NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 605

“จะเรียกว่าขู่ได้ยังไงกัน? ก็แค่ ฉันช่วยพวกนาย ช่วยรับน้องสาวนายมาให้ด้วยความหวังดี ให้เงินพวกนายใช้สิบล้าน ไหนจะจัดการพาหนีอีก แล้วนายกลับตอบแทนให้ฉันได้แค่นี้เนี่ย เหอะ นายไม่คิดว่ามันไม่เท่าเทียมหรือไง?”

หลี่ฝางหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่างน้อยก็น่าจะให้อะไรที่มีมูลค่ามากกว่านี้หน่อยสิ? นายกับเฉิงหยุนรับใช้มู่เสี่ยวไป๋มานานขนาดนั้น เป็นไปได้หรือไงที่จะไม่รู้ความลับอะไรสักนิดของมู่เสี่ยวไป๋?”

“ไหนบอกให้ฉันฟังหน่อยสิ” หลี่ฝางเลิกคิ้ว มองหน้าจูเฟิ่งปิน

จูเฟิ่งปินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นจนแทบจะผูกเป็นปม

หลี่ฝางรู้ดีว่าจูเฟิ่งปินจะต้องกุมความลับระดับชาติบางอย่างของมู่เสี่ยวไป๋ไว้แน่นอน

ไม่อย่างนั้นแล้ว คืนวันนี้มู่เสี่ยวไป๋คงไม่ลงทุนมากขนาดนั้นเพื่อชิงตัวน้องสาวไป

ไม่เสียดายที่จะใช้เฮลิคอปเตอร์ ไม่เสียดายที่จะให้ชางสู่เป็นคนลงมือ ทำซะอย่างกับกำลังกู้ภัยครั้งยิ่งใหญ่ก็ไม่ปาน

และในตอนนี้ หลี่ฝางไม่อาจจะใส่หน้ากากอีกต่อไปแล้ว โลกนี้ไม่มีใครเกรงกลัวคนดี มีแต่จะเกรงกลัวคนเลว ถึงเวลาที่หลี่ฝางจะต้องแสดงความชั่วร้ายออกมาให้เห็นบ้าง

ทันทีใดนั้น ที่ด้านนอกมีคนเคาะประตู หลี่ฝางเดินออกแล้วเปิดประตูออก แต่ไม่ลืมหันไปพูดกับจูเฟิ่งปิน “ค่อยๆคิดใหม่อีกที หวังว่านายจะนึกอะไรออก”

จากนั้น หลี่ฝางก็เปิดประตูออกแล้วพูดกับคนที่อยู่หน้าประตู “มีอะไร?”

“คุณชายหลี่” คนมาใหม่ยื่นสร้อยเส้นนึงให้หลี่ฝาง แล้วส่งสายตาไปยังทิศที่จูเฟิ่งปินยืนอยู่ ก่อนจะขยิบตาเบาๆ

หลี่ฝางเข้าใจความหมายนั้นโดยทันที เขาหันกลับไป เดินไปหาจูเฟิ่งปิน จากนั้นใส่สร้อยลงบนคอของตัวเองแล้วพูดว่า “สร้อยเส้นนี้สวยดีนะ”

พูดจบ หลี่ฝางก็เงยหน้าขึ้นมองจูเฟิ่งปิน สายตาของจูเฟิ่งปินจับจ้องไปที่คอของหลี่ฝางไม่วางตา

“นี่มันสร้อยของน้องสาวผม ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยถอดมันออกเลยสักครั้ง ยกเว้นตอนนอน” สีหน้าของจูเฟิ่งปินเผยความหวาดกลัว

“ถึงสร้อยเส้นนี้จะไม่ได้มีมูลค่าอะไร แต่เป็นสิ่งที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้พวกเรา”

จูเฟิ่งปินมองหลี่ฝาง “ท่าทางน้องสาวของผมจะอยู่ในเงื้อมมือของคุณจริงๆสินะ”

“คุณชายหลี่ ผมเคยคิดว่าคุณเป็นคนดี ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เหอะๆ ดูท่าทางผมจะมองคุณผิดไป คุณก็ไม่ได้ต่างอะไรกับมู่เสี่ยวไป๋ ถึงคุณจะไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเท่ากับมู่เสี่ยวไป๋ วิธีการก็ไม่ต่ำช้าเท่าเขา แต่ก็คงไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน”

จูเฟิ่งปินส่ายหน้าหัวเราะ สีหน้าของเขายากจะอธิบาย “ผมดูคุณผิดไปจริงๆ”

“จูเฟิ่งปิน ระหว่างเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไร ฉันช่วยนาย นายช่วยฉัน ระหว่างเราก็แค่การทำข้อแลกเปลี่ยนกันเท่านั้น” หลี่ฝางยิ้มบางๆ

“ข้อแลกเปลี่ยน? เหอะ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่ค่อยยุติธรรมเอาซะเลยนะครับ สิ่งที่ผมเขียนให้คุณ แค่หลับตาเอามาใช้สักข้อก็สามารถทำลายมู่เสี่ยวไป๋ได้แล้ว คุณจ่ายแค่สิบล้าน แต่อย่างน้อยๆก็สามารถทำลายมู่เสี่ยวไป๋ไปครึ่งชีวิตได้แล้ว สิ่งที่มู่เสี่ยวไป๋ต้องสูญเสียอย่างต่ำๆก็พันล้าน เกรงว่าจะมากกว่านั้นด้วยนี่สิ?”

“เพราะฉะนั้นการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ เป็นคุณที่ได้กำไร”

จูเฟิ่งปินมองหลี่ฝาง แล้วพูดด้วยความเย็นชา “คุณฉวยโอกาสแล้วยังตีหน้าซื่อ”

หลี่ฝางแสยะยิ้ม “นายก็คิดซะว่าฉันโลภแล้วกัน”

“ร้อยล้าน ผมมีหลักฐานที่สามารถมัดตัวมู่เสี่ยวไป๋ได้อย่างดิ้นไม่หลุด ให้ผมร้อยล้าน แล้วผมจะบอกคุณ” จูเฟิ่งปินพูด “นอกจากนี้ คืนโทรศัพท์ให้ผม หลังจากที่ผมแน่ใจแล้วว่าน้องสาวกับพี่เฉิงเกอปลอดภัย ผมถึงจะบอกคุณ”

“นายคิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่จะมาต่อรองกับฉันได้หรอ?”

หลี่ฝางส่ายหน้า “จะพูดให้ดูดีหน่อย เราสองคนกำลังทำข้อแลกเปลี่ยนกัน นายคือคนที่ร่วมงานกับฉัน แต่ถ้าจะพูดให้ดูแย่หน่อย นายก็คือคนชนชั้นระดับล่าง เป็นผู้ลี้ภัยที่ฉันรับไปช่วยเหลือ ถ้าฉันไล่ตะเพิดออกไป นายจะต้องถูกคนของมู่เสี่ยวไป๋ฆ่าในไม่ช้าแน่นอน”

หลี่ฝางพูดเสียงเย็น “นายมีแค่ตัวเลือกเดียว นั่นก็คือบอกทุกอย่างที่นายรู้มาให้หมด แล้วฉันจะให้เงิน กับพานายหนี”

จูเฟิ่งปินลังเล ผ่านไปนานก็ไม่ได้ให้คำตอบกับหลี่ฝาง

หลี่ฝางพูดต่อ “ถ้านายยังคิดไม่เลิกอยู่แบบนี้ เกรงว่าน้องสาวนายจะไม่รอด”

จูเฟิ่งปินเงยหน้ามองหลี่ฝาง “ให้ผมเจอหน้าน้องสาวสักหน่อยเถอะ ผมสงสัยว่าเธอโดนจับตัวไป”

“ทำไม สร้อยเส้นนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้อีก?” หลี่ฝางถาม

จูเฟิ่งปินส่ายหน้า “พิสูจน์ไม่ได้ทั้งหมด”

หลี่ฝางหัวเราะ “ถ้านายบอกฉันมาสักครึ่งนึง ฉันจะให้นายคุยกับน้องสาวครั้งนึง”

จูเฟิ่งปินลังเลเล็กน้อย “มู่เสี่ยวไป๋เคยฆ่าคนคนนึง เขาเป็นคนใหญ่คนโต ถ้าพูดชื่อออกมา ตระกูลมู่จะได้มอดไหม้ราวกับตกนรกขุมสุดท้าย”

“ใคร?” หลี่ฝางไล่ถาม

จูเฟิ่งปินพูด “ให้ผมเจอหน้าน้องสาว”

“ฉันแค่บอกว่าจะให้นายคุยโทรศัพท์” หลี่ฝางพูด

พูดจบ หลี่ฝางก็เดินออกมาเจอส้าวส้วยด้านนอก ส้าวส้วยมองหน้าหลี่ฝางแล้วถาม “ได้เรื่องว่ายังไงบ้างครับ?”

“เขาพูดแม่แค่ครึ่งเดียว มู่เสี่ยวไป๋เคยฆ่าคนคนนึง เป็นคนใหญ่คนโต” หลี่ฝางขมวดคิ้ว “ฉันสงสัยว่าเขาจะแต่งเรื่อง”

“เขาตะงิดใจแล้วว่าเราไม่ได้รับตัวน้องสาวกลับมา” หลลี่ฝางพูด “ฉันรู้สึกได้ อีกอย่างตอนที่ฉันขู่ก็ไม่ค่อยมีพลังมากพอ”

“เผยไต๋แล้วหรอครับ? แต่ก็ไม่แปลก ถ้าเรามีตัวน้องสาวของเขาจริง คงเอาตัวมาโชว์ให้ดูแล้ว ไม่ใช่ลีลาเล่นแง่อยู่แบบนี้”

ส้าวส้วยหัวเราะหึๆ “ไม่ต้องห่วงครับ ตราบใดที่จูเฟิ่งปินยังไม่ตาย เราจะงัดคำพูดในปากของเขาออกมาให้จงได้”

“เมื่อกี้ฉันรับปากตูเฟิ่งปินว่าจะให้เขาคุยกับน้องสาว” หลี่ฝางพูด “ฉันคิดแผนไว้ ไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่า”

“ลองพูดมาสิครับ” ส้าวส้วยพูด

หลี่ฝางเข้าไปกระซิบข้างหูส้าวส้วย เล่าถึงแผนการให้ฟังเสียงเบา หลังฟังจบ นัยน์ตาของส้าวส้วยก็เป็นประกาย “ใช้ได้นี่ เจ้านายฉลาดขึ้นแล้ว ขนาดเรื่องแบบนี้ก็ยังคิดออกมาได้”

เมื่อถูกชม หลี่ฝางก็เอามือขึ้นมาลูบท้ายทอยด้วยความเขินอาย “จริงๆฉันก็ไม่ได้ฉลาดขึ้นหรอก แค่ได้ไอเดียมาจากหนังที่เคยดู”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง