“เลิกกันแล้ว?” เฉินฮวนฮวนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
นี่เธอเข้าใจผิดหรือเปล่า
แต่ว่า ไม่กี่วันก่อนหลิ่วเยว่เอ่อร์ยังถามเธออยู่เลยว่า ควรเลิกกับเกาจวิ้นเซวียนไหม ตอนนั้นเธอแค่แนะนำหลิ่วเยว่เอ่อร์ให้ทำตามหัวใจตัวเอง
แต่เธอไม่คิดว่า ทั้งสองคนจะเลิกกันเร็วขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เกาจวิ้นเซวียนมีแฟนใหม่แล้ว?
“ใช่ค่ะ รุ่นพี่ อาเซวียนเลิกกับหลิ่วเยว่เอ่อร์แล้ว พี่เป็นเพื่อนของหลิ่วเยว่เอ่อร์ใช่ไหม ตอนนี้พี่ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องของพวกเรานะคะ เมื่อกี้พี่ทำพวกเราตกใจหมดเลย!” เฉินเสี่ยววานมองไปยังเฉินฮวนฮวน แม้ว่าสีหน้าของเธอดูไม่ค่อยพอใจนัก ทว่าน้ำเสียงสะบัดสะบิ้งเป็นพิเศษ
คิ้วของเฉินฮวนฮวนขมวดเข้าหากัน มองคู่รักหนุ่มสาวที่หวานชื่นต่อกันตรงหน้า และเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “พวกเธอรู้จักกันตอนไหน”
“รู้จัก?” เฉินเสี่ยววานนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองชายหนุ่มข้างๆ ก่อนจะกล่าวกับเกาจวิ้นเซวียนอย่างออดอ้อน “ฉันกับรุ่นพี่เซวียนรู้จักกันที่ชมรมค่ะ ช่วงเปิดเทอมตอนนั้น”
เปิดเทอมตอนนั้น?
ถ้าอย่างนั้นก็หนึ่งเดือนกว่าแล้ว
เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นยิ่งกว่าเดิม เพิ่งจะเลิกราก็คบกับแฟนใหม่แล้ว เกาจวิ้นเซวียนก็เริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่เลย
ถ้าบอกว่าเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับรุ่นน้องคนนี้มาก่อน เธอไม่เชื่อเลยจริงๆ
“เกาจวิ้นเซวียน นายไม่ละลายใจต่อเยว่เอ่อร์เลยเหรอ นายคบซ้อนใช่ไหม” เฉินฮวนฮวนไม่ยอม และถามเขาขึ้นว่า “เยว่เอ่อร์ป่วยอยู่โรงพยาบาล นายกลับมาสวีทกับแฟนใหม่ เธอสิ้นเปลืองเวลาอยู่กับนายมาหนึ่งปี ผลที่ได้กลับมาเป็นแบบนี้เหรอ”
เธอยังจำได้ว่าหลิ่วเยว่เอ่อร์บ่นกับเธอ บอกว่าเกาจวิ้นเซวียนไม่ใส่ใจเธอ ยิ่งกว่านั้นเขายังไม่ชอบงานพาร์ทไทม์ของเธออีกด้วย
คาดว่าหลิ่วเยว่เอ่อร์สังเกตเห็นเกาจวิ้นเซวียนและเฉินเสี่ยววานตั้งนานแล้ว ดังนั้นช่วงนี้เธอถึงได้อารมณ์ไม่ดีขนาดนี้ ยิ่งกว่านั้นเธอยังโมโหจนล้มป่วยไปเลย
“เฉินฮวนฮวน ฉันกับหลิ่วเยว่เอ่อร์เลิกกันด้วยดี ไม่เชื่อก็ไปถามหลิ่วยว่เอ่อร์!” เกาจวิ้นเซวียนไม่เพียงแต่ไม่โกรธ ทว่าใบหน้าของเขายังแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
ในความคิดของเขา เฉินฮวนฮวนที่ออกหน้าแทนหลิ่วเยว่เอ่อร์ ก็เหมือนกับคนโง่คนหนึ่ง คนโง่ที่ถูกซื้อไปแล้วยังนับเงินแทนอยู่อีก*
“ถึงจะเลิกกันด้วยดี นั่นก็เพราะเธอท้อแท้ใจกับนายไง ไม่อยากอยู่กับนายแล้ว เธอผิดหวังในตัวนายมาก!” เฉินฮวนฮวนเห็นว่าเกาจวิ้นเซวียนไม่เพียงแต่ไม่สำนึกผิด ทว่าเขาก็ยังยิ้มได้ ทันใดนั้นเอง ความเดือดดาลเกรี้ยวกราดก็ยิ่งพลุ่งพล่านออกมา
ในตอนนี้เอง เฉินเสี่ยววานรีบก้าวเข้าไปขวางหน้าเกาจวิ้นเซวียน เธอจ้องเฉินฮวนฮวนอย่างโกรธเคือง และกล่าวขึ้นอย่างเหลืออด “พี่คิดว่าเธอเป็นใครกัน อาเซวียนกับหลิ่วเยว่เอ่อร์จบกันด้วยดี พี่ยังจะวุ่นวายอะไรอีก หรือว่า พี่ชอบอาเซวียน? เห็นเขาอยู่กับฉันไม่ได้เหรอ”
ความน่ารักน่าเอ็นดูที่เฉินเสี่ยววานแสดงออกมาตั้งแต่แรกก็พังทลายลงในทันที เธอกล่าวเหน็บแนมทุกประโยค ราวกับนักเลงตัวน้อย
“ฉันชอบเกาจวิ้นเซวียน?” จู่ๆ เฉินฮวนฮวนรู้สึกขบขันขึ้นมา เธอโต้แย้งกลับทันที “ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนเธอนะ ชอบผู้ชายสำส่อนแบบนี้”
เธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องพัวพันกับชายหญิงสำส่อนคู่นี้อีกต่อไป เธอหันหลังเตรียมจะเดินออกไป ทว่าถูกเกาจวิ้นเซวียนเรียกไว้อีกครั้ง
“เฉินฮวนฮวน!”
เฉินฮวนฮวนหันกลับมา ใบหน้าที่เดือดดาลของเขากำลังมองเธออยู่
“เธอจะเสียใจทีหลัง” เมื่อเกาจวิ้นเซวียนกล่าวประโยคนี้จบ เขาก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะนั้นเต็มไปด้วยความลำพองใจ
เฉินฮวนฮวนโกรธจนแทบอยากจะเข้าไปทุบเขาให้ตาย เสียงหัวเราะของเกาจวิ้นเซวียน ทำให้เธออยากจะอาเจียนออกมา
เธอจ้องเขม็งไปยังชายหนุ่ม เฉินฮวนฮวนรีบสาวเท้าออกจากโรงอาหาร ไม่อยากรู้สึกถึงบรรยากาศขุ่นมัวอีกต่อไป
หลังจากเฉินฮวนฮวนเดินไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเกาจวิ้นเซวียนพลันหายไปทันที
“อาเซวียน เมื่อกี้นายบอกว่าเธอจะเสียใจทีหลัง หมายความว่ายังไง” เฉินเสี่ยววานไม่เข้าใจ เธอรู้สึกว่าวันนี้เกาจวิ้นเซวียนค่อนข้างแปลกไปจากที่เคย
“ฉันหมายถึง เธอด่าฉันขนาดนี้ เธอจะต้องเสียใจทีหลัง!” เกาจวิ้นเซวียนอธิบายอย่างคลุมเครือ
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย