“เสี่ยวลี่ เธออย่าวุ่นวาย!” หลิวหลี่ถงมองเสี่ยวลี่อย่างดุๆ
ผิวของเสี่ยวลี่มีสีเข้มเล็กน้อย รูปร่างของเธอผอมแห้งมาก เทียบกับส่วนเว้าส่วนโค้งที่ดูดีของหลิวหลี่ถง คนละอารมณ์เลย
“เธอนี่มันไม่มีศีลธรรม ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอจะยั่วยวนคุณชายสามฉันจะไม่พูดสักคำ คุณชายสามเมื่อก่อนเป็นโสด แต่ตอนนี้คุณชายสามมีภรรยาแล้ว เธอทำแบบนี้......” เสี่ยวลี่ตักเตือนอย่างจริงจัง แต่ถูกหลิวหลี่ถงตัดบท
“ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ให้เธอหยุดพูดได้แล้ว เธอหุบปากซะ!” หลิวหลี่ถงกัดฟันและชี้ไปที่จมูกของเสี่ยวลี่แล้วพูดว่า “คุณชายสามเป็นคนมาหาฉันเอง ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นคนดึงเขาเข้าไปในห้องหรือไง? ถ้าเธอกล้าพูดออกไป คุณชายสามไล่เธอออกแน่”
“เสี่ยวลี่ เธอต้องคิดถึงสามีและลูกชายในชนบท!” หลิวหลี่ถงเอนตัวเข้าไปข้างหูเสี่ยวลี่และแอบขู่อย่างเงียบๆ
เสี่ยวลี่ขมวดคิ้ว ใบหน้าลังเลปรากฏขึ้น สองมือที่ผอมดังฟืนของเธอประกบกันและรู้สึกประหม่า
ห้องของเธออยู่ตรงข้ามห้องหลิวหลี่ถงพอดี เมื่อคืนเธอบังเอิญเห็นคุณชายสามออกมาจากห้องของหลิวหลี่ถง ดังนั้นเธอจึงตามถามหลิวหลี่ถง หลิวหลี่ถงบอกให้เธออย่าพูดเรื่องไร้สาระ ไม่เช่นนั้นคุณชายสามจะโกรธ เธอก็รู้เลยว่าหลิวหลี่ถงและคุณชายสามมีเรื่องอย่างว่ากัน
แต่ตอนนี้คุณชายสามมีภรรยาแล้ว แม้กระทั่งเมื่อครู่เสี่ยวลี่ก็เห็นหลิวหลี่ถงพูดอะไรกับคุณนายสามบ้าง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะตักเตือนหลิวหลี่ถง
“ฉันไม่พูดออกไปหรอก ฉันไม่กล้าทำให้คุณชายสามโกรธ” เสี่ยวลี่ไม่กล้าพูดเรื่อยเปื่อยแน่ เพราะเธอต้องทำงานที่นี่เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เธอคนเดียวต้องเลี้ยงดูทั้งครอบครัว
โดยเฉพาะสามีซึ่งพิการจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่สามารถทำงานได้และยังมีอาการข้างเคียง ซึ่งต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก
“อืม ทำอย่างนี้ถูกแล้ว” หลิวหลี่ถงเอื้อมมือออกไปตบไหล่เสี่ยวลี่โดยเฉพาะ ซึ่งที่จริงแล้วต้องการให้เธอรู้สึกตัว
อันที่จริงเมื่อคืนก่อน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอและคุณชายสาม แต่เสี่ยวลี่เข้าใจผิดว่าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เธอก็ไม่อยากอธิบาย เพราะเธอหวังว่าตัวเองจะเกิดเรื่องแบบนั้นกับคุณชายสามจริงๆ
“ในเมื่อเธอกับคุณชายสามเกิดเรื่องแบบนั้น เธอก็ไม่ควรใกล้ชิดคุณนายสามมากนัก” เสี่ยวลี่พูดตะกุกตะกักเล็กน้อย แต่ยังคงพูดออกมา ร่างกายที่ผอมแห้งแรงน้อยของเธอดูออกว่าเธอขาดสารอาหาร
“ฉันกับคุณนายสามจะเป็นยังไงไม่เกี่ยวกับเธอ เสี่ยวลี่ ดูแลตัวเธอเองเถอะ” หลิวหลี่ถงกลอกตามองบนใส่ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรำคาญ
เสี่ยวลี่อ้าปากค้าง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นหลิวหลี่ถงที่กดขี่ครอบงำอยู่เบื้องหน้าเธอ เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
หลังจากคิดดูแล้วก็พูดว่า: "เธออายุยังน้อย ไม่ควรเป็นเมียน้อย ควรหาคนที่ดีและแต่งงานอย่างถูกต้องเปิดเผย แทนที่จะไปทำลายชีวิตคู่ของคนอื่น"
“แต่งงาน? เช่นเดียวกับเธอ แต่งงานกับผู้ชายที่ไร้ประโยชน์ ฉันยังต้องเสียเงินเพื่อเลี้ยงดูเขา?” หลิวหลี่ถงหัวเราะเยาะสองสามครั้ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม
สีหน้าของเสี่ยวลี่เปลี่ยนไปในทันทีและรีบปฏิเสธว่า: “ชายหนุ่มของฉันนอกจากเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุ เขาเป็นคนมีความสามารถมาก”
“มีความสามารถมากจะมีประโยชน์อะไร? หาเงินได้เท่าไหร่? เมื่อก่อนก็เป็นแค่ช่างทาสีไม่ใช่หรือ?” หลิวหลี่ถงใช่ว่าจะไม่รู้พื้นภูมิของเสี่ยวลี่ น้ำเสียงของเธอแปลกประหลาดมาก ทุกประโยคมีแต่คำดูถูกเสี่ยวลี่
เสี่ยวลี่ถึงกับพูดไม่ออก
“ก็ได้ ไม่ต้องสนใจเรื่องของฉัน ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจว่าให้สามีของเธอ ฉันจะเป็นยังไง เธอไม่ต้องมาเป็นห่วง” เมื่อเห็นสีหน้าของเสี่ยวลี่แย่มาก หลิวหลี่ถงก็กลัวว่าเธอจะพูดไปเรื่อย จึงรีบปลอบเธอไม่กี่ประโยค
เสี่ยวลี่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถพูดคุยสื่อสารกับหลิวหลี่ถงได้ เธอจึงหันหลังและจากไป
หลิวหลี่ถงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอรู้ว่าเพื่องานแล้วเสี่ยวลี่ไม่มีทางเอาเรื่องนี้ออกไปพูด ดังนั้นจึงพักผ่อนบนผ้าปูที่นอนอย่างสบายใจ
เพียงแต่ว่าจู่ๆเธอก็คิดถึงว่าเฉินฮวนฮวนกับคุณชายสามไปอาศัยอยู่ข้างนอก ไม่รู้ว่าเฉินฮวนฮวนจะพาเธอไปด้วยไหม ถ้าเฉินฮวนฮวนไม่พาตัวเธอไปด้วย อีกหน่อยเธอก็จะไม่ได้เจอคุณชายสามอีกแล้วหรือ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลิวหลี่ถงก็ลุกขึ้นนั่ง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
……
อีกฝั่งหนึ่ง เฉินฮวนฮวนออกไปนอกบ้านกับหลินอวี่หยางอย่างมีความสุข
หลินอวี่หยางนำคนขับรถของตระกูลหลินมาด้วย และคนขับรถพาพวกเธอไปส่งที่หน้าประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้า
ขณะที่ลงจากรถ เฉินฮวนฮวนเพิ่งสังเกตว่าที่นี่คือห้างสรรพสินค้าอวิ๋นตวน ที่เธอเคยมากับเฉินนานา
ห้างสรรพสินค้าอวิ๋นตวนเป็นทรัพย์สินของตระกูลเฟิง และในห้างนี้เธอยังเกิดเหตุการณ์ที่ลำบากใจขึ้น ท้ายที่สุดคนที่ชื่ออันฉีที่เป็นคนแนะนำสินค้าถูกไล่ออก หลิวเสี่ยวจิงก็ต้องถูกภรรยาคนเแรกตบตีอย่างแน่นอน
เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ตอนนี้ก็คือเสื้อผ้าของวีวี่ หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เฟิงหานชวนก็ให้คนนำเสื้อผ้าของวีวี่ ที่มีขนาดของเธอไปส่ง รวมถึงเครื่องประดับด้วย ให้นำไปส่งที่บ้านตระกูลเฟิงทั้งหมด
ดังนั้น กระเป๋าของเธอในตอนนี้ ชุดนอนกระโปรง เสื้อผ้า เสื้อตัวนอก ล้วนเป็นของวีวี่ทั้งหมด ทำให้เธอกลายเป็นลูกค้าเฉพาะของวีวี่
“ฮวนฮวน เธอคิดอะไรทำไมเหม่อลอยหล่ะ? นี่คือทรัพย์สินของครอบครัวเธอ ถ้าฉันซื้อของต้องมีส่วนลดให้ฉันนะ!” หลินอวี่หยางโอบไหล่ของเฉินฮวนฮวนและพูดติดตลก
“หยางหยาง ฉันไม่มีสิทธิ์ให้ส่วนลดแก่เธอนะ กิจการเหล่านี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การบริหารของฉัน......” เฉินฮวนฮวนรู้สึกลำบากใจ เธอนึกว่าหลินอวี่หยางต้องการส่วนลดจริงๆ
เธอแค่แต่งงานกับเฟิงหานชวน ไม่เคยคิดที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องธุรกิจเหล่านี้ของตระกูลเฟิง และไม่มีสิทธิ์ในการจัดการและรับมรดกของครอบครัวของตระกูลเฟิง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากให้ส่วนลดกับหลินอวี่หยาง แต่ถ้าเธอเข้าไปยุ่ง เกรงว่าคนในบ้านตระกูลเฟิงจะคิดมาก
“อ๊ะ ฉันแค่ล้อเล่นกับเธอ! เธออย่ากังวลไปเลย ฉันแค่ตั้งใจจะพูดขำๆ” หลินอวี่หยางตบไหล่เฉินฮวนฮวนและอธิบายว่า “ไม่ใช่เพราะอวิ๋นตวนเป็นสมบัติของตระกูลเฟิงฉันเลยพาเธอมาเล่นที่นี่ แต่เพราะมันเป็นห้างสรรพสินค้าที่ครบวงจรมากที่สุด เพราะฉะนั้นฉันถึงพาเธอมาที่นี่"
“แต่ว่าฮวนฮวน มีเรื่องหนึ่งเธอรู้ไหม? เกี่ยวกับอวิ๋นตวนและอาเฟิงของเธอ” หลินอวี่หยางกล่าวขึ้นมา
เฉินฮวนฮวนเริ่มสงสัยและถามว่า “เรื่องอะไรเหรอ?”
เธอก็ตระหนักถึงปัญหาหนึ่งทันที
เธอรู้ว่าเฟิงหานชวนก่อตั้ง Rกรุ๊ปในต่างประเทศด้วยตัวเอง ไม่ได้ร่วมดำเนินงานกับตระกูลเฟิง แต่เนื่องจากห้างสรรพสินค้าอวิ๋นตวนเป็นอุตสาหกรรมของตระกูลเฟิง แล้วทำไมคราวก่อนเธอถึงเห็นเฟิงหานชวนตรวจงานจัดการประชุมที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้?
“อาเฟิงของเธอเก่งกาจมาก!” หลินอวี่หยางกล่าวด้วยความชื่นชม: “ในตอนแรก ห้างสรรพสินค้าอวิ๋นตวนของตระกูลเฟิงถูกส่งต่อจากนายท่านเฟิงให้อยู่ในมือของเฟิงเจิ้งหมิงและเฟิงเจิ้งซวินสองพี่น้อง เป็นห้างสรรพสินค้าแรกๆในยุคต้น ค่อยๆล้มลงและ ถูกห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใหม่แซงหน้า ผลประกอบการแย่มาก...…”
“แล้วยังไงต่อ?” เฉินฮวนฮวนถามอย่างไม่ลดละ
“หลังจากนั้น ก็เป็นอาเฟิงของบ้านเธอออกโรง” หลินอวี่หยางดูชื่นชมอย่างมาก พยักหน้าและพูดต่อว่า “ว่ากันว่าลุงทั้งสองคนขอความช่วยเหลือจากอาเฟิง เดิมทีอาเฟิงไม่อยากสนใจเรื่องของตระกูลเฟิง แต่ต่อมาก็ช่วยเหลือ ภายใต้การแนะนำของอาเฟิง ห้างสรรพสินค้าอวิ๋นตวนฟื้นคืนชีพอีกครั้ง และก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของการจัดอันดับห้างสรรพสินค้า และสร้างสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์"
“ว้าว......” เฮินฮวนฮวนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาขณะที่เธอฟังคำอธิบายของหลินอวี่หยาง
เธอคิดไม่ถึงว่าเฟิงหานชวนไม่ได้เก่งกาจเหมือนที่เธอคิดไว้ แต่เก่งกว่าที่เธอคาดคิดไว้มาก
“แปลกใจขนาดนี้เลย ดูเหมือนว่าเธอจะรู้เรื่องอาเฟิงน้อยเกินไป!” หลินอวี่หยางเม้มริมฝีปากและถามอย่างสงสัย: “ฉันดูจากท่าทางของเขา เดาว่าเขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องพวกนี้กับเธอ ถ้าเธอสองคนคบหากัน คุยเรื่องอะไรกันบ้างนะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย