บทที่ 222 พนันกับจ้าวเสี่ยวตาว
อย่าว่าแต่เซล์สาวถิงถิงเลย แม้แต่จ้าวเสี่ยวตาว ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีบาร์ไหนจะมีมูลค่ากว่าสองพันล้านมาก่อน
ตัวเมืองเอกไม่ใช่เมืองหลวงอย่างเซี่ยงไฮ้สักหน่อย ใครจะกล้าลงทุนสร้างบาร์มูลค่ากว่าสองพันล้านกัน
เฉียนเป่าเอ๋อเองก็ไม่อยากเชื่อ นางรู้สึกเพียงแต่ว่าหลี่ฝางคุยโม้เก่งเหลือเกิน
“นี่ ฉันถามคุณหน่อย คุณทำได้ยังไง”เฉียนเป่าเอ๋อหัวเราะ อดไม่ได้ที่จะถามหลี่ฝาง
“ทำอะไรเหรอ”หลี่ฝางไม่เข้าใจความหมายของเฉียนเป่าเอ๋อ จึงถามกลับไป
“คุยโม้ไง ตอนที่คุณโม้ สีหน้าดูเป็นปกติ ถ้าไม่ใช่ว่าสิ่งที่คุณพูดยิ่งพูดยิ่งเลยเถิด ฉันก็เกือบจะเชื่อคุณไปแล้ว”เฉียนเป่าเอ๋อหัวเราะและเอ่ยขึ้น
“เพราะว่าผมไม่ได้คุยโม้ไง ที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ”หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
หลี่ฝางรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูด ไม่มีใครเชื่อ
แต่แล้วยังไงล่ะ
สักวันหนึ่ง พวกเขาจะรู้สถานะตัวตนของเขา
พอถึงวันนั้น พวกเขาคงงงเป็นไก่ตาแตก
“คุณชายจ้าว คุณหนูเฉียน ฟ้ามืดแล้ว ฉันจะส่งพวกคุณลงเขานะคะ”ถิงถิงไม่ได้สนใจคำร้องขอของหลี่ฝาง พูดกับจ้าวเสี่ยวตาวกับเฉียนเป่าเอ๋อ
ตอนที่เดินผ่านหลี่ฝาง ถิงถิงพูดขึ้นเบาๆว่า “ประสาทจริงๆ”
ทำงานมาหลายปี นี่นับเป็นครั้งแรกที่ถิงถิงเจอกับคนอย่างหลี่ฝาง
ช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
เฉียนเป่าเอ๋อหัวเราะ พูดขึ้นว่า “ในเมื่อบ้านหมายเลขหนึ่งก็อยู่ไม่ไกล ไม่สู้พวกเราไปดูสักหน่อยดีกว่า”
“พูดตามจริง ฉันเองก็อยากจะเห็นบ้านหมายเลขหนึ่งของคฤหาสน์บ้านซานเหมือนกัน”
ขณะพูด เฉียนเป่าเอ๋อก็หันกลับมา มองไปยังถิงถิง ถามขึ้นว่า “ได้หรือเปล่า”
“ถ้าคุณหนูเฉียนอยากดู ก็ย่อมได้ พอดี ในมือฉันมีกุญแจของบ้านหมายเลขหนึ่งอยู่ ”ถิงถิงพูดขึ้นยิ้มๆ
แม้ถิงถิงจะรู้ว่า เฉียนเป่าเอ๋อก็แค่อยากจะชมดูบ้านหมายเลขหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะซื้อ
ไปครั้งนี้ ถือว่าเสียเที่ยวก็ว่าได้
แต่หากปฏิเสธละก็ อย่างนั้นคงทำเฉียนเป่าเอ๋อเคืองแน่ๆ
จะว่าไป เงินจองบ้านหมายเลขแปดก็ยังไม่ได้รับการชำระ หากทำให้เฉียนเป่าเอ๋อโกรธขึ้นมา จนไม่สามารถขายบ้านได้ ถ้าอย่างนั้นค่าคอมหลายแสนของตน ก็คงมลายหายไปหมด
“เป่าเอ๋อ ฟ้าก็มืดแล้ว ผมว่าเรารีบลงเขาดีกว่า ”จ้าวเสี่ยวตาวพูดขึ้น
อันที่จริง จ้าวเสี่ยวตาวก็อยากจะดูบ้านหมายเลขหนึ่งเหมือนกัน
บ้านที่มีมูลค่าการขายกว่าสองร้อยล้าน ข้างในของมันจะตกแต่งได้เลิศหรูอลังการแค่ไหนกันเชียว
แต่ที่เฉียนเป่าเอ๋อบอกว่าอยากดูบ้านหมายเลขหนึ่ง ดูแล้วเหมือนจะเปิดทางให้กับหลี่ฝางมากกว่า นี่ทำให้จ้าวเสี่ยวตาวรู้สึกรับไม่ได้
หลี่ฝางคนนี้อยากดู เธอก็อยากดู พวกคุณสองคนช่างใจตรงกันจริงๆ
“ทำไม คุณกลัวว่าจะมืดก่อนเหรอ”เฉียนเป่าเอ๋อหันกลับมา มองจ้าวเสี่ยวตาวอย่างดูแคลน
“ถ้าคุณกลัวมืดละก็ คุณก็ลงเขาไปก่อน”เฉียนเป่าเอ๋อพูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
ได้ยินอย่างนี้ สีหน้าของจ้าวเสี่ยวตาว ก็ขรึมลงทันที
นี่ว่าที่ภรรยาของตัวเอง ทำไม่จ้องแต่จะตั้งป้อมกับตัวเอง
จ้าวเสี่ยวตาวถอนหายใจยาว อดกลั้นเอาไว้
จนถึงตอนนี้ แม้แต่มือของเฉียนเป่าเอ๋อก็ยังไม่เคยได้จับ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องขึ้นเตียงเลย
จ้าวเสี่ยวตาวคิดในใจ รอวันที่ได้แต่งงานกัน เข้าเรือนหอ มีลูกของตัวเองแล้ว
ดูสิว่าเธอยังจะกล้าโวยวายกับฉันอีกหรือเปล่า
จ้าวเสี่ยวตาวฝืนยิ้มอย่างแกนๆ พูดว่า“ผมเป็นผู้ชายอกสามศอก จะกลัวความมืดทำไม ล้อเล่นหรือเปล่า ”
“พวกเราเดินขึ้นไปกันเถอะ ไม่ต้องนั่งรถแล้ว ยังสามารถดูทิวทัศย์ระหว่างทางได้อีกด้วย”เฉียนเป่าเอ๋อพูด
ตอนที่เฉียนเป่าเอ๋อพูดคำนี้ ถิงถิงกับจ้าวเสี่ยวตาว ได้ขึ้นไปนั่งบนรถนำชมบ้านเรียบร้อยแล้ว
ใบหน้าของจ้าวเสี่ยวตาว ขรึมลงอีกครั้ง
ถิงถิงมองจ้าวเสี่ยวตาวแวบหนึ่ง สายตามีแววดูถูก แต่เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น
อย่าว่าแต่ถิงถิงเลย แม้แต่หลี่ฝางกับหลินชิงชิงยังรู้สึกอยากจะขำอยู่บ้าง
ผู้ชายอกสามศอกคนหนึ่ง ถูกว่าที่ภรรยาตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่างไม่มีเกียรติเอาซะเลย
หากเป็นหลี่ฝาง คงระเบิดอารมณ์ไปนานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง