากลัว: “ป้าหวาง ถึงป้าแล้ว”
ป้าหวางคนนี้ไม่ได้พูดจู้จี้จุกจิกได้ยื่นมือเข้าไปในกล่องจับฉลากโดยตรง
“โทรศัพท์ไอโฟนหนึ่งเครื่อง” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วกล่าว: “ยินดีกับป้าหวางด้วยครับ”
“หลี่ฝางจ๋า ป้าก็อายุปูนนี้แล้ว ได้โทรศัพท์ไม่มีประโยชน์ ป้าสามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องซักผ้ามั้ย” ป้าหวางถามไปหนึ่งประโยค
หลี่ฝางส่ายหัว แล้วกล่าว: “ไม่ได้ครับ”
สีหน้าของป้าหวางผิดหวังเล็กน้อย
หลี่ฝางยิ้มๆ แล้วกล่าว ป้าหวาง: “โทรศัพท์เครื่องนี้หมื่นกว่าหยวนเลยนะ เครื่องซักผ้าแค่สามพันกว่าหยวนเอง ป้าก็ขาดทุนละสิ?”
หลี่ฝางหยิบเงินให้ป้าหวางหนึ่งปึก: “ป้าหวาง โทรศัพท์ที่ป้าจับได้ ผมซื้อละกัน”
“ขอบใจ ขอบใจ เสี่ยวฝางเนี่ยนะ เป็นเด็กที่ดีจริงๆ เลย ไม่เสียแรงที่ป้าเอ็นดูตั้งแต่เด็ก” ป้าหวางกล่าวอย่างมีดีใจ
“เด็กดงเด็กดีอะไรกัน ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? ตอนเด็กๆ ลุงเซี่ยของนายดีกับนายแค่ไหน ทำไมไม่รู้จักสำนึกบุญคุณเลย?” ผู้อาวุโสที่ถูกหลี่ฝางยกเลิกสิทธิ์ในการจับฉลากเมื่อกี้ได้ด่าขึ้น
“ตอนเด็กลุงเซี่ยดีกับผม แล้วพ่อผมไม่ดีกับเชี่ยลู่เหรอ?”
หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบเฉย: “ผมไม่เคยติดหนี้อะไรลุงเซี่ย แต่เป็นลุงเซี่ยต่างหาก ตอนที่พ่อแม่ผมหายตัวไป เคยให้ข้าวสักเม็ดกับผมมั้ย?”
“หากพูดถึงเรื่องแล้งน้ำใจ ผมยังห่างไกลลุงเซี่ยมากนัก”
“ก่อนที่พ่อแม่ผมจะหายตัวไป ลุงเซี่ยเป็นฝ่ายมาขอ ให้ผมกับเชี่ยลู่หมั้นหมายกันแต่เด็ก แต่หลังจากที่พ่อผมหายตัวไป คนที่เสียใจก็เป็นเขาอีก”
“สำหรับคนที่ไม่มีน้ำใจ ไม่มีสัจจะ ผมทำไมจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วย?”
หลี่ฝางมองหน้าพ่อเชี่ยลู่ กล่าวอย่างเยือกเย็น: “อย่ามาพูดกับผมเลยว่าการช่วยชีวิตคนนั้นได้บุญมากกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นอะไรพวกนี้” ผมไม่ใช่พระโพธิสัตว์ ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น
หลี่ฝางกล่าวอย่างเย็นชา: “จับฉลากกันต่อ”
ขณะนี้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกแล้ว ใครที่พูดมาก ก็ไม่ต้องจับฉลากแล้ว
ถึงอย่างไรยังมีรางวัลรถเก๋งคันหนึ่งที่ยังไม่โดนจับไป
“เสี่ยวฝาง ถือว่าลุงขอร้องนายละ ต้องทำยังไงนายถึงจะยอมช่วย?” สีหน้าของพ่อเชี่ยลู่ปรากฏด้วยความหมดหวัง
“ไม่ว่ายังไง คุณก็เป็นผู้อาวุโส หากผมให้คุณคุกเข่าขอโทษ มันไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง