ฮัวเส้าซู่พยายามที่จะพาตัวฮั่วเทียนหลันออกไป แต่ฮั่วเทียนหลันก็ไม่ยอมตามเขาไป
เขาพยายามทำมันอยู่หลายครั้ง จนเกือบจะถูกฮั่วเทียนหลันฟาดด้วยขวดเหล้า
ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เขาทำได้แค่โทรหาหมิหงเหวิน
หมิหงเหวินเป็นนักเรียนแพทย์ พอเรียนจบมาก็มารับกิจการต่อจากพ่อ และเขาก็ยังเปิดโรงพยาบาลเพื่อเป็นงานอดิเรกของเขา
หมิหงเหวินได้ยินว่าฮั่วเทียนหลันได้รับบาดเจ็บ เขาก็ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ก็มาถึงที่
“เกิดอะไรขึ้น? ฮั่วเทียนหลันได้รับบาดเจ็บ?” หมิหงเหวินเดินเข้าประตูมาได้ไม่นานก็เอ่ยปากถาม
ฮัวเส้าซู่ทำท่าทางให้หมิหงเหวินเงียบๆ และในตอนนั้นหมิหงเหวินก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าฮั่วเทียนหลันนอนอยู่บนโซฟา และเหมือนกับว่าเขาจะหลับไปแล้ว
“พี่เหวิน คืนนี้ต้องรบกวนพี่แล้ว” ฮัวเส้าซู่กระซิบออกมา หมิหงเหวินเดินมาอยู่ตรงหน้าของฮั่วเทียนหลันแล้ว
เห็นว่าฮั่วเทียนหลันดื่มจนเมาขนาดนี้ มันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย
เขาเพิ่งเคยเห็นฮั่วเทียนหลันอยู่ในสภาพแบบนี้ครั้งแรก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกมา ฮัวเส้าซู่ส่ายหน้าพร้อมตอบกลับไปว่า “ผมก็ไม่รู้ เขาโทรมาหาผม ให้ผมมาดื่มเหล้าเป็นเพื่อน แต่ตอนที่ผมมาถึง เขาก็เป็นแบบนี้แล้ว แต่ที่ฟังจากที่เขาพูดออกมา เหมือนจะมีปัญหาในเรื่องของความรัก”
ปัญหาด้านความรัก? ฮัวเส้าซู่และหมิหงเหวินจินตนาการออกมาเป็นภาพเดียวกัน คือฮั่วเทียนหลันกำลังสารภาพรักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ตะโกนออกไปดังๆว่า ‘ฉันรักเธอ’ แต่ถูกกลับเธอปฏิเสธกลับมาอย่างไม่มีเยื่อใย
หมิหงเหวินพูดอะไรไม่ออก เขามองไปที่ฮั่วเทียนหลันด้วยความลำบากใจจากนั้นเขาก็เอามือไปเปิดกล่องยา
เขาฉีดยาชาให้กับฮั่วเทียนหลันก่อน หลังจากนั้นเขาก็เริ่มรักษาบาดแผลให้
ยังดีที่บาดแผลไม่ลึกมาก ใช้เวลาไม่นานมาก แค่ครึ่งชั่วโมงก็เรียบร้อยแล้ว
ฮัวเส้าซู่จึงยื่นบุหรี่ไปออกไปหนึ่งมวล หมิหงเหวินก็ยื่นมือออกมารับและหยิบเข้าปากไป
เมื่อสูดเข้าไปหนึ่งลมหายใจ ก็ได้ยินเสียงที่ฮัวเส้าซู่พูดออกมา “พี่เหวิน พี่คิดว่าพี่ชายของผมกับพี่สะใภ้เขาเหมาะสมกันไหม?”
หมิหงเหวินรู้สึกประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมฮัวเส้าซู่ถึงถามคำถามนี้ออกมา
เขาคิดอยู่สักพักแล้วพูดออกมาว่า “พี่สะใภ้ของนายควรจะอ่อนโยนกว่านี้อีกนิดหนึ่ง และเธอไม่ได้มีเสน่ห์เหมือนกับมู่เหว่ย”
ในมุมมองของหมิหงเหวิน นั่นเป็นแค่คำยินยอ เซา (แพรวพราวไปด้วยเสน่ห์เผื่อดึงดูดผู้ชาย)
ฮัวเส้าซู่เขาเพิ่งจะเรียนรู้คำมาใหม่หนึ่งคำ เขาไม่เรียกมู่เหว่ยว่ามู่เหว่ยอีกต่อไปแล้ว เขาเรียกเธอว่าเซาเหว่ย
ชื่อนี้เขาได้แรงบันดาลใจมาจากหมิหงเหวิน
“ไม่รู้ว่าพี่ชายของผมเป็นอะไรไป ถึงได้ไปชอบเซาเหว่ยคนนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้คงต้องเกี่ยวข้องกับเธอแน่ๆ”
ฮัวเส้าซู่พูดออกมาด้วยความโศกเศร้า เขาส่งข้อความไปหาอันหรันทางวีแชทสิบกว่าครั้ง แต่อันหรันไม่ตอบกลับมาสักครั้งเดียว
“นี่เป็นปัญหาส่วนตัวของพี่ชายนาย ฉันแนะนำว่านายไม่ควรยื่นมือเข้ามายุ่ง”
หมิหงเหวินเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากกว่าฮัวเส้าซู่ สำหรับเรื่องนี้ใครจะมาพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากให้พวกเขาจัดการกันเอง
ฮัวเส้าซู่ถอนหายใจออกมายาวๆ หลังจากสูบบุหรี่เสร็จ เขากำลังเตรียมที่จะหยิบมวลต่อไปขึ้นมา แต่หมิหงเหวินก็มาแย่งซองบุหรี่ที่อยู่ในมือของเขาไป
“นายคิดจะดูบุหรี่ให้หมดซองและมองดูพี่ชายของนายนอนอยู่บนโซฟา? มาช่วยฉันยกพี่ชายของนายไปที่โรงพยาบาลของฉัน”
หมิหงเหวินกลัวว่าแผลของฮั่วเทียนหลันจะอักเสบขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงอยากที่จะนำตัวของฮั่วเทียนหลันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสักหน่อย
ฮัวเส้าซู่มองมาที่มือที่ว่างเปล่าของตัวเอง เขาจึงรีบไปช่วยหมิหงเหวินจัดการกับเรื่องนี้
ตอนที่พวกเขาทั้งสองยกร่างของฮั่วเทียนหลันขึ้น จางเหยาที่กำลังมองอยู่หน้าประตูจึงรีบวิ่งเข้ามาถาม “พวกคุณต้องการให้ฉันช่วยอะไรไหม? กำลังจะไปโรงพยาบาลกันหรอ?”
ฮัวเส้าซู่มองไปที่จางเหยา ตอนนี้จางเหยารู้ว่าตัวเองพูดมากพอแล้ว
“ฉันสามารถช่วยพวกคุณเรียกรถ.....”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง