“ไม่เลวหนิ ตรงเวลามาก ฉันคิดว่าเธอจะมาสายแล้วเสียอีก!”
อันหรันเดินผ่านไป ทันเหว่ยดึงโซฟาออกมาให้ไว้ให้อันหรันเรียบร้อยแล้ว และทำท่าทางที่เป็นมิตร
บริกรเดินมาถามเธอว่าต้องการเครื่องดื่มอะไร
อันรันเหลือบมองไปรอบๆ แล้วจึงสั่ง คาราเมลมัคคิอาโต้หนึ่งแก้ว
เธอมองไปที่ทันเหว่ยที่อยู่ด้านหน้าของเธอ ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอจะเต็มไปด้วยความสดใส แต่ไม่รู้ว่าทำไมอันหรันถึงรู้สึกว่าทันเหว่ยมีเรื่องอะไรอยู่ภายในใจ
“ครั้งนี้ที่เธอเรียกฉันมา มีเรื่องอะไรไหม?” อันหรันเป็นคนเริ่มตั้งถามคำถาม
ทันเหว่ยยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “แค่นัดเจอเพื่อนเก่า ต้องมีเรื่องอะไรด้วยหรอ?”
อันหรันเม้มริมฝีปากแล้วส่ายหน้า “ไม่จำเป็น ดีแล้วที่เราได้ออกมาทานข้าวด้วยกันอีกครั้ง”
ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้ม นึกถึงช่วงเวลาที่ดีตอนที่พวกเขาอยู่ในโรงเรียน
คุยกันได้สักพัก บริกรก็นำกาแฟมาเสิร์ฟ
ตอนนั้นอันหรันสังเกตเห็นทันเหว่ยที่กำลังหยิบกาแฟ มือของเธอสั่นเล็กน้อย
สำหรับคนปกติทั่วไป แค่ยกแก้วกาแฟเบาๆทำไมมือต้องสั่นด้วย
เธอขมวดคิ้วแล้วถามออกไปว่า “แขนของเธอไปโดนอะไรมา?”
ทันเหว่ยตกใจ แล้วพูดออกมาด้วยเสียงเบาๆว่า “เมื่อวานไม่ได้ระวังเลยไปชนกับอะไรสักอย่างเข้า”
แน่นอน ที่แขนเธอเป็นแบบนี้ เป็นเพราะเมื่อคืนหลังจากที่ฮัวเส้าซู่เปลี่ยนท่า เขาดึงแขนของเธอไว้และใส่เข้าไปอย่างเต็มแรง
อันหรันมีเรื่องไม่สบายใจ เธอลังเลว่าควรจะถามทันเหว่ยไปตรงๆเลยหรือเปล่า
เนื่องจากวันนี้ตอนที่เธอกำลังจะออกมา โทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวนอนของฮั่วเทียนหลันมันสว่างขึ้นและเธอก็เห็นข้อความที่ส่งมา
ในข้อความนั้นมีชื่อของฮัวเส้าซู่และทันเหว่ย อันหรันไม่ได้โง่ เธอก็เป็นผู้หญิงที่ฉลาดคนหนึ่ง เธอเกือบจะเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้
และเมื่อเอามารวมกับเมื่อคืนวานที่ฮัวเส้าซู่ไม่ได้กลับบ้าน นั่นก็แสดงว่าเขากับทันเหว่ยอยู่ด้วยกัน
แต่ด้วยนิสัยของฮัวเส้าซู่ อันหรันที่เป็นพี่สะใภ้ของเขา ก็เข้าใจดีเหมือนกัน
สำหรับผู้ชายคนนี้ ทำไปก็เพื่อความสนุกเท่านั้น
“ทันเหว่ย ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอสักหน่อย” สุดท้ายอันหรันก็ตัดสินใจที่จะถามออกไป เธอไม่สามารถทนดูเพื่อนสนิทของเธอเดินไปในเส้นทางที่ผิดได้ไกลกว่านี้แล้ว
ทันเหว่ยมองไปที่อันหรันด้วยความประหลาดใจ หัวใจของเธอสั่นไหว และทันใดนั้นเธอก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
“พูดออกมาได้เลย!”
“ตอนนี้เธอกำลังคบกับฮัวเส้าซู่ใช่ไหม?” อันหรันถาม
หลังจากที่พูดจบ เธอก็จ้องไปที่หน้าของทันเหว่ยอย่างจริงจัง
แม้ว่าใบหน้าของเธอจะสงบเหมือนปกติ แต่แววตาของเธอนั้นกลับมีอะไรหลบซ่อนไว้ และมันทำให้อันหรันรู้ว่าเธอมีเรื่องอะไรปิดบัง
อันหรันถอนหายใจออกมา และยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ทันเหว่ยก็พูดขึ้นมาว่า “หรันหรัน เธอไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันเข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่”
ทันเหว่ยกับฮัวเส้าซู่อยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องที่เธอจงใจให้เกิดขึ้น
ตระกูลทันต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลฮั่ว ถึงแม้ว่าที่มาอยู่กับฮัวเส้าซู่จะช่วยอะไรเธอได้เล็กน้อยก็ตาม
แต่ตระกูลทันมอบคำสั่งอย่างเด็ดขาดออกมา คือสั่งให้ทันเหว่ยเปลี่ยนฮัวเส้าซู่ให้กลายเป็นบ่อเงินบ่อทองของตระกูลทัน
และการที่จะทำให้เห็นผลดีที่สุด ก็คือการทำให้ฮัวเส้าซู่ได้เป็นผู้นำคนถัดไปของตระกูลฮั่ว
อันหรันอ้าปากค้าง เธออยากจะพูดออกมาเป็นพันๆคำ แต่ก็ย่อออกมาให้เหลือสั้นที่สุด “เธอต้องคิดให้ดีนะ ฮัวเส้าซู่ไม่ได้สนใจที่จะมาเป็นผู้นำของตระกูลฮั่ว”
อันหรันไม่กล้าพูด ว่าเธอเป็นคนที่เขาใจฮัวเส้าซู่มากที่สุด แต่สำหรับคนของตระกูลฮั่วแล้ว หลี่รูยาเป็นคนที่เข้าใจนิสัยของผู้ชายคนนี้มากที่สุด รองลงมาก็คือเธอ
ทันเหว่ยดื่มกาแฟที่เธอถือไว้จนหมด จึงพูดออกมาว่า “พอได้แล้ว ไม่คุยเรื่องพวกนี้แล้ว ที่ฉันนัดเธอออกมา ตอนแรกก็แค่อยากจะมาพบปะกันธรรมดา ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปเดินเล่นกัน”
อันหรันตอบตกลง ทั้งสองคนเดินออกจากร้านกาแฟ และโจวหยวนที่อยู่อยู่แถวนั้นจึงตรงเข้ามาถามกับอันหรันว่า “คุณนายจะไปไหนหรอครับ?”
หลังจากอันหรันบอกถึงสถานที่ที่เธอจะไป หลิงหยูก็เปิดประตูรถ จากนั้นก็เชิญพวกเธอทั้งสองคนขึ้นรถไป
หลังจากมาถึงที่หมาย เดินออกมาจากหลิงหยู ทันเหว่ยก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่ได้ตาฝาดไปไหม นั่นคือผู้ช่วยส่วนตัวของฮั่วเทียนหลันใช่ไหม?”
อันหรันพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า “ฮั่วเทียนหลันให้เขามาดูแลฉัน”
“ไม่ไว้ใจฉัน?” ทันเหว่ยพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
อันหรันทำเหมือนว่าเธอเป็นใบ้ทันที และเธอก็รู้สึกว่า วันนี้ทันเหว่ยยากที่จะรับมือ อันหรันจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินต่อไป
“เธอดูชุดนี้สิ สวยมากเลย และมันก็เข้ากับสีผิวของเธอมาก” อันหรันหยิบเสื้อผ้าตัวนั้นยื่นไปให้ทันเหว่ย ทำให้ทันเหว่ยพูดไม่ออก
คนขายเสื้อผ้าพูดเสริมออกมาว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้มีผิวขาวเนียน และรูปร่างของเธอก็ดีเอาเสียมากๆ ซึ่งเหมาะกับชุดนี้มาก”
ทันเหว่ยไม่ได้ไปลองเสื้อผ้าชุดนั้น เธอหันไปมองที่กระจก เห็นอันหรันกำลังใส่เสื้อที่เธอเพิ่งจะเลือก มองดูแล้วไม่เลวเลย
ดังนั้นเธอจึงให้พนักงานขายเสื้อผ้าเอาชุดไปคิดเงิน แต่พนักงานยังเดินออกไปไม่ถึงสองก้าวก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังว่า “เสื้อผ้าชุดนี้ฉันจองเอาไว้แล้ว ทำไมถึงยังเอาออกมาขายอีกหละ?”
พนักงานตกใจ แต่เธอก็ทราบดีว่าเสียงของคนที่พูดนั้นคือลูกค้าประจำของทางร้าน ดังนั้นเธอจึงตอบกลับอย่างไม่สะดวกใจ “คุณฉินคะ เสื้อผ้าชุดนี้ถูกคุณผู้หญิงท่านนี้ซื้อไปแล้วค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง